พื้นฐานคิ้ว 3 ทรงที่เหมาะกับสาวไทย #รักเพื่อนช่วยเพื่อนเลือกทรงคิ้วด้วยนะ

คยเป็นมั้ย? ที่เรารู้สึกว่าวันนี้ ฉันสวย วันนี้ฉันแก่

วันนี้ฉันหน้าดุ ทั้งๆ ที่ใช้โทนสีก็ปกติเหมือนทุกวัน

แต่ใบหน้าแลดูไม่เหมือนเดิม และถ้าสาวๆ

เกิดคำถามเหล่านี้ในทุกเช้าของการเริ่มต้นวันใหม่

ให้สังเกตที่คิ้วก่อนเป็นอันดับแรกเลยจ๊ะ เพราะตัวรูปทรงคิ้วนี่แหล่ะ!

โดยปกติเราจะเห็นว่าบน

โลกใบนี้มีรูปทรงคิ้วเยอะแยะมากมาย ไม่รู้จะเลือกทรงไหนดี เอาเป็นว่า

GirlDaily สรุปมาให้เลยล่ะกัน ว่ามีเพียง 3

ทรงพื้นฐานเท่านั้นที่จะช่วยให้คิ้วแลดูไม่เป็นปลิง

1. Natural Rounded / Soft Angled (รูปทรงโค้ง เหลี่ยมน้อย)

รูปทรงนี้จะเหมาะกับรูปหน้าไข่,

ทรงเหลี่ยม(ส่วนที่เป็นเหลี่ยมตรงคิ้วจะรับกับโครงหน้าที่มีช่วงขากรรไกร

กว้างพอๆ กับช่วงโหนกแก้ม ใบหน้าจึงดูหวานขึ้น ไม่ดูดุ),ทรงเพชร

(เขียนส่วนโค้งให้สูงขึ้นกว้าง 2 รูปหน้าที่พูดถึงก่อนหน้านี้

เพราะเนื่องจากรูปหน้าทรงเพชรจะมีช่วงขมับที่กว้าง คางแหลม

วิธีการเขียนคิ้วให้โค้ง แถบจะไม่มีเหลี่ยม หรือมีให้น้อยที่สุด

วิธีการเขียน

ให้สังเกตจุด b จะมีความโค้ง และเหลี่ยมเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ไล่ลงมาตรงปลายหางคิ้ว

Natural Flat / Korean Style (รูปทรงฐานแบน)

ทรงนี้ฮิตเป็นพลุแตก

ซึ่งถ้าใครติดตามไอดอลเกาหลีต้องเห็นทรงคิ้วแบบนี้อยู่บ่อยๆ แน่นอน

เพราะส่วนใหญ่คนเกาหลีจะมีโครงหน้ารูปไข่ หรือโครงหน้ายาว

ซึ่งเหมาะกับวิธีการเขียนทรงแบนราบ หรือ Flat

เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูเป็นวัยละอ่อน

และสาวไทยก็มีโครงหน้าความเป็นเอเชียคล้ายๆ กับสาวเกาหลี

จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าทำไมสาวไทยหลายคนจึงติดใจทรงคิ้ว cute แบบนี้

แต่ข้อควรระวังของทรงนี้ก็มีนะจ๊ะ การเขียนทรง flat

ควรเลี่ยงสีแต่งคิ้วที่ค่อนไปทางดำสนิท และเขียนไม่หนาเกินไป

มิฉะนั้นจะเหมือนเอาตัวปลิงมาแปะ เหมือนที่ใครหลายคนมักพูดว่า

"รักเพื่อช่วยเพื่อนเขียนคิ้วแบบไม่ปลิง"

วิธีการเขียน

ให้ฐานรูป a ถึง c เป็นเส้นค่อนข้างตรง และจากจุด b มา c จะมีเหลี่ยมเล็กน้อยเพื่อหักมุมลงมายังปลายคิ้วตามภาพ

Natural Arched (รูปทรงโค้ง เหลี่ยมชัดเจน)

ทรงนี้เป็นทรงที่เราเห็นสาวโซนยุโรปเขียนบ่อยมาก

และมีองศาความเหลี่ยมที่คมชัดเป๊ะเวอร์แบบพระนางคลีโอพัตรากันเลยทีเดียว

ซึ่งทรงที่คมแบบนั้นไม่เข้ากับสาวไทย

เราจึงต้องปรับให้เข้ากับโครงหน้าคนเอเชียมากที่สุด

และบอกเลยว่าทรงนี้ก็เหมาะกับสาวหน้ากลมที่ต้องการสร้างมิติให้ใบหน้ามี

เหลี่ยม มีมุมบ้างตามอัธยาศัยนั่นเอง

วิธีการเขียน

สังเกตได้ว่าจากจุด b จะมีเหลี่ยมที่เห็นชัดมากกว่าทุกทรงคิ้ว

และปลายหางค่อยข้างบาง เหมือนเป็นการไล่จังหวะความหนาจากหัวคิ้วไปปลายคิ้ว

ส่วนข้อพึงระวังคือ

ไม่ควรจะเขียนให้เป็นเส้นบางจนกลายเป็นทรงคิ้วคันธนูแบบสมัยก่อนที่เค้าเลิก

ฮิตไปตั้งแต่สมัยคุณป้านู้นนนนน

แท้จริงแล้วการจะเลือกทรงคิ้วรูปแบบไหน อย่างไรนั้น

ไม่มีอะไรมากำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับว่า ในวันนั้นๆ

แม่หญิงทั้งหลายต้องการให้ตัวเองเป็นผู้หญิงสายแบ้ว หรือดูหน้าเกรงขาม

ก็ใช้ตัวรูปทรงคิ้วนี่แหละ เป็นตัวกำหนดบุคลิกภาพเราได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

ต่อจากนี้ก็ขอให้โชคดี ไม่เขียนคิ้วเป็นปลิงน้อยอีกต่อไป เพี้ยง!!!

ขอบคุณรูปภาพนางแบบจาก shuuemurath,thammyhanquocและcorinnabsworld.blogspot