วิธีจีบผู้ชายสเตปที่ 1

มีผู้หญิงหลายคนที่รอให้ผู้ชายมาจีบ แต่หากรอแล้วเค้าไม่รู้และไม่มาจีบสักทีละทำไง มัวแต่รอเขาคนนั้นก็คงไปไหนต่อไหนแล้ว เมื่อคุณพบรักแล้วก็ไม่ควรปล่อยความรักหลุดลอยไป ดังนั้นวันนี้เราจะเสนอเคล็ดลับที่ผู้หญิงจีบผู้ชายก่อนให้ดู

กลยุทธ์ที่ 1 ปิดฟ้าข้ามทะเล ขโมยหัวใจไม่ทิ้งร่องรอย

คนเรามักไม่ระแวงสิ่งที่พบเห็นเป็นประจำ แผนร้ายมักซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่สะดุดตา กลยุทธ์นี้ใช้ในการสร้างสถานการณ์ให้ดูเป็นปกติเพื่อให้อีกฝ่ายประมาท มองข้าม จากนั้นจึงจู่โจมเอาชัย

คนเรามักจะเคยชินกับสภาพหรือเรื่องราวต่าง ๆ จากความเคยชินก็กลายเป็นขาดไม่ได้ ถ้าอยากให้คนที่คุณหมายปองสนใจคุณ ควรสร้างสัมพันธ์โดยเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน เพื่อให้อีกฝ่ายเคยชินกับที่มีคุณอยู่ด้วย จนวันหนึ่งเมื่อไม่มีคุณ เขาก็จะเริ่มรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่าง ขอแสดงความยินดีด้วย นี่แสดงว่าคุณสามารถขโมยหัวใจเขาสำเร็จแล้ว

คุณคงเคยได้ยินนิทานที่เล่าต่อ ๆ กันว่ามีหนุ่มน้อยคนหนึ่งแอบรักสาวน้อย ทุกวันเขาจะรีบตื่นแต่เช้าให้ทันขึ้นรถประจำทางคันเดียวกับเธอ เพื่อจะได้นั่งเคียงข้างเธอ เรื่องนี้มีหลายเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นซึ้งจะเล่าว่าสาวน้อยคนนั้นก็สนใจเขาเช่นกัน ทั้งสองเริ่มคุ้นเคยกัน สุดท้ายจบลงด้วยความรักแต่ในเวอร์ชั่นเศร้าจะเล่าว่าสาวน้อยเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ นอกจากนั้นเธอยังมีคนอื่นอยู่ในใจแล้วไม่ได้สนใจหนุ่มน้อยเลย ปล่อยให้เขาคิดเสียดายไปตลอดชีวิต

ปัจจุบันนี้เราอยู่ในวัฒนธรรมฟาสต์ฟู้ด ความรักความใคร่มาเร็วไปไว นิทานเรื่องนี้แม้จะธรรมดา แต่ทำให้เข้าใจลักษณะของคนเรา นั่นคือ มักไม่ใส่ใจเรื่องที่เคยชิน ด้วยเหตุนี้คนรุ่นหลังจึงอธิบายบทกวี ?ศาลาริมน้ำย่อมได้ชมจันทร์ก่อน? ว่า ?อยู่ใกล้อะไรก็มีโอกาสให้ได้ประโยชน์จากสิ่งนั้น? ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ ?ปิดฟ้าข้ามทะเล? ที่กล่าวว่า ?คนเรามักไม่ระแวงสิ่งที่พบเห็นเป็นประจำ? หากเข้าใกล้อีกฝ่ายโดยไม่ให้เขาระแวงได้ ก็จะบรรลุผลตามที่ต้องการ

ความรักไม่ได้หล่นจากฟ้า ผู้หญิงยุคใหม่ไม่พอใจแค่มีคนมาชอบ แต่กล้าที่จะไขว่คว้าหาความรัก เมื่อพบคนที่ถูกใจและอยากใกล้ชิดเขา วิธีที่ดีที่สุดก็ควรเริ่มจากการ ?มีส่วนร่วม? กับเขา

ช่วงเรียนหนังสือเป็นช่วงที่มีโอกาสพบรักง่ายสุด เพราะพบหน้ากันทุกวันจนสนิทสนมและไว้ใจกัน นานเข้าจึงกลายเป็นความรักเช่นเดียวกับที่ทำงาน เมื่อไม่มีระเบียบห้ามพนักงานรักกัน ความรักจึงเกิดขึ้นได้ทุกสถานที่ ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยไปจนถึงธุรกิจข้ามชาติที่มีพนักงานหลายร้อย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเช่นนั้น หากไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับคนที่ถูกใจก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สมัยนี้วิธีติดต่อกันได้หลายทาง นอกจากแลกเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลกันแล้ว ยังมีอีกคำถามหนึ่ง ?คุณเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ครึเปล่า?

หน้าต่างสนทนาในโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่คุณกับเขาทำอะไรได้ตามใจชอบ แต่น่าเสียดายที่ข้อความไม่สามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่ายและคนที่ออนไลน์เข้ามาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นตัวจริง อย่างไรก็ดี ยามรุกต้องบุกหน้า ยามถอยต้องป้องกัน ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็แค่ลบออกจากรายชื่อผู้ติดต่อ นี่เป็นวิธีหาคนรักที่เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากเป็นฝ่ายเริ่ม แต่ยังไม่กล้า แต่ก่อนที่จะส่งข้อความสร้างสัมพันธ์พิเศษทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ขออย่ามองข้ามรายละเอียดต่อไปนี้

อย่าเรียกร้องให้เขาตอบ

โซเชียลเน็ตเวิร์คส่วนใหญ่เป็นการส่งข้อความให้อ่าน ไม่มีแรงกดดันเหมือนโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ห่างเหินเหมือนการเขียนจดหมาย จึงไม่ควรเรียกร้องให้เขาตอบ เพราะคุณไม่มีวันรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ แต่ก็พอจะรับรู้ได้ว่าเขาติด ?คอมพิวเตอร์? แค่ไหน สมมุติว่าเขาไม่ชอบใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค คุณก็ต้องเปลี่ยนวิธีใหม่

โซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นส่วนขยายจากอีเมล จึงมีทั้งข้อดีข้อเสีย อินเทอร์เน็ตมักจะมีปัญหาไวรัสระบาด ถ้าจู่ ๆ คุณก็ส่งเว็บไซต์ไปให้เขาและย้ำว่า ?อิอิ สนุกดี ลองอ่านดู? เขาอาจรู้สึกไม่จริงใจและต้องคิดหนัก จะเปิดดูก็ลำบากใจ ไม่เปิดก็ลำบากใจ ดังนั้นถ้าอยากส่งให้เขาจริง ๆ ควรถามความเป็นเขาก่อน

อย่าประเมินความกล้าของผู้ชายสูงเกินไป และก็อย่าประมาทความหยิ่งของเขาต่ำเกินไปผู้หญิงที่รุกหนักอาจทำให้เขากลัวหรือมองว่าใจง่ายได้ ระดับความจริงจังในการรุกเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ก็เหมือนกับตีลูกเบสบอลสามครั้งและต้องเปลี่ยนข้าง หากคุณส่งข้อความถึงเขาบ่อย ๆ แต่เขาไม่เคยส่งหาคุณเลย ก็ควรถอยก่อน อย่าตามตื๊อ โดยทั่วไปถ้าเขาเป็นคนคุยเก่ง ก็ไม่ต้องให้คุณทักทายหรือตั้งคำถามก่อนทุกครั้ง เขาควรเป็นฝ่ายเริ่มคุยบ้าง

ชื่อล็อกอินในโซเชียลเน็ตเวิร์คและสถานะส่วนตัวเป็นป้ายประกาศอย่างดี การตั้งชื่อล็อกอินควรตั้งให้ใกล้เคียงกับชื่อจริง เขาจะได้รู้ว่าคุณเป็นใคร สถานะส่วนตัวอาจเขียนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของคุณ เช่น อารมณ์ความรู้สึก ความคิดเวลานี้ ข้อความจากหนังสือ หรือบทกวี ก็จะช่วยปูทางสู่การพูดคุยได้ เมื่อเขาเห็นว่าชีวิตของคุณน่าสนใจย่อมอยากใกล้ชิดคุณเป็นธรรมดา

ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ หรือการพูดคุยโดยตรงก็ตามหากคุณกับเขาคุ้นเคยกับการพูดคุยกันระดับหนึ่งแล้ว ก้าวที่สองคือการค้นหาสิ่งที่เขาสนใจและชื่นชอบ

ถ้าคุณชอบ ?เล่นเน็ต? ก็จะพบว่าอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คนมาก เมื่อแลกเปลี่ยนชื่อที่ใช้ในโซเชียลเน็ตเวิร์คกันและคุณกับเขาออนไลน์พร้อมกัน ก็สามารถพูดคุยกันได้มากมายโดยใช้เวลาสั้น ๆ และพัฒนาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

เริ่มต้นด้วยการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น

ถ้าคุณซักเขามากเกินไปจะดูเหมือนสำรวจสำมะโนประชากร ดังนั้น ควรใช้วิธี ?หย่อนเบ็ด? โดยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวคุณส่งไปให้เขาก่อน

ทุกคนมีนิยายของตัวเอง ถ้าเขาเป็นคนเล่า ก็อย่าฟังเพลินจนลืมเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ล่ะ เบื้องหลังข้อมูลเหล่านี้มีประสบการณ์ การทำงาน และการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นหัวข้อสนทนาที่ดีที่สุด แต่ยังไม่ต้องรีบร้อนอยากรู้ประสบการณ์ความรักของเขานะ

ในแง่จิตวิทยาคำสรรพนามที่เลือกใช้แสดงจุดยืนของผู้พูด คำว่า ?ฉัน? กับ ?คุณ? แสดงถึงการแบ่งแยก ส่วนคำว่า ?เรา? แสดงถึงการรวมกัน ดังนั้นการใช้ ?เรา? ในบทสนทนาจึงช่วยเสริมความสัมพันธ์ได้

ผู้หญิงร่าเริงทำให้ผู้ชายอยากใกล้ชิด แต่คุณเองคงไม่อาจเป็นดอกทานตะวันที่บานอยู่ตลอดเวลา การบอกเล่าความเจ็บปวด ความอ่อนแอของคุณในเวลาที่เหมาะสม เป็นการเปิดโอกาสให้เขาแสดงบทบาทเป็นครูใจดีและทำให้เขาเห็นอกเห็นใจ

ใครเป็นฝ่ายเริ่มต้นนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าเขาชอบคุณก็คงแสดงออกให้เห็นบ้าง ถ้าเขาพูดคุยกับคุณหรือชวนคุณไปกินข้าวสองต่อสองเป็นประจำ ก็ยืนยันได้ว่าเขาชอบคุณ นับว่าเป็นการขโมยหัวใจสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง

แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ก็อย่าเพิ่งท้อใจ คุณอาจลองรุกสักครั้ง โดยชวนเขาไปดูภาพยนตร์เรื่องที่คุณอยากดูมานาน ชวนเขาไปร้านอาหารที่น่าสนใจ หรือบอกเขาว่าคุณจะซื้อของขวัญให้พี่ชาย น้องชาย พ่อ หรือเจ้านาย อยากให้เขาช่วยออกความเห็นก็เป็นข้ออ้างที่ดีในการนัดพบ แล้วถือโอกาสสังเกตรสนิยมของเขา

ถ้าไม่แน่ใจว่าเขาคิดอย่างไรแน่ การอยู่ห่างเขาบ้างก็เป็นมารยาอย่างหนึ่ง

คนเรามักเห็นความสำคัญของสิ่งที่มีอยู่ก็เมื่อสูญเสียไปแล้ว ถ้าเมื่อก่อนคุณกับเขาพูดคุยกันทุกวัน ติดต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ ถึงตอนนี้คุณควรหยุดออนไลน์สักสองสามวัน สังเกตดูว่าเมื่อคุณกลับมาออนไลน์อีกครั้งเขาจะคิดถึงและสงสัยหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ แสดงว่าคุณมีความสำคัญในหัวใจของเขาแล้วละ

การขโมยหัวใจโดยใช้กลยุทธ์ ?ปิดฟ้าข้ามทะเล? ต้องเริ่มจากรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ เหมือนกับการตกปลา ปลาจะไม่รีบกินเบ็ดทันที และเมื่อปลากินเบ็ดก็ไม่ควรรีบกระตุกเบ็ด ควรทุ่มเทเวลาและจิตใจให้เขา ถ้าสำเร็จ ไม่ว่าปลาหรือเขาก็หนีไปไม่พ้น แต่ถ้าล้มเหลว คุณก็แค่ย้ายที่ตกปลาเท่านั้นเอง

สรุปแล้ว ?ปิดฟ้าข้ามทะเล? เป็นกลยุทธ์การรุกอย่างมีขั้นตอน ความสำเร็จที่แท้จริงขึ้นอยู่กับว่า คุณมีความอดทนพอหรือไม่

- คนเรามักไม่ระแวงสิ่งที่พบเห็นเป็นประจำ และมักไม่ระวังคนที่อยู่เคียงข้าง

- ?ปิดฟ้าข้ามทะเล? เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ต่างจากการผ่อนสายเบ็ดยาวเพื่อตกปลาตัวใหญ่ ต้องรอบคอบและอดทน

- การหาโอกาสใกล้ชิดเป็นก้าวที่หนึ่งในการขโมยหัวใจ