รักออนไลน์ กับ 10 สัญญาณเตือนภัย ผู้ชายแบบไหนควรอยู่ห่างๆ

อ่าน 5,230

หลายคนพบรักจากโลกออนไลน์ แต่ผู้ชายในโลกนั้นใช่ว่าจะโอเคทุกคนไปซะเมื่อไหร่ เพราะ Facebook อาจเป็น Fakebook คนที่ดูดี อาจดีไม่จริงเมื่อตั้งใจดูอย่างละเอียด เอาเข้าจริงๆ เราไม่สามารถเข้าใจใคร หรือตัดสินใครได้จากการเห็นแค่ภาพกับสเตตัสที่เขาอัพ ผู้ชายมีอะไรมากกว่าสิ่งที่อยู่ในหน้าจอสี่เหลี่ยมแบนราบที่เราสไลด์นิ้วเลื่อนขึ้นเลื่อนลง ดังนั้นถ้าริจะมีรักออนไลน์ ก็โปรดจงระวังผู้ชายสร้างภาพให้หนักๆ

1.เช็คโปรไฟล์ให้ละเอียด

เราไม่มีทางรู้ว่าโปรไฟล์ของเขาจริงหรือหลอกนอกจากการเข้าไปเช็ค เพราะผู้ชายบางคนพยายามหลีกเลี่ยงการแสดงตัวตนที่แท้จริงด้วยการใช้รูปจากในเน็ต หรือชอบใช้รูปประจำตัวที่ไม่ใช่รูปตัวเอง วิธีเช็คให้ชัวร์ก็คือ กดเข้าไปดูคนที่มาไลค์ ดูการตอบคอมเม้นต์ สังเกตว่าเขากับเพื่อนในลิสต์มีคุยกันจริงมั้ย ถ้าให้ดีแอดเพื่อนเขาสักสองสามคน เลือกคนที่ดูจะสนิทสนมกับเขามากที่สุด แล้วเก็บข้อมูลเงียบๆ จากคนเหล่านั้น

2.เขามีเฟซบุ๊กมากกว่าหนึ่ง

นั่นแปลว่า เขาเลือกที่จะมีตัวตนถึง 2 ตัวตนในเวลาเดียวกัน อันหนึ่งเปิดเผย อันหนึ่งหลบซ่อน ถ้าไม่คิดมาก จริงๆ เขาอาจมีบางเฟซไว้เพื่ออ่านและแชร์ข้อมูลข่าวสารอย่างเดียวโดยไม่ต้องการให้ตัวตนไปปรากฏอยู่ในนั้น ขณะที่อีกอันก็เป็นตัวเขาเต็มที่ เป็นที่เปิดเปลือยทัศนคติของเขาแบบโจ่งแจ้ง แต่ก็นั่นแหละ เราต้องรู้ว่าเขามีอีกเฟซไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร

3.เขาเน้นใช้ไลน์ มากกว่าเฟซบุ๊ก

เขาค่อนข้างระมัดระวังตัวและรอบคอบ ดังนั้นเขาจึงเลือกใช้ไลน์มากกว่าตอบข้อความในเฟซบุ๊ก เพราะข้อความในโปรแกรม Messenger ของเฟซบุ๊กมันระบุพิกัด ขึ้นแผนที่สถานที่ที่เขาอยู่ในเวลานั้น มันอาจทำให้พลาดหากมีบางสิ่งบางอย่างที่เขากำลังปิดบังคุณอยู่ การพูดคุยผ่านไลน์ดูจะปลอดภัยที่สุดแล้ว

