10 ร้านคาเฟ่กรุงเทพฯ น่ารักและน่านั่ง ที่ต้องตามไปโดน

อ่าน 11,508

ร้านคาเฟ่ กรุงเทพฯ น่ารัก ๆ บรรยากาศดี ที่มีเมนูเครื่องดื่มและอาหารแสนอร่อยพร้อมสรรพ เป็นแหล่งพักผ่อนและที่เที่ยวกรุงเทพฯ สบาย ๆ ชิล ๆ ใครรักและชื่นชอบคาเฟ่สวย ๆ แบบนี้ต้องไม่พลาด

ร้านคาเฟ่ในกรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไว้สำหรับพักผ่อนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้มีร้านคาเฟ่หรือร้านกาแฟ

อยู่แถบจะทุกหัวมุมถนน แต่จะมีคาเฟ่สักกี่ที่ที่เรารู้สึกว่าบรรยากาศดี

บริการทั้งอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่มอร่อย ๆ

วันนี้เราเลยขอคัดเอาร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ

กางแผนที่บอกพิกัดและตำแหน่งให้เพื่อน ๆ ได้ไปตามรอยกัน

จะมีที่ไหนโดนใจบ้างนั้น ตามมาดูกัน

1. Flowerpot Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe

คาเฟ่น่านั่ง ย้ำเลยว่า !!! น่านั่งแบบสุด ๆ

ตั้งอยู่บริเวณรามคำแหง 21 ตรงข้ามกับสถาบันรัชต์ภาคย์ รับรองว่าหาไม่ยาก

เดินทางสะดวก ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในร้าน

คุณจะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นสีเขียวเย็นตาของต้นไม้

ซึ่งทางร้านจงใจใช้นำมาประดับตกแต่ง

นอกจากความร่มรื่นแล้วยังช่วยสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายให้กับลูกค้าได้เป็น

อย่างดี ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ โซนในร้าน

ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น เผยให้เห็นผนังอิฐสีขาว

ส่วนใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ อยากนั่งจิบเครื่องดื่มอร่อย ๆ ในสวน

ก็ทำได้ตามอัธยาศัย พลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่มแนะนำอย่าง Milkshake

สั่งคู่กับของหวานอย่างเค้กกระถาง สีสันชวนน่าทาน

รสชาติความหวานตัดเข้ากันอย่างลงตัว

เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่คุณจะได้รับรู้ถึงบรรยากาศความหอมหวานที่ลอยอบอวลตลอด

ทั้งวัน

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.30-18.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

ที่อยู่ : ซอยรามคำแหง 21 ตรงข้ามสถาบันรัชต์ภาคย์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 099 469 5916

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe

2. Unbranded Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Unbranded Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Unbranded Cafe

ร้านคาเฟ่บริเวณถนนตะนาว

อยู่ถัดจากศาลเจ้าพ่อเสือขึ้นไปทางถนนราชดำเนิน

บรรยากาศโดยรวมเป็นร้านคาเฟ่สบาย ๆ ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง

จึงทำให้ที่ร้านมีลูกค้าต่างแวะเวียนเข้ามาลิ้มลองความอร่อยกันอย่างไม่ขาด

สาย มีลูกค้านั่งเรียงเป็นแถวยาวตรงบาร์กาแฟเต็มทุกที่นั่งเกือบตลอดทั้งวัน

ภายในร้านตกแต่งอย่างน่ารักด้วยผนังปูกระเบื้อง

โดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มและชีสเค้กที่แสนอร่อย

ที่นุ่มละมุนลิ้นเป็นที่สุด มีทั้ง Raspberry Cheesecake, Vanilla

cheesecake พลาดไม่ได้กับซิกเนเจอร์ของทางร้าน Unbranded Cheesecake

หรือถ้าเป็นเบเกอรี่ ที่นี่มีครัวซองต์สไตล์ฝรั่งเศสแท้

สโคนที่เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดแยม รับรองว่าลองได้ชิมสักคำ

เป็นต้องถูกปากและถูกอารมณ์ จนต้องวกกลับมาอุดหนุนเป็นรอบที่สอง เผลอ ๆ

อาจกลายเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ไปโดยไม่รู้ตัว

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.30-19.30 น. (ปิดทุกวันอังคาร)

ที่อยู่ : 180 ถนนตะนาว แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 095 254 1044

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Unbranded Cafe

3. Plantation Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plantation Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plantation Cafe

ร้านคาเฟ่แสนเก๋ที่เกิดจากการดัดแปลงพื้นที่ของโกดังเก็บผ้า

มาปรับเปลี่ยนดัดแปลงเป็นร้านคาเฟ่สไตล์ใหม่

แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะดึงดูดสายตาไปไม่น้อยกว่ารสชาติอาหารและเครื่องดื่มใน

