วางแผนเที่ยว บุฟเฟ่ต์ผลไม้ ที่ระยอง จันท์ ตราด

เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่ผลไม้ภาคตะวันออก ทั้งเงาะ มังคุด สละ ลองกอง ทุเรียน ฯลฯ ออกลูกออกผลกันละลานตา

ไม่ว่าจะขับรถผ่านไปเส้นทางไหน ทั้งระยอง จันทบุรี ตราด สองข้างทางก็เต็มไปผลไม้สีสันน่ากินมากมาย? เห็นแล้วก็ชวนน้ำลายสอเป็นที่สุด

ยิ่งเดี๋ยวนี้สวนผลไม้หลายแห่งทั้งในทั้งระยอง จันทบุรี ตราด เขาเปิดสวนผลไม้ของตัวเองเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามโครงการอร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน พร้อมปลุกกระแสบุฟเฟ่ต์ผลไม้ กินได้ไม่อั้นในราคาหัวละตั้งแต่ 99 บาท 199 บาท หรือมากน้อยกว่านั้น ก็ขึ้นอยู่กติกาของสวนแต่ละแห่ง

ในช่วงที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวสวนผลไม้กันเป็นจำนวนมาก บ้างก็ไปตามกระแสโปรโมทบ้าง บ้างก็ไปเพราะคิดว่าอยากไปกินผลไม้สดๆ จากต้น เก็บผลไม้รสเริ่ดกับมือ หรือไม่ก็แชะรูปเก๋ๆ กันสักหน่อย

แต่เมื่อไปถึงแล้ว กลับพบว่า ความจริงกับความฝันมันช่างตรงกันข้ามซะเหลือเกิน บุฟเฟ่ต์สวนผลไม้บางแห่งไม่ได้ดีงามเลอค่าเหมือนอย่างกับที่โปรโมทกันซะเริ่ดหรู และบางคนก็ต้องบอกว่า #ร้องไห้หนักมาก เพราะเจอกับเรื่องที่น่าผิดหวังมากมาย ที่บรรยายสามหน้ากระดาษก็คงไม่หมด

เอาเป็นว่า หากนักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวสวนผลไม้ภาคตะวันออก และอร่อยไม่อั้นกับบุฟเฟต์ผลไม้แบบไปแล้วไม่ผิดหวัง ไม่โดนลวง เรามีข้อควรรู้และข้อแนะนำก่อนไปเที่ยวเที่ยวสวนผลไม้เหล่านี้มาฝากกัน

1. โทร.ไปสอบถามราคาค่าเข้าชมสวนก่อนเดินทางไปกันสักหน่อย ก่อนวางแผนไปเที่ยวสวนผลไม้ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ไม่ว่าจะเป็นบรรดาสวนเด่นสวนดังในจังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด แนะนำว่า ควรโทร.ไปสอบถามราคาค่าเข้าชมให้เรียบร้อย ว่าเปิดให้เข้าชมกี่โมงถึงกี่โมง เที่ยวได้นานกี่ชั่วโมง เก็บและกินผลไม้อะไรในสวนได้บ้าง ผู้ใหญ่คิดราคายังไง คิดเด็กราคากี่บาท

เพราะราคาเข้าชมสวนบางสวนอาจเปลี่ยนแเปลงได้จากหน้าเว็บไซต์ หรือข่าวที่คุณอ่าน แต่ถ้าไม่คิดมาก คิดว่าพาตัวเองหรือครอบครัวไปเที่ยว ไปเปิดหู เปิดตา เห็นต้นไม้ ผลไม้สดๆ จากต้น ก็ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวเรียนรู้ที่น่าสนุกอีกแบบหนึ่งเลยทีเดียว

2.เช็คว่าตอนนี้มีผลไม้ออกบ้าง และเก็บกินได้บ้างแล้ว ต้องเข้าใจว่าบรรดาผลไม้ในสวนแต่ละแห่ง จะสุกไม่พร้อมกัน นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวแล้วคาดหวังว่าจะได้เดินเที่ยวเดินเก็บ เงาะ มังคุด สละ ลองกอง ทุเรียนสดๆ จากต้น หรือได้ถ่ายรูปกับผลไม้แบบใกล้ชิดติดตาเหมือนอย่างที่ใครๆ เขาอัพขึ้นโซเชียล ก็อาจต้องผิดหวังเสียใจไปตามๆ กัน

บางทีเข้าไปสวนแล้วดันเจอกับเงาะสีเขียวเต็มต้น มังคุดลูกเล็กเท่าไข่ไก่ ลองกองหายไปไหน อ้าว! ทุเรียนอยู่บนยอด โอ๊ย! กลายเป็นว่า ไปแล้วอยากร้องไห้หนักมาก ทำไม่สิ่งที่เจอ ไม่เหมือนกับที่มโนไปก่อนสักนิดเลย ถ้าไม่อยากพลาดอย่างแรงส์เช่นนี้ ยังไงเช็คกับเจ้าของสวนก่อนไปดีที่สุด

3.จ่ายเงินแล้ว กินไม่คุ้ม! ใครที่คิดว่าไปถึงสวนผลไม้แล้วฉันจะได้กินทุเรียนให้สะใจ กินแบบลืมน้ำหนัก กินให้พุงกาง อ้อ! บอกเลยว่า เตรียมใจไว้บ้างก็ดีนะจ๊ะ เดี๋ยวนี้สวนต่างๆ นอกจากจะกำหนดชั่วโมงกินบุฟเฟ่ต์แล้ว สวนดังๆ หลายแห่งบางครั้งไปแล้วอาจจะเจอกรณีทุเรียนหมด มังคุดเจอแต่ลูกเล็กๆ หรือเหลือก้นกระจาดให้กินแค่นิดหน่อย โดยที่จ่ายเงินเข้าไปแล้ว แต่มารู้ตัวหลังว่า ไม่มีอะไรเหลือให้กินเลยสักนิด!

เหตุการณ์แบบนี้หลายคนเจอมาแล้วกับตัว ยิ่งในช่วงที่คนแห่แหนไปเที่ยวไปกินบุฟเฟ่ต์ผลไม้แบบถล่มทลาย แล้วผลไม้ที่สวนเหล่านั้นเตรียมไว้โดนกินหมดไปตั้งแต่เช้า คนที่ไปทีสายๆ หรือไปบ่าย ก็ต้องกินของที่เหลือแบบไม่รู้ตัว ซึ่งมีตัวเลือกให้กินไม่มากนัก

อีกทั้งบางสวนก็ใช่ว่าจะมีผลไม้เพียงพอต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากซะเมื่อไหร่ ส่วนมากก็รับซื้อจากชาวสวนรอบๆ พื้นที่อีกทีแล้วนำมาวางให้กินกัน ซึ่งพอหมดแล้ว นักท่องเทียวที่ไปทีหลังก็ต้องบอกว่าถึงจะได้กิน แต่ไม่คุ้มค่ากับเงินอย่างแน่นอน หรือเข้าไปในสวนแล้วจะกินแต่เงาะอย่างเดียว ไหวมั๊ยอ่ะตัวเอง

ฉะนั้น ถ้าไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้ ควรไปถึงสวนแต่เช้าตรู่ ตั้งแต่ประมาณ 8.00-10.00 คือไปก่อนคนอื่นๆ ไปก่อนทัวร์ ถ้าไปหลังจากนี้ บอกเลยว่า ไม่รับรองว่า จะได้กินผลไม้อร่อยๆ มากมาย อย่างที่คุณคาดหวังไปหรือเปล่า

4.สอบถามราคาผลไม้ก่อนหิ้วออกจากสวน ข้อนี้หลายคนคงเจอกับตัวมาแล้ว ที่ผลไม้ในสวนบางชนิดราคาแพงกว่าร้านขายผลไม้ริมทางทั่วๆ ไป

บางทีนักท่องเที่ยวเข้าไปในสวนก็เก็บๆ จากต้นกันใหญ่ คิดว่าถ้าเอาไปผลไม้จากสวนไปเป็นของฝากคนทางบ้านมันดูโก้เก๋ซะไม่มี

แต่พอเอามาจากสวนและช่างกิโล โอ้ว! แม่เจ้า ทำไมราคามันแพงเช่นนี้ ก่อนซื้อ ก่อนเด็ด ไถ่ถามราคาจากสวนกันสักนิด จะได้ไม่หิ้วของแพงกลับบ้านให้ชอกช้ำกะหล่ำปลีกันนะจ๊ะ

5.ระวังเจอทุเรียนอ่อน เจอผลไม้หลอกขาย บอกเลยใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัว จะรู้สึกเหมือนโดนทุเรียนหมอนทองลูกละสิบโลปาเข้ามาใส่หน้ากลางวันแสกๆ

ทำไมน่ะเหรอ! ก็หลายคนไปเที่ยวสวนทุเรียนทั้งที ก็คิดว่าถ้าซื้อทุเรียนจากสวนกลับบ้าน จะได้ทุเรียนแก่รสชาติหอม หวาน มันอร่อย เหมือนกับที่เขาแกะให้กินแบบที่สวน เพราะเชื่อว่ามาถึงสวนแล้ว ยังไงก็คงไม่โดนหลอก!

แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ทุกสวนที่เราไป เพราะบางสวนอยากขายซะเหลือเกิน นึกถึงปริมาณ มากกว่าคุณภาพ เอาทุเรียนที่ยังไม่แก่จัดมาวางขาย ตอนเราซื้อ ทางสวนก็เคาะ ก็แงะ เปิดเนื้อทุเรียนให้ดู ให้กด นิ่มไปไหม ห่ามหรือเปล่า แต่พอหิ้วกลับไปถึงบ้าน กลับพบว่า เนื้อข้างนอกนิ่มจริง แต่ข้างในแข็งเป็นไต เนื้อเป็นแป้ง กินเข้าไปคงท้องอืดท้องเฟ้อเป็นแน่ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเจอเหตุการณ์แบบนี้มาบ้าง

ฉะนั้นถ้าไม่อยากเสียเงินฟรีๆ และได้ทุเรียนอ่อนกลับบ้าน ก็ให้ทางสวนแกะและห่อใส่ถุงกลับบ้านจะดีกว่า

มีเวลาลองกินตรงนั้นสักพูนึง กินให้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่าทุเรียนอร่อยจริง ซึ่งคุณก็จะพอเดาได้ว่า ทุเรียนลูกนั้นอ่อนหรือแก่ หรือผลไม้ที่วางขาย รสชาติเป็นอย่างไร

อย่ามัวแต่ฟังคำโฆษณาหรือเชื่อสวนมากเกินไป เดี๋ยวจะพาลให้เสียเงินฟรีๆ แบบไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตาม ไปเที่ยวแล้ว เสียเงินแล้ว ก็วางแผนกันให้ดีก่อนออกเดินทางกันสักนิด จะได้เที่ยวสวนผลไม้กันแบบสนุก และประทับใจกันทุกๆ ปี