4. ชีวิตดี๊ดี

สิ่งที่ปรากฏบนหน้าวอลของเขาล้วนดีงามไปหมด มันดูเพอร์เฟคจนเกินไป มันมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเกินหน้าเกินตาชาวบ้าน ดูสิ เขาเป็นคนรักสัตว์ เขากอดน้องหมาจูบน้องแมว จิตใจอ่อนโยน เป็นคนใจดี เขาซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ ไปแจกลุงตำรวจที่ยืนเป่านกหวีดกลางสี่แยกทั้งที่แดดร้อนเปรี้ยง เขาชอบทำอาหาร เขาชอบจัดดอกไม้ เขาชอบเล่นดนตรี เขาโรแมนติค เขาๆๆๆๆ เดี๋ยวๆ คุณต้องใจเย็นๆ แล้วมีสติ สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น เพราะสิ่งที่เห็นก็เป็นด้านที่เขาอยากให้เราเห็น สิ่งที่เขาไม่อยากให้เห็นเขาก็ไม่โพสต์ไง ทุกอย่างมันผ่านการคิดมาหมดแล้วว่าจะ เน้น/ไม่เน้น ให้เห็น/ไม่ให้เห็นอะไร ถ้าจะว่าไปไมันคือการพรีเซ้นต์ตัวเอง มันคือมาร์เก็ตติ้ง เขารู้ความต้องการของตลาด เขารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วเขาก็เลือกที่จะนำเสนอสิ่งนั้น คุณต้องดูดีๆ เพราะบางยี่ห้อก็โฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค หรือบางทีสินค้านั้นอาจหมดอายุแล้วก็ได้ หน้าที่คุณคือตั้งสติแล้วอ่านฉลากข้างขวดให้ละเอียด

5.เขาไม่ระบุสเตตัส

การที่เขาไม่ได้ Relationship กับใครนั่นไม่ได้แปลว่าเขาไม่มีใคร เขาอาจมี แต่ไม่เปิดเผย เขาทำให้ความสัมพันธ์มันคลุมเครือ ไม่ชัดเจน แต่ถ้าอยากรู้ก็ไม่ยากจนเกินไป คุณแค่ใช้เวลานั่งย้อนไล่ดูเรื่องราวเก่าๆ ของเขาบน news feed ไล่ดูย้อนหลังไปเรื่อยๆ บางทีอาจเจอสเตตัสบางสเตตัส ภาพบางภาพ คอมเม้นต์บางคอมเม้นต์จากสาวๆ บางคนที่ดูพิเศษสำหรับเขา บางทีคุณอาจเจอข้อความที่ถูกเข้ารหัสไว้ นาทีนั้น จงเชื่อเซนส์ตัวเองและตามมันไป

6.เขาปั่นหัวคุณ

เขาทำให้คุณว้าวุ่นใจด้วยการไปเม้นต์ ไปไลค์ผู้หญิงคนอื่นที่ดูแจ่มกว่าคุณ ไปหยอดคนนั้นคนนี้ เพื่อให้คุณรู้สึกว่าเขายังไม่ถูกควบคุมโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เขาพยายามดึงสัญชาตญาณการหึงหวง การอยากเอาชนะ การแสดงความเป็นเจ้าของของคุณออกมา เขาเล่นกับความรู้สึกของคุณเพื่ออัพราคาให้ตัวเอง

7.เขาพูดแบบนั้นไม่ได้แปลว่าเขารู้สึกแบบนั้น

เราไม่สามารถรับรู้อารมณ์สีหน้าท่าทางจากตัวหนังสือของเขา มันจับน้ำเสียงไม่ได้ ไม่รู้ว่าในประโยคนั้นมันเว้าวอน ออดอ้อน เฉยๆ หรือมึนตึง วิธีนี้จึงเล่นกับความรู้สึกเราได้มากที่สุด ยิ่งถ้าหากเขาเป็นนักเขียนที่เชี่ยวชาญในการคอนโทรลตัวอักษรด้วยแล้ว เรายิ่งไม่มีทางรอด เพราะเขารู้ว่าเราอยากได้ยินคำว่าอะไร และคำว่าอะไรนั้นถ้ามันมีแค่คืบคนอย่างเขาก็สามารถอธิบายได้เป็นศอก เขาเป็นราชาแห่งถ้อยคำ พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ล้วนศิโรราบต่อเขา ?รักคุณ?เขาเอ่ยประโยคนี้เพราะรู้สึกจริงๆ หรือเพียงถ้อยคำที่เชี่ยวชาญช่ำชองไม่ต่างจาการเอ่ยประโยค ?กินข้าวยัง ไปไหนมา? เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งไว้ใจตัวหนังสือเขา

8.เขาทำให้คุณเคยชินที่จะมีเขา

เขาพยายามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ ด้วยการสร้างเรื่องราวความผูกพัน เติมน้ำมันให้พลังงานคุณเรื่อยๆ เขาอาจส่งเพลงซึ้งๆ คลิปตลกๆ ภาพน่ารักๆ ให้คุณตลอดเวลา แล้ววันหนึ่งเขาก็จะหยุด หายไปสักพัก เพื่อให้ต่อมความคิดถึงของคุณเริ่มทำงาน คุณจะรู้สึกโหยหา เหมือนคนติดยาที่กำลังลงแดง เขาทำให้คุณเสพติดความเคยชิน และเมื่อเขาไม่ให้ในสิ่งที่คุณเคยได้ คุณก็จะรู้สึกหงุดหงิดและต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

9.เขาทำให้คุณคิดว่าคุณเป็นคนคอนโทรลทั้งที่จริงเขาคุมเกม!

ความสัมพันธ์ทั้งหมดคุณอาจคิดว่าเป็นผู้ควบคุม แต่จริงๆ แล้วเขาปล่อยให้คุณคิดว่ามันเป็นแบบนั้น เขาสร้างความรู้สึกทีละเล็กละน้อย เขาทำให้คุณยินยอมโดยคุณไม่รู้ตัว แผนการของเขาแนบเนียน จนวันหนึ่งคุณก็พบว่าอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นตัวของตัวเองได้ ถึงตอนนี้คุณก็ติดกับดักของเขาไปเรียบร้อยแล้ว

10.เดินออกจากโลกออนไลน์มาสู่โลกออฟไลน์

ถึงที่สุดแล้ว ทั้งคุณและเขาจะไม่สามารถคุยกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ได้นาน เพราะพอถึงจุดหนึ่งมันจะรู้สึกเต็มอิ่มในบทสนทนา ถึงเวลาต้องเดินออกจากหน้าจอมาเจอกัน ถ้าเขาปฏิเสธที่จะเจอคุณทั้งๆ ที่คุณเอ่ยปากชวนเขาเป็นรอบที่ห้า นั่นอาจแปลว่า เขาอยากคุยกับคุณแค่ขำๆ พอใจที่จะรู้จักคุณแค่ในโลกออนไลน์ไม่ใช่โลกออฟไลน์ เขาไม่ได้คิดจริงจังจริงใจมากไปกว่านี้ หรือบางทีเขาอาจมีบางอย่างซึ่งปิดบังคุณอยู่ เช่น เขาอาจมีแฟนแล้ว และเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ

(ล้อมกรอบ)

ความสัมพันธ์ควรเริ่มต้นที่ความเปิดเผย จริงใจ รักในโลกออนไลน์เกิดขึ้นได้ก็จริง แต่ความสัมพันธ์มันเปราะบาง ทางที่ดีควรออกจากโลกของความฝันมาสู่โลกแห่งความจริง โลกภายนอกมีเสน่ห์จะตาย มันมีกลิ่นและบรรยากาศ มีเสียงกระซิบกระซาบ มีอ้อมกอด มีรอยยิ้มและแววตาของคนที่รักให้สัมผัส

(ล้อมกรอบ)

ผู้ชายจริงใจกับผู้ชายสร้างภาพเวลาเหงาเขาจะมีลีลาในการพูดต่างกัน

ผู้ชายจริงใจ & ผู้ชายสร้างภาพ

เหงา ยิ่งดึกยิ่งเหงา โดยเฉพาะกับเรา ?คนไม่มีใคร?

ผู้ชายจริงใจ เหงาก็คือเหงาไม่ได้แปลว่าอย่างอื่น แต่สำหรับผู้ชายสร้างภาพ เหงาจริงหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่เขายังแอบเนียนอ่อยทิ้งท้ายเพื่อเปิดโอกาสให้สาวๆ ได้เข้ามาทักทาย ผู้ชายสร้างภาพจะมีเสน่ห์อย่างหนึ่งคือ เขาปากหวาน เป็นพวกมีพรสวรรค์ในการพูด รู้จักเลือกใช้คำ เขารู้ว่าคำไหนที่ปล่อยออกไปแล้วมีผลต่อสาวๆ คำไหนที่สาวๆ อ่านแล้วให้ความรู้สึกจะคลั่งตายเอาให้ได้ ไม่แปลกใจหรอกหากพวกเขาจะเป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมผลิตคำคมพร่ำเพรื่อแต่หล่อไว้ล่อหลอกสาว ซึ่งนี่สอดคล้องกับสิ่งที่นักจิตวิทยาคนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า ?การตกหลุมรัก? สำหรับผู้ชายเป็นเรื่องของการมองเห็น (สายตา) ขณะที่ผู้หญิงจะชอบใครก็จาก Dialogue (ได้ยิน) จากบทสนทนา ถ้าสังเกตในเฟซบุ๊กผู้หญิงมักพรีเซ้นต์บอดี้ โชว์สัดส่วนของร่างกาย ขณะที่ผู้ชายมักตั้งสเตตัสเป็นตัวอักษร โชว์ความคิดหล่อๆ

บทสนทนาแบบนี้

เขาคือ ?ผู้ชายจริงใจ? VS ?ผู้ชายสร้างภาพ?

คำพูดที่ทำให้เราเห็นภาพคร่าวๆ ความแตกต่างของสองชาย

สถานการณ์ 1 เมื่อเราโพสต์ว่า ?มีเรื่องไม่สบายใจเลยอ่ะ เศร้าจัง?

ผู้ชายจริงใจ: ?มีเรื่องอะไรเล่าให้ฟังได้นะครับ อาจจะช่วยได้ไม่มากหรอก แต่รับฟังได้นะ? (ในคอมเมนท์)

ผู้ชายสร้างภาพ: ?เป็นไรรึเปล่าคับ? (ใน message)

สิ่งที่เขามาส่งในกล่องข้อความ ทำทีเป็นห่วงเราแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ความจริงแล้วกลัวมีคนมาตาม กลัวเพื่อนของเพื่อนมาเห็น เพราะภัยของชายสร้างภาพคือ mutual friend ไม่อยากให้ใครรู้ ต้องคุยเซฟๆ ไว้ก่อน

สถานการณ์ 2 เมื่อเขาโพสต์สเตตัส?

ผู้ชายจริงใจ: ?ถึงจะไร้คนรัก แต่ก็รักคน Like นะครับ? (อ้วกดี 555)

ผู้ชายสร้างภาพ: การที่เรารักใครสักคน ไม่ใช่เพียงเพราะความรู้สึก แต่มันคือจิตวิญญาณ และความรักที่เปล่งประกายจากภายใน (พี่ไปเขียน นิยายขายไหม)

สถานการณ์ 3 เขาอยากบอกว่า?

ผู้ชายจริงใจ: วันนี้มือถือเสียมีอะไรทัก เฟชนะครับ

ผู้ชายสร้างภาพ: วันนี้โทรศัพท์เสียไปซ่อมมา โชคดีจังกู้ข้อมูลได้หมด ยกเว้น Line ตอนนี้ Line ต้อง Add ใหม่นะครับพี่ ID: phuchailoksaoyed2011 (ใช้กลวิธีดูดสาวๆ ที่ผ่านมาให้เข้ามาเจอ ID Line)

สถานการณ์ 4 ไลน์นัดเจอกับเขา

ผู้ชายจริงใจ: อ๋อ ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้เย็น 4 โมง โอเคมั้ย

ผู้ชายสร้างภาพ: อืมมม เดี๋ยวผมดูก่อนแล้วบอกอีกทีนะ แล้วเมื่อคืนนอนกี่ทุ่มเหรอครับ (เปลี่ยนเรื่องเฉไฉ ต้องไปสับคิวอยู่)

By baipat nopnom



บทความแนะนำ


ร้านอาหารพากินแนะนำร้านอาหารข่าวเด่นrosecafeขนมหวานข่าววันนี้ร้านขนมหวานแนนำร้านเด็ดดูดวงเดือนกรกฎาคมอ.แหม่มร้านเบเกอรี่cafeร้านroseดูดวงข่าวด่วนทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก