เรียงลำดับการใช้สกินแคร์ให้ถูกต้อง จะได้ไม่งงกันอีกต่อไป!

อ่าน 11,292

การลงทุนเพื่อความสวยคือการลงทุนที่คุ้มค่าของมนุษย์ตัวแม่ แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าหากเราไม่ฉลาดใช้ ก็คงได้ผลลัพธ์ไม่คุ้มเสียแน่นอน

อย่าง

การใช้ทรีตเม้นต์บำรุงผิวหน้าก็เช่นกัน

ถ้าเราลงผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหนักก่อนชนิดอื่นๆ

จะทำให้สกินแคร์ที่เบากว่าทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

เนื่องจากไม่สามารถซึมลงสู่ผิวได้เต็มที่

เหมือนไปปิดทางเดินและอาจจะติดแหงกทับกันอยู่บนผิวหน้าโดยที่เราสังเกตไม่

เห็นหรอก มารู้อีกทีคือ กลายเป็นสิวอุดตันหรือสิวอักเสบกันไป

เพราะฉะนั้นเราควรเริ่มต้นจากการเคลียร์ผิวหน้าให้สะอาด

ตามด้วยสกินแคร์เนื้อเบาสุดไปหาหนักสุดนะจ๊ะ

*1. Remover/Cleansing

ก่อนที่เราจะบำรุงอะไรก็ตาม

ต้องเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อยซ่ะก่อนเพราะโดยส่วนมากรี

มูฟเวอร์จะมีหน้าที่ในการเช็ดเครื่องสำอาง และครีมกันแดดตกค้าง

ซึ่งในเวลาช่วงเช้า เราอาจจะข้ามขั้นตอนนี้ไปได้

*2.Cleanser

หลังจากเคลียร์ทุกอย่างที่ตกค้างผิวไปแล้วรอบหนึ่ง

ควรตามด้วยการล้างหน้าด้วย Cleanser จะใช้เป็นเนื้อเจล น้ำนม โฟม สบู่ ฯลฯ

ก็ตามแต่สภาพผิว

ถือเป็นขั้นตอนในการนำสิ่งที่อุดตันรูขุมขนให้หลุดออกอีกขั้นอย่างอ่อนโยน

3. Exfoliator

หลายคนไม่คุ้นกับคำนี้สักเท่าไร เพราะนางคล้ายๆ

เป็นตัวสครับหลังจากผ่านศึกมาอย่างโชกโชน

ช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

พร้อมเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม

แต่ขั้นตอนนี้ก็แล้วแต่อีกว่าใครจะทุ่มทุนซื้อบางคนคิดว่าจบขั้นตอนทำความ

สะอาดผิวแค่คลีนเซอร์ก็พอแล้ว จะได้ไม่รบกวนใบหน้ามากเกินไปด้วย

4. Toner/Softener/Skin Refiner/Balancer

อ่ะ! งงกันเลยล่ะสิ ทำไมมาหลายชื่อเหลือเกิน แต่ไม่ต้องตกใจไปนะ

เพราะไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร

ต่างล้วนเป็นขั้นตอนการปรับสภาพผิวหน้าให้พร้อมรับการบำรุง

แต่ที่เรียกต่างกันนั้นเพราะขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ

หรือแต่ละโซนทวีปมากกว่าว่าจะใช้คำไหนนั่นเอง

5. Essence/Lotion (ชนิดน้ำ)

เอสเซ้นต์ถือว่ามีความบางเบาที่สุดในบรรดาการเริ่มต้นบำรุงผิวอย่างแท้

จริง เพราะส่วนใหญ่มาในรูปแบบของสูตรน้ำ หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า น้ำตบ

นั่นแหละจ้า

6. Serum

จะสังเกตได้ว่าลักษณะเนื้อสัมผัสจะข้นกว่าเอสเซ้นส์

และมักจะเป็นการบำรุงที่ค่อนข้างเข้าถึงเฉพาะจุดปัญหาผิวได้ดี

ด้วยคุณสมบัติที่ซึมง่าย

หลายคนจึงติดใจรูปแบบการบำรุงผิวชนิดนี้มากกว่าครีม

7. Emulsion / Gel

อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างกับคำว่า " Emulsion (อิมัลชั่น)"

ซึ่งนางมีความคล้ายครีมกึ่งเจล งั้นขอพูดง่ายๆ ตามภาษาชาวบ้านคือ

นางมีความเบาและมีส่วนผสมของน้ำมากกว่าครีม

เหมาะกับสาวผิวผสมถึงผิวมันเหมือนกับชนิดเจล แต่ชนิดเจล

จะมีเนื้อที่บางกว่าอิมัลชั่น

เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันมากๆเน้นให้ความสดชื่นหลังใช้

8. Cream

คนที่มีผิวแห้งส่วนใหญ่จะเลือกใช้ครีม

โดยเฉพาะประเทศที่มีอากาศค่อนข้างหนาว

เพราะครีมมักมีส่วนผสมของออยล์ชนิดต่างๆ

จึงเหมาะกับอากาศแห้งที่ทำให้ผิวแห้งง่าย

แต่ทุกวันนี้ครีมออกมาหลากหลายสูตรมากที่พร้อมกระชากเงินในกระเป๋าเราอยู่

เสมอๆ ซึ่งมีให้เลือกทั้งเดย์ครีม และไนท์ครีม

ส่วนตัวเนื้อครีมจะมีเนื้อสัมผัสที่หนักกว่าทุกชนิดที่กล่าวมา

ซึ่งถ้าอันไหนที่ไม่ทิ้งความเหนอะหนะถือว่าผ่านเลยจ้า

*9.Sunscreen

กันแดดสำคัญเท่าชีวิต

เพราะภัยเงียบทำร้ายผิวคอยแฝงตัวมากับแสงแดดเนี่ยแหล่ะ ทั้งยูวีเอ

ยูวีบีมากันครบ ควรเลือกแบบมี spf15 ขึ้นไปสำหรับอากาศบ้านเรา และอย่าลืม

PA ด้วยนะจ๊ะ ยิ่งมีค่า + มากแค่ไหนก็กันยูวีเอได้มากเท่านั้น

และก็จบขั้นตอนการใช้สกินแคร์เป็นที่เรียบร้อย

ส่วนชนิดไหนที่มีเครื่องหมาย * เราขอขีดเส้นใต้ไว้เลยว่า สาวๆ

จำเป็นต้องใช้นะจ๊ะ นอกนั้นก็เลือกเอาว่าจะเรียงลำดับใช้มันหมดทุกตัว

หรือจะใช้เฉพาะตัวที่เหมาะกับเงินในกระเป๋า

แค่ขออย่างเดียวว่าต้องไม่ลืมที่จะบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอก็พอ



บทความแนะนำ


HomeworkBoutBeddingAllเด็กพม่าโปรโมชั่นผู้หญิงความสวยความงามใบหน้าข่าวล่าสุดเด็กเสียชีวิตทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก