8 เรื่องที่สาว ๆ ต้องรู้ก่อนคิดเสริมคาง
รวม 8 เรื่องต้องรู้ก่อนคิดเสริมคาง เอาใจคุณสาว ๆ ที่อยากมีใบหน้าเรียวเป๊ะ ดูสิจะต้องรู้เรื่องอะไรก่อนศัลย์กันบ้าง ตามมาดูกัน
สมัยนี้ไม่ว่าใครจะมีคางสั้น หรือคางยาว ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป
เพราะเราสามารถแก้ไขปรับรูปหน้าให้ดูสมบูรณ์แบบได้ด้วยการทำ "ศัลยกรรมคาง"
ซึ่งปัจจุบันก็เป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้ก่อนที่จะคิดไปเสริมคางนั้น สาว ๆ รู้กันหรือยังคะ
ว่าเราจะต้องรู้เรื่องอะไร และต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง ถ้ายังไม่รู้
วันนี้เราจะขออาสารวบรวมสิ่งสำคัญที่คุณควรจะต้องรู้ก่อนไปเสริม
คางมาให้ศึกษากันค่ะ
งานนี้ใครที่กำลังวางแผนจะไปขึ้นเขียงทำคางอัพสวยพลาดไม่ได้
รีบตามมาดูกันเลย...
1. อายุเท่าไรถึงทำศัลยกรรมคางได้
สำหรับ
สาว ๆ คนไหนที่คิดจะทำศัลยกรรมคาง ช่วงอายุที่เหมาะสมได้แก่ ตั้งแต่ 18
ปีขึ้นไป เพราะช่วงวัยนี้ถือว่าร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
2. เลือกสถานที่เสริมคางอย่างไรดีสำหรับการทำศัลยกรรมคาง หรือแม้แต่การทำศัลยกรรมอื่น ๆ สาว ๆ
ควรจะเลือกทำกับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน
และมีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ทั้งนี้ควรเลือกโรงพยาบาลที่เป็นตัวเลือกไว้สัก 2-3 ที่
จากนั้นให้ลองเข้าไปคุยกับคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษา
พร้อมกับดูผลงานของคุณหมอประกอบการตัดสินใจ
วิธีนี้จะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
3. วัสดุที่ใช้เสริมคางมีอะไรบ้างสำหรับ
วัสดุที่ใช้เสริมคางมีทั้งแบบ "ซิลิโคนแท่ง" และแบบ
"ฉีดไขมันหรือสารเสริมคาง"
ซึ่งแบบเสริมด้วยซิลิโคนก็จะเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก
โดยวิธีเสริมด้วยซิลิโคนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
การศัลยกรรมจากด้านในช่องปาก และการศัลยกรรมจากด้านนอกช่องปาก
ส่วนวิธีฉีดก็จะเป็นการนำสารที่เป็นของเหลวมาฉีดเสริมเข้าไปที่คาง
แต่ทั้งนี้การเสริมคางด้วยซิลิโคน
ปัจจุบันจะได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มากกว่า
4. เลือกเสริมคางให้มีขนาดพอดีกับใบหน้า อย่าเว่อร์เกินไปการเสริมคางใช่ว่าจะสามารถเลือกทำขนาดเท่าไรก็ได้นะคะสาว ๆ
ซึ่งของอย่างนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและขนาดใบหน้าของแต่ละคนด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อความสวยงาม และหลีกเลี่ยงผลเสียในระยะยาว
ซึ่งถ้าหากใครที่เสริมคางขนาดที่ไม่เหมาะสมหรือใหญ่เกินไปก็อาจส่งผลกระทบ
ต่อผิวหนังและกระดูกคางในอนาคตได้
5. ก่อนเสริมคางต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อน
ทำศัลยกรรมเสริมคาง สาว ๆ ควรงดรับประทานยาประเภทสเตียรอยด์
ทั้งนี้ถ้าใครที่รับประทานยาตัวใดหรืออาหารเสริมตัวใดอยู่
ควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด
รวมถึงควรจะแปรงฟันเพื่อทำความสะอาดช่องปากให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัดด้วย
6. การดูแลหลังจากผ่าตัดเสริมคางหลังจากผ่าตัดจะมีอาการบวม ซึ่งสาว ๆ
สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมได้ นอกจากนี้จนกว่าแผลจะหาย
ไม่ควรให้คางได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งเวลานอนก็ควรนอนหงายและหนุนหมอนสูง
ๆ รวมถึงควรงดรับประทานอาหารรสจัด อาหารแสลง
และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จทุกครั้งควรบ้วนปากทำความสะอาดเพื่อป้องกัน
การติดเชื้อ
ที่สำคัญจะต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้แผลหาย
เร็วยิ่งขึ้น
7. แผลผ่าตัดต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะหายโดยปกติแล้วหลังการผ่าตัด แผลจะมีอาการบวมอย่างน้อยประมาณ 1-2 สัปดาห์ และจะเริ่มเข้าที่และหายเป็นปกติโดยใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน
8. ทำใจรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นสำหรับเคสที่ทำศัลยกรรมคางแล้ว บางรายอาจเกิดการผิดพลาด
หรือมีผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมาได้
ซึ่งใครที่อยากจะทำควรจะต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้เอาไว้ด้วย
ซึ่งผลที่อาจเกิดขึ้นได้โดยส่วนใหญ่ก็คืออาการอักเสบหรือติดเชื้อ
ซึ่งในระยะแรก ๆ ที่แผลยังไม่หาย
ควรจะรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน
เพราะถ้าปล่อยไว้จนรุนแรงอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเอาซิลิโคนออกได้
นอกจากนี้หลาย ๆ คนก็อาจจะมีอาการคางเบี้ยว
ซึ่งเคสนี้ควรไปให้แพทย์ช่วยแก้ไข หรือบางรายก็อาจมีอาการชาที่ปากได้
เนื่องจากแท่งซิลิโคนอาจจะไปกดทับเส้นประสาท
ซึ่งในกรณีนี้อาการจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะกลับมาเป็นปกติได้เองค่ะ
เมื่อ
ได้ศึกษาข้อมูลดี ๆ กันไปแล้ว คราวนี้สาว ๆ
คนไหนที่กำลังคิดอยากจะไปเสริมคางอัพสวยก็ไม่ต้องกลัวพลาดแล้วล่ะค่ะ
แค่เตรียมตัวให้พร้อมตามข้อมูลที่เราได้บอกไป
เท่านี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ^^