ร้าน เห็นจะเป็นการดีไซน์ออกแบบและตกแต่งภายในร้าน

โดยการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสัน เป็นต้นว่าเก้าอี้สีสันฉูดฉาดอย่างสีแดง

สีเหลือง สีส้ม นำมาเข้าคู่กับโต๊ะไม้สีดำและสีน้ำตาล ดูเข้ากันอย่างลงตัว

พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างโคมไฟ กระถางต้นไม้เก๋ ๆ หรือแม้กระทั่งจักรยาน

ก็ถูกนำมาเป็นอุปกรณ์ในการตกแต่งร้านด้วยเช่นกัน

เมนูอาหารที่น่าสนใจของที่นี่ได้แก่ Cabonara 5 cheese, BBQ Kurobuta ribs,

Quinao salad และพลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่ม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคอกาแฟตัวจริง

ซึ่งทางร้านได้คัดเลือกเมล็ดกาแฟอย่างดี

รังสรรค์เป็นเมนูกาแฟให้คุณได้ลองเลือกดื่มหลากเมนู เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

ทานแค่อึกเดียวก็รับรู้ได้โดยทันที

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 11.00-23.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-23.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

ที่อยู่ : ถนนคลองลำเจียก เลียบทางด่วนรามอินทรา บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

เบอร์โทรศัพท์ : 084 670 6772

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Plantation Cafe

4. Chubby Cheeks

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkok

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkok

หนึ่งในร้านคาเฟ่ซอยอารีย์บรรยากาศน่านั่ง

เหมาะสำหรับไว้นั่งชิลสังสรรค์

ใครที่เข้ามาที่นี่เป็นต้องถูกใจในสไตล์การตกแต่งที่น่ารักและอบอุ่น

เหมือนว่ากำลังนั่งอยู่ในบ้านของตัวเอง

เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นรวมถึงการตกแต่งภายใน เน้นใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก

ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะนั่งพื้น เคาน์เตอร์สั่งเมนู

ช่วยสร้างบรรยากาศภายในร้านให้ดูอบอุ่น ชวนให้เอาตัวหย่อนลงนั่ง

จนลูกค้าหลายคนต้องบ่นอุบว่านั่งแล้วไม่อยากลุกกลับบ้าน

พลาดไม่ได้กับเมนูของหวานเด็ดของทางร้าน "Fresh Strawberry Cheesecake" "Chocolate Pot with ice cream" และเมนูเครื่องดื่มเด็ด "Chubby macadamia chocolate" จัดเป็นเมนูที่รับประกันความน่าหม่ำที่ต้องยกนิ้วโป้งให้เลย

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.

ที่อยู่ : ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ ซอยพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 089 121 9700

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkok

5. Cafe Mademoiselle

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselle

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselle

คาเฟ่เล็ก ๆ น่ารักที่บรรยากาศไม่ธรรมดา

แถมพ่วงมาด้วยความอบอุ่นและความอร่อยของอาหารรสชาติแบบฝรั่งเศสแท้ ๆ

โดดเด่นด้วยป้ายโลโก้ร้านที่ทำจากไฟนีออนสีขาว

ภายในร้านเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย แต่ไม่ทิ้งลายความมีสไตล์เก๋ไก๋

เฟอร์นิเจอร์เน้นโทนไม้สีอุ่น

แต่หลายคนก็อดติดใจกับบรรยากาศโซนนอกร้านไม่ได้

โดดเด่นด้วยเก้าอี้นั่งและโต๊ะสีแดง ล้อมรอบด้วยรั้วกำแพงไม้ไผ่

ประดับตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียว ดูตัดกับสีของเฟอร์นิเจอร์ดูดีไม่หยอก

เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารเช้าง่าย ๆ

เป็นเบเกอรี่ที่อบเองทำเองจากเจ้าของร้าน

รับประกันความใหม่และความสดได้ทุกวัน

เหล่านี้เป็นความพิถีพิถันในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ

ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้ามานักต่อนัก มีทั้งครัวซองต์ แซนด์วิช ซุป

สลัด และเครื่องดื่มอร่อย ๆ

ใครอยากลองลิ้มชิมความอร่อยรสชาติอาหารฝรั่งเศสแท้ ๆ

ต้องไม่พลาดแวะมาที่นี่เด็ดขาด

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-16.30 น.

ที่อยู่ : (บริเวณด้านหลังโรงเรียน St. Andrews School Bangkok) ซอยสาทร 4 บางรัก กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 092 280 7925, 087 078 3684

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselle

6. Hey! Coffee (สาขาเกษตร-นวมินทร์)

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Hey! Coffee

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Hey! Coffee

ร้านคาเฟ่น่ารักและบรรยากาศดี มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 4 สาขา

ได้แก่ พระราม 9 ซอย 53, ทางด่วนพระราม 9, ทางด่วนประชาชื่น

และเกษตร-นวมินทร์ บรรยากาศโดยรวมของที่นี่เน้นการตกแต่งสไตล์ร้านกาแฟในสวน

ที่มองดูแล้วชวนร่มรื่น

ตกแต่งด้วยต้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ

แต่เจ้าของเขาแอบกระซิบมานิดหนึ่งว่าถ้าใครที่ชอบทานกาแฟเป็นพิเศษ

แนะนำให้มาที่สาขาเกษตร-นวมินทร์

เพราะสาขานี้เจ้าของมีความตั้งใจจะให้เป็นร้าน Specialty Coffee

ที่นำเสนอกาแฟดี ๆ จากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก ลองคุณได้ลิ้มรสดูแล้ว

คุณจะสัมผัสได้ถึงคุณภาพของรสชาติกาแฟ และความเอาใจใส่ในทุก ๆ

กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ

เป็นอีกหนึ่งร้านคาเฟ่บรรยากาศดีที่จะทำให้คุณฟินในรสชาติกาแฟอย่างหาตัวจับ

ได้ยากในเมืองไทย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.30-18.30 น.

ที่อยู่ : 13/30 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 092-946-0855

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Hey! Coffee

7. Little Hideout

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Little Hideout

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Little Hideout

หนึ่งในร้านคาเฟ่ชื่อดังบริเวณย่านตลิ่งชัน

ที่กำลังเป็นที่พูดถึงแบบปากต่อปาก ลองเมื่อเดินเข้ามาในร้าน

ลูกค้าจะรับรู้ได้ถึงรายละเอียดและความพิถีพิถันในการตกแต่ง

ไม่ว่าจะเป็นซอกมุมไหนของร้านก็ดูน่านั่งไปเสียหมด

การตกแต่งโดยรวมออกมาในรูปแบบ Vintage Style มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor

เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีขาวและสีน้ำตาล ประดับด้วยโคมไฟ

ที่ช่วยเพิ่มดีเทลการตกแต่งให้ดูเก๋ไก๋มากกว่าเดิม จุดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้

เขาฝากบอกมาว่า อยู่ที่การนำเสนอความใส่ใจ และวัตถุดิบนำเข้าต่าง ๆ

ที่เป็นพรีเมียมจริง ๆ รวมไปถึงเมนูขนมเค้กสไตล์ฝรั่งเศส

(ที่มีจำหน่ายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น) เมนูขนมหวานแนะนำของที่นี่

ลอง "Oh! New York" เป็น New York Cheesecake

พิเศษที่การตกแต่งจานทำให้เห็นว่าเป็นเมือง Newyork จริงๆ

น่าจะถูกใจคนทานชีสแน่น ๆ สไตล์ newyork ทานพร้อมกับ raspberry sorbet และ

sauce berry รสเปรี้ยวนิดๆ

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น. (เค้กเริ่มขาย เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป)

ที่อยู่ : 172 ถนนฉิมพลี (ปากซอยฉิมพลี 8/1) แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 081 821 8795

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Little Hideout

8. Blue Dye Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Blue Dye Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Blue Dye Cafe

คาเฟ่ที่ตกแต่งอย่างสวยเก๋ด้วยผ้าวัสดุย้อมคราม

และของตกแต่งในสไตล์วินเทจต่าง ๆ ตัวร้านค่อนข้างกว้างขวาง

ลูกค้าจึงสามารถเลือกนั่งที่โต๊ะไม้ด้านในสวย ๆ หรือจะนั่งข้างนอก

ก็แสนจะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่ Blue Dye Cafeมีอาหาร

ขนมหวาน และเครื่องดื่มให้บริการอย่างเป็นกันเอง

เมนูอาหารฝรั่งที่นี่ก็ใช่ว่าจะต้องปีนบันไดทาน

รับรองว่าเป็นอาหารฝรั่งฟิวชั่นที่ทานง่าย

สามารถดัดแปลงเพิ่มเติมได้ตามใจคนสั่ง มีเมนูแนะนำอย่าง "สปาเกตตีหมูน้ำตก"

จานใหญ่แบบจัดเต็มมาก ๆ เมนูเครื่องดื่มกาแฟของที่นี่ใช้เมล็ดกาแฟ Blend

จาก C&F ที่คัดสรรมาเพื่ออรรถรสในการดื่มของลูกค้า

จนติดใจกลับมาอุดหนุนกลายเป็นลูกค้าประจำของที่นี่กันหลายต่อหลายคน

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

ที่อยู่ : สุขุมวิท 36 ซอยนภาศัพท์ 1 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 083 714 5333

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Blue Dye Cafe

9. The Hamlet

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari

The Hamlet

คอมมิวนิตี้มอลล์ที่ตั้งอยู่ในซอยอารีย์ 3

เพื่อใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์สำหรับวันพักผ่อน

และชวนสะดุดตาด้วยสวนสวยร่มรื่นในสไตล์อังกฤษไม่เหมือนใคร

รายล้อมด้วยบ้านหลังใหญ่สีขาว ที่อัดแน่นไปด้วยมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ

ยิ่งถ้ามาในตอนกลางคืน จะมีดนตรีคอยขับกล่อมให้ได้ฟังเพลิน ๆ อีกด้วย

พลาดไม่ได้กับโซน Cafe' in hamlet ที่ตั้งอยู่ทางโซนด้านหน้า

ที่ได้รับการตกแต่งที่ดูอาร์ต ๆ บริการทั้งขนม ชา และกาแฟ

ถึงแม้ว่าในร้านอาจจะมีจำนวนที่นั่งไม่มาก

แต่ก็ยังมีที่นั่งนอกร้านไว้เป็นที่สำรอง ระหว่างที่คุณดื่มเครื่องดื่ม

ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสวนสไตล์อังกฤษ

ที่ชวนมองดูสวยแปลกตาไม่ซ้ำใครที่ไหน ใครที่ลองได้มานั่งชิลที่นี่

รับรองคุณจะต้องเพลิดเพลินไปกับอรรถรสของเครื่องดื่มและบรรยากาศดี ๆ

ที่นี่ด้วยแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.30-20.30 น.

ที่อยู่ : 31 อารีย์ซอย 3 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพ

เบอร์โทรศัพท์ : 02 270 3341

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari

10. Sundays

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sundays

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sundays

ร้านคาเฟ่เรือนกระจกย่านพระรามเก้า

สิ่งที่ทำให้คาเฟ่แห่งนี้ดูโดดเด่นต่างจากที่อื่น

น่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางร้าน

ซึ่งเป็นความตั้งใจอย่างแรงของเจ้าของที่อยากให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นเหมือน

พื้นที่พักผ่อนสบาย ๆ ด้วยเพราะตัวเรือนออกแบบมาในลักษณะของเรือนกระจก

ถึงแม้ว่าลูกค้าจะนั่งอยู่ในโซนข้างใน ก็สามารถพักสายตาไปกับต้นไม้สีเขียว ๆ

ที่อยู่ข้างนอกร้านได้อย่างสบายตา รวมถึงของตกแต่งเก๋ ๆ อย่างประตูลวดดัด

ภาพวาดผลงานศิลปะ โคมไฟ ที่เมื่อนำมาจัดวางแล้วดูเข้ากันอย่างลงตัว

เมนูอาหารจานเด็ดของที่นี่ ได้แก่ แอนเจิ้ลแฮร์น้ำพริกนรกมันกุ้ง

ข้าวผัดกะเพรามีทบอล ข้าวไก่อบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเมนูของหวานไว้เอาใจ

เช่น Brownies n' Cream ที่สั่งมาทานคู่กับเครื่องดื่มอร่อย ๆ อย่าง Sea

Salt Hot Chocolate บอกเลยว่าจะเป็นการจับคู่ที่ลงตัวแบบสุด ๆ

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

ที่อยู่ : พระราม 9 ซอย 62 (เสรี 8 ซอย 12) เขตสวนหลวง สวนหลวง กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 099 224 4647

เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Sundays

บอกเลยว่าแต่ละร้านน่ารัก บรรยากาศดี และชวนให้น่านั่งแบบสุด ๆ

จะไปกับเพื่อนก็ดี ครอบครัวก็โดน หรือจะเป็นคนรักก็ใช่

เพราะบรรยากาศร้านนอกจากจะมีส่วนช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูอาหารและ

เครื่องดื่มแล้ว

ยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากวันทำงานหรือเรียนหนังสือที่แสนวุ่นวายลง

ชั่วขณะ บอกพิกัดร้านถึงขนาดนี้แล้ว อย่าลืมตามไปชิลกันนะคะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2559

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เฟซบุ๊ก Sundays, เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari, เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari, เฟซบุ๊ก Blue Dye Cafe, เฟซบุ๊ก Little Hideout, เฟซบุ๊ก Hey! Coffee, เฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselle, เฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkok, เฟซบุ๊ก Plantation Cafe, เฟซบุ๊ก Unbranded Cafe, เฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe



บทความแนะนำ


CreamBirdsAngryFightครีมลายเสือโลตัสเทสโก้cathydollโปรโมชั่นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก