6 เรื่อง ที่ไม่จำเป็นต้อง 'ใจป้ำ' กับแฟนมากขนาดนั้น

อ่าน 11,455

' แฟน ' อาจเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษกว่าใคร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาหรือเราจะมีสิทธิ์ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวกันและกันมากเท่าไหร่ก็ได้ หรือคบกันโดยไม่มองถึงอนาคตเลยจริงอยู่ว่า รักคือการให้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะให้แบบทิ้งขว้าง ไม่มีสติ ... สาวๆ ซิสต้าจ๋าาาา ดึงสตินิดนึงเธอ ให้กันแต่พอดีพองาม อย่ามากไปจนเราเดือดร้อน และที่สำคัญ ควรให้โดยนึกถึงอนาคตทั้งตัวเขาและเราด้วยนะตัวเอง เราจะได้ไม่เสียใจมากไงล่ะถ้านึกไม่ออกว่าจะให้อะไร ขอให้นึกไว้ในทางตรงข้ามกันนะคะว่า ' อย่าให้/อย่าแชร์อะไร ' เป็นอันขาด เพื่อเซฟตัวเองและตัวเขา เซฟความรักให้อยู่ในระยะพอดีๆ : ))1 เงิน

ถ้าผลัดกันเลี้ยงข้าว เลี้ยงตั๋วหนัง ผลัดกันจ่ายค่ากินค่าเที่ยวที่ไม่กี่สิบบาท ไม่กี่ร้อยบาท ยังพอจะน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ก้าวก่ายกระเป๋าตังค์กัน ฉันจิ๊กเธอเมื่อไหร่ก็ได้ เธอยืมฉันเท่าไหร่ก็ได้ หรือถึงขั้นแบมือขอตังค์กันเป็นก้อนใหญ่ เช่น ค่าหอ, ค่าเทอม นั่นเริ่มเกินคำว่าพอดีแล้วนะจ๊ะ

เชื่อมั้ยว่าบางคู่ที่เขาแต่งงานกันแล้ว เขายังไม่ยุ่งกระเป๋าตังค์ส่วนตัวกันเลยแม้แต่บาทเดียว ถ้าเราเป็นแค่แฟนกัน ไม่ได้แต่งงานอยู่บ้านเดียวกัน อย่าทำเลยจ้ะ เชื่อเถอะว่ามันไม่งาม เป็นการไม่ให้เกียรติกันอีกด้วย ตอนเป็นแฟนกันน่ะ อะไรก็หวานก็ดีไปหมดแหละ แต่พอเลิกกันปุ๊บ เดี๋ยวจะวุ่นวายเอาทีหลังได้นะที่ต้องมาตามทวงหนี้กัน2 ของใช้ราคาแพง เช่น รถ, สร้อยทอง, สมาร์ทโฟน

หยิบยืมกันในบางโอกาสที่จำเป็นยังพอดูดี แต่ถ้าถึงกับยกของเราให้เป็นของเขา หรือเขายกของเขาให้เป็นของเรา ' อย่าทำเด็ดขาดค่ะ ' ตราบใดที่เป็นแค่แฟนกัน ไม่ได้โอนสิทธิให้ถูกต้องตามกฎหมายกันเป็นเรื่องเป็นราว เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้น เจ้าของรถที่แท้จริงนั่นแหละที่ซวยหนัก จ่ายหนัก (ยิ่งสิ่งที่เรามี เป็นสิ่งที่พ่อแม่ให้ เราก็ควรจะเห็นแก่พ่อแม่ มากกว่าเห็นแก่แฟนนะคะ มีเรื่องเดือดร้อนเมื่อไหร่ลำบากท่านแย่เลย )3 รอยสักเป็นชื่อแฟน

มันอาจจะเป็นของขวัญพิเศษที่ทำให้แฟนรู้สึกรักในตัวเรามาก แต่เราก็ต้องเผื่อใจคิดให้มากเช่นกันค่ะว่า ' ถ้าเราเลิกกันล่ะ เราจะจัดการกับรอยสักยังไง? ' หรือ ' ถ้าเรามีแฟนใหม่ แฟนใหม่จะรับได้รึเปล่า? ' คิดให้ดีก่อนทำนะคะ ทำแล้วลบยากด้วยนะเธอ ( ค่าลบรอยสักครั้งนึงแพงกว่าตอนสักเป็น 2-3 เท่าตัว และต้องทำหลายครั้งติดกันด้วยจนกว่าจะเลือน )4 ของขวัญที่ไม่เข้ากับเขาเลย/เขาไม่ชอบเลย

ถ้านึกไม่ออกว่าจะให้อะไรเป็นของขวัญ ขอให้นึกแบบธรรมดา เรียบง่าย ได้ประโยชน์ไว้ก่อน เช่น สมุด, กระเป๋าตังค์, ชุดเครื่องเขียน อย่าให้ในสิ่งที่ค่อนข้างฉูดฉาด จัดจ้าน หรือไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์เขาเลยสักนิด เพราะการให้อะไรที่เขาไม่ชอบ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการซื้อของทิ้งขว้างเปล่าประโยชน์ เขามีสิทธิ์งอนเราได้ แต่มันเป็นการยากพอควรที่เราจะงอนกลับ เพราะเราจะเจอ 2 ข้อหาใหญ่ๆ นั่นคือ1. เป็นแฟนกันประสาอะไรไม่ช่างสังเกตเลย ( ถึงไม่รู้ว่าเขาชอบไม่ชอบอะไรแบบชัดเจน แต่ก็น่าจะมีเซนส์พอที่จะเดาได้บ้าง ) และ...2. ก็คนมันไม่ชอบ แล้วเธอจะยัดเยียดให้เขาชอบทำไมล่ะ! ( ลำบากใจนะเธอที่ต้องทำเป็นรับๆ ไปแล้วค่อยวางตรงไหนก็ได้ เป็นเธอ เธอยังไม่ชอบเลยที่ให้ใครมาบังคับจิตใจเธอน่ะ )

5 การทำเซอร์ไพรส์โดยมีคนอื่นเป็นพยาน

ไม่ใช่ทุกคู่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเรื่องเซอร์ไพรส์โดยมีคนอื่นเป็นประจักษ์พยาน ความรักเป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคน อยากทำอะไรให้แฟนรู้สึกว่าพิเศษก็ทำได้เลยในแบบลับๆ สองต่อสอง ไม่จำเป็นต้องโพสต์ลงเฟสบุค โพสต์ลงพันทิป หรืออวดคนอื่น เช็คความสมัครใจแฟนด้วย บางครั้งที่แฟนรับไป อาจรับไปให้จบๆ จะได้ไม่กดดันไปมากกว่านี้ ใช่ว่าจะเต็มใจรับอย่างซึ้งใจนะ6 สัตว์เลี้ยง

ถ้ายังเป็นแค่แฟนกัน ไม่ได้แต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าเพิ่งให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสใดก็ตาม เพราะนั่นคือ ' ชีวิต ' ที่ต้องรับผิดชอบ นอกจากการดูแลสารพัดที่ไม่ต่างอะไรกับเลี้ยงลูกเล็กๆ เช่น ให้อาหารตรงเวลา, พาไปเดินเล่น, พาไปหาหมอ เราก็ต้องนึกไปถึงวันที่เลิกกันด้วยว่า ' มันจะไปอยู่กับใคร ? ' การเลี้ยงเขาแบบทิ้งขว้างมันบาปกรรม น่าหดหู่ใจมากนะเธอ (T_T)

รักกันในลิมิตที่พอดี เราและเขาก็จะคบกันได้นานแต่ถ้ารักมากไป ให้เกินพอดีนั่นก็เท่ากับว่าเราเห็นความสำคัญของเงินมากกว่าหัวใจอย่าให้อะไรที่มันมากไป ทำลายความรักให้สั้นลงเลยเนอะ( ป๋าเบิร์ดบอกไว้ ' รักเกินรัก มักจะทำลาย ' :D )



บทความแนะนำ


กราฟิกYouTubeรีไซเคิลโปรโมชั่นฟิล์มรัฐภูมิดูโอ้ซุปเอ็มเคทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก