เที่ยวฮอกไกโด ญี่ปุ่น ตามรอยภาพยนตร์แฟนเดย์ ไปสัมผัส 10 ที่เที่ยวฮอกไกโด บรรยากาศสุดโรแมนติก

อ่าน 11,096

ภาพจาก เฟซบุ๊ก แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว

เที่ยวฮอกไกโด ญี่ปุ่น ตามรอยภาพยนตร์แฟนเดย์ ไปสัมผัส 10 ที่เที่ยวฮอกไกโด บรรยากาศสุดโรแมนติก สวยงามราวกับดินแดนในฝัน หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องแฟนเดย์ ได้ออกฉายสