รวมที่เที่ยวสวนดอกไม้ในเมืองไทย น่าไปสุดๆ

อ่าน 4,578

เอาใจคนรักธรรมชาติที่ชื่นชอบสวนดอกไม้สีสันสวยงามตระการตา คงจะดีไม่น้อยถ้าวันหยุดนี้ได้ปล่อยให้ร่างกายได้สูดอากาศบริสุทธิ์และกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพรรณ ไม่แน่ว่าความสวยงามของดอกไม้อาจช่วยทำให้ร่างกายของคุณกลับมากระชุ่มกระชวย หลังต้องเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน วันนี้เราขอรวบรวมที่เที่ยวสวนดอกไม้ในเมืองไทย ไว้เดินเล่นชิล ๆ รับอากาศเย็นที่ใกล้จะมาถึงนี้ มีที่ไหนบ้างมาดูกันเลย

1. ดาษดา แกลลอรี่ จังหวัดปราจีนบุรี

ภาพจาก NorGal / shutterstock.com

"ดาษดา แกลลอรี่" สวนดอกไม้บนพื้นที่กว่า 800 ไร่ ที่นี่คุณจะเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของดอกไม้แบบครบวงจร สวนดอกไม้แห่งนี้กำเนิดขึ้นจากความรักของเจ้าของล้วน ๆ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะรวบรวมพัฒนาสายพันธุ์ดอกไม้ต่าง ๆ ให้กลายเป็นดอกไม้เศรษฐกิจที่ทรงคุณค่าในตลาดโลก บริเวณโดยรอบของ "ดาษดา แกลอรี่" ถูกจัดแต่งเป็นสวนสวยงาม นอกจากนี้ยังพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะแห่งพันธุ์ไม้ดอกอาคารเรือนกระจก ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้สบายตา ทั้งกล้วยไม้ หน้าวัว และคาร์เนชั่น ที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตามฤดูกาล หากใครเดินจนเมื่อยน่อง ที่นี่ยังมีร้านไอศกรีมดอกไม้หอมชื่นใจไว้นั่งพัก หรือจะเลือกซื้อดอกไม้สดหรือไม้กระถาง เอาไปฝากคนที่บ้าน ก็มีให้เลือกจุใจ "ดาษดา แกลลอรี่" จึงเป็นสวนสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบความมหัศจรรย์ของศิลปะการจัดดอกไม้ในเรือนกระจกอย่างแท้จริง

ที่ตั้ง : 179 หมู่ 12 ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เบอร์โทรศัพท์ : 037 239 800 เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. ค่าบริการ : คนละ 50 บาท เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก dasadaflower

2. อุทยานไม้ดอกแห่งอีสาน "เพ ลา เพลิน" จังหวัดบุรีรัมย์

อุทยานไม้ดอกแห่งอีสาน "เพ ลา เพลิน" โดดเด่นด้วยโรงเรือนที่จัดแสดงไม้ดอกทั้งหมด 7 หลัง โดยแต่ละหลังได้รับการออกแบบให้มีสไตล์ที่แตกต่างกัน ประกอบด้วยอาคารที่หนึ่งจัดแสดงไม้ดอกตามฤดู ซึ่งจะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนดอกไม้ที่ผลิบานในแต่ฤดู, อาคารที่สองจัดแสดงเฟิร์นสายพันธุ์นานาชาติ โดยจำลองเป็นป่าดึกดำบรรพ์, อาคารที่สามจัดแสดงพืชในตระกูลสับปะรดสี, อาคารที่สี่จัดแสดงกล้วยไม้, อาคารที่ห้าจัดแสดงพืชเขตร้อน เช่น ตะบองเพชรชนิดต่าง ๆ, อาคารที่หกจัดแสดงดอกหน้าวัว พร้อมจำลองวิถีชีวิตแบบอีสาน และอาคารที่เจ็ด "อาคารต้อนรับ" เป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการ "ด้วยรักและภักดี" ซึ่งภายในแต่ละอาคารนักท่องเที่ยวสามารถแวะชมความสวยงาม และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้อย่างจุใจ

ที่ตั้ง : 252 อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เบอร์โทรศัพท์ : 087 799 4936, 087 798 1039 เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น. ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 120 บาท และเด็ก 60 บาท เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก PlayLaPloen

3. เดอะบลูม บาย ทีวีพูล จังหวัดนครราชสีมา

ภาพจาก www.thebloom.co.th

"เดอะบลูม บาย ทีวีพูล" สวนดอกไม้บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ยิ่งใกล้ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ บรรยากาศและสีสันของดอกไม้ที่นี่ยิ่งสวยเป็นพิเศษ คุณจะได้เห็นสายหมอกที่กำลังเล้าโลมคลอเคลียดอกไม้ รายล้อมด้วยภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ที่นี่มีดอกไม้เมืองหนาวมากกว่า 30 สายพันธุ์ และยังมีพื้นที่เอาใจคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปโดยเฉพาะ ซึ่งประดับด้วยดอกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ มีดอกบุนนาคที่คอยส่งกลิ่นหอม และรูปปั้นคิวปิด เรียกว่าได้ว่าเป็นพื้นที่สวรรค์ของช่างภาพเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้จึงถือเป็นสวนไม้ดอก ที่มีดอกไม้บานสะพรั่งมากที่สุด เบ่งบานรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

ที่ตั้ง : 357 หมู่ 5 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ : 044 756 336 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 100 บาท และเด็ก 50 บาท เว็บไซต์ : thebloom.co.th

4. สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี

"สวนนงนุช" สวนไม้ดอกไม้ประดับขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ภายในพื้นที่กว้างขวางแห่งนี้ประกอบด้วยสวนประเภทต่าง ๆ มากเกินกว่า 15 รูปแบบ เช่น "สวนเนินลายปีกผีเสื้อ" สวนไม้ระดับที่มีสีสันในตัวเอง, "สวนพุทธรักษา" ชมความงามของพุทธรักษาหลากสีสันครบทุกสี, "สวนบอนไซ" สวนที่รวบรวมพันธุ์บอนไซทั้งขนาดเล็กและใหญ่, "สวนไม้ตัดแต่ง" สวนไม้ประดับชนิดต่าง ๆ และ "สวนกล้วยไม้" ชมกล้วยไม้พันธุ์ต่าง ๆ หลากสีสันละลานตา เป็นต้น ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมความสวยงามของสวนต่าง ๆ ได้จากมุมสูงของ "ทางเดินลอยฟ้า" ตลอดระยะทางยาวกว่า 1,000 เมตร ทำให้เห็นสวนในมุมมองที่แปลกแตกต่างไปจากการเดินชมปกติ

ที่ตั้ง : 1/11-12 พัทยาเซ็นเตอร์ ถนนพัทยากลาง ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เบอร์โทรศัพท์ : 038 415 145 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ค่าบริการ : คนละ 150 บาท เว็บไซต์ : nongnoochtropicalgarden.com

5. สวนรุกชาติแม้ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

"สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง" ความพิเศษของที่นี่คือเป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้ตระกูลกุหลาบพันปีไว้มากที่สุดในประเทศ มีทั้งกุหลาบพันปีของออสเตรเลีย จีน และพม่า นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ป่า กล้วยไม้ดิน รองเท้านารี และพญาเสือโคร่ง มีลานชมวิวต่าง ๆ เช่น ลานรุ่งอรุณ ลานอัสดง จุดส่องสามแคว้น (ไทย-พม่า-ลาว) ซึ่งถัดไปเล็กน้อยจะเห็นตำรวจตระเวนชายแดนตั้งค่ายดูแลความเรียบร้อยอยู่ และบริเวณลานน้ำพระราชหฤทัยสมเด็จย่า จะมีต้นกุหลาบพันปีสีแดงสด และต้นไม้ขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี อยู่ภายใต้การดูแลของประชาชนชาวเขาในพื้นที่ ทั้งนี้ไม้ดอกและไม้ประดับที่นำมาตกแต่งทั่วบริเวณ ปลูกและเลี้ยงดูโดยชาวบ้านของโครงการ เป็นการสร้างงาน ให้ชาวบ้านมีรายได้ที่ดี สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และยังเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ สร้างงานในด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ที่ตั้ง : อาคารอเนกประสงค์ พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เบอร์โทรศัพท์ : 053 767 015-7 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันตั้งแต่ เวลา 08.00-17.00 น. ค่าบริการ : คนละ 90 บาท เว็บไซต์ : doitung.org

6. สวนหลวง ร. 9 กรุงเทพฯ

"สวนหลวง ร.9" สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เป็นสวนสาธารณะที่ได้รับการการกล่าวขานว่ามีดอกไม้สวยหลากหลายชนิด ประกอบด้วยไม้ยืนต้น ไม้ล้มลุก ไม้ยึดเกาะ ไม้พุ่ม ไม้ดอก ไม้ใบ ไม้คลุมดิน ไม้ป่า และไม้นำเข้าจากต่างประเทศ โดดเด่นด้วย "สวนนานาชาติ" ประกอบด้วย สวนจีน สวนญี่ปุ่น สวนฝรั่งเศส สวนสเปน สวนอังกฤษ และสวนอิตาลี ซึ่งแต่ละสวนก็จะมีการประดับประดาตกแต่งที่แตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ของแต่ละชาติ อย่างเช่นที่สวนอังกฤษ ก็จะมีรูปปั้นเด็กตั้งอยู่กลางสวนกุหลาบ ส่วนที่สวนฝรั่งเศส ก็จะตัดแต่งต้นไม้ให้มีลักษณะเป็นรูปทรงต่าง ๆ เรียกว่าเดินกันจนลืมกลับบ้านเลยทีเดียว

ที่ตั้ง : อาคารชายชล ถนนสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์ : 02 328 1385-86 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. ค่าบริการ : คนละ 10 บาท เว็บไซต์ : suanluangrama9.or.th

7. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่

"สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" ตั้งอยู่บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย บนพื้นที่ประมาณ 6,500 ไร่ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ การจัดสวนของที่นี่จะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ โดยเฉพาะ "เรือนกล้วยไม้ไทย" รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าที่มีสีสันสวยงาม หลายชนิดมีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่จะทยอยออกดอกตลอดปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ซึ่งบางพันธุ์หาดูได้ยากและบางชนิดใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนี้ยังมี "อาคารเรือนกระจก" ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม ภายในอาคารใหญ่รวบรวมพรรณไม้ใน เขตป่าดงดิบ จากทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย มาที่นี่คุณจะได้รับทั้งความเพลิดเพลินแถมยังได้ความรู้ติดตัวกลับบ้านอีกด้วย

ที่ตั้ง : องค์การสวนพฤกษศาสตร์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ : 053 841 234 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ค่าบริการ : ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท และนักเรียน-นักศึกษา คนละ 10 บาท เว็บไซต์ : qsbg.org

8. สวนแปดสิบ-แปลงดอกไม้เมืองหนาว ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

"สวนแปดสิบ-แปลงดอกไม้เมืองหนาว ดอยอ่างขาง" ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของบรรดาสวนทั้งหมดสำหรับการเที่ยวชมดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ใจกลางสถานีเกษตรดอยอ่างขาง เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกสวย ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชม ซึ่งพรรณไม้แต่ละชนิดจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตลอดฤดูกาล แต่ของเด็ดที่พลาดไม่ได้เลยคือการชมต้นซากุระแท้ ๆ จากญี่ปุ่น ที่ปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้มาช่วงหน้าหนาว ซากุระจะยิ่งออกดอกสวยงามบานสะพรั่งเป็นสีชมพู นอกจากซากุระญี่ปุ่นแล้วยังมีซากุระเมืองไทยหรือพญาเสือโคร่งที่แข่งกันออกดอกเต็มสวนสวยงามอีกด้วย

ที่ตั้ง : หมู่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ : 053 969 489 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ค่าบริการ : คนละ 50 บาท เว็บไซต์ : angkhangstation.com

9. เดอะบลูมส์ ออร์คิดปาร์ค จังหวัดราชบุรี

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The-Blooms-Orchid-Park

"เดอะบลูมส์ ออร์คิดปาร์ค" บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ภายในร่มรื่นไปด้วยสวนป่าและอุทยานกล้วยไม้หายาก ที่ออกดอกสวยงามตลอดทั้งปี ภายในสวนตกแต่งอย่างสวยงาม มีมุมให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพกับดอกกล้วยไม้สวย ๆ บางมุมตกแต่งเป็นน้ำตกเล็ก ๆ เลียนแบบธรรมชาติ เดินชมดอกไม้ไปได้ยินเสียงน้ำไหลไป ยิ่งชวนทำให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ใครที่เป็นสาวกคนรักกล้วยไม้ จึงไม่ควรพลาดมาชมกล้วยไม้สวย ๆ ที่ "เดอะบลูมส์ ออร์คิด ปาร์ค" แถมยังเดินทางสะดวก เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ได้มาชมกล้วยไม้สวย ๆ ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนตามฤดูกาลในบรรยากาศธรรมชาติ น่าจะถูกอกถูกใจคนรักกล้วยไม้อย่างแน่นอน

ที่ตั้ง : 65 หมู่ที่ 7 ตำบลวัดแก้ว อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เบอร์โทรศัพท์ : 086 111 0084, 089 967 5212 เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น. ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 250 บาท และเด็ก 120 บาท เว็บไซต์ : thebloomsorchidpark.com

10. สวนผึ้งออร์คิด จังหวัดราชบุรี

ภาพจาก suanpheungorchids.com

"สวนผึ้งออร์คิด" เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เข้าชมสวนดอกกล้วยไม้ในโรงปลูกแบบใกล้ชิด ละลานตาไปด้วยดอกกล้วยไม้หลายหลายสายพันธุ์ เช่น แวนด้า แอสโตแซนด้า แวนด้าฟ้ามุ่ย และอื่นๆ อีกมากมาย การันตีด้วยรางวัลมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมและเลือกซื้อกล้วยไม้กลับไปเป็นของฝาก ซึ่งมีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพัน หรืออยากจะเอาไปปลูกตั้งแต่ยังเป็นต้นกล้าก็มีจำหน่าย เรียกได้ว่าครบวงจรสุด ๆ ก่อนกลับบ้าน ภายใน "สวนผึ้งออร์คิด" ยังมีบ่อปลาโดยมีแพทางเดินไปยังกลางบ่อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลาอีกด้วย

ที่ตั้ง : 313/2 หมู่ 3 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เบอร์โทรศัพท์ : 087 915 0699 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. ค่าบริการ : คนละ 20 บาท เว็บไซต์ : suanpheungorchids.com

สวนดอกไม้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และสีสันความงดงามของธรรมชาติ ซึ่งดอกไม้แต่ละประเภทก็จะผลิดอกให้เราชื่นชมความงามสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล หวังว่าหน้าหนาวที่ใกล้จะถึงนี้ เพื่อน ๆ จะได้เที่ยวชมดอกไม้สวยงามกันอย่างเต็มอิ่ม แล้วอย่าลืมเที่ยวเผื่อกันด้วยนะคะ ^ ^

ขอขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก dasadaflower, เฟซบุ๊ก PlayLaPloen, thebloom.co.th, nongnoochtropicalgarden.com, doitung.org, suanluangrama9.or.th, qsbg.org, angkhangstation.com, thebloomsorchidpark.com, suanpheungorchids.com



บทความแนะนำ


พิชญดาสปอยแฟชั่นNormcoreปาล์มมี่เม้าส์ณัฐชาแฟชั่นเรียบหรูนอร์มคอร์ทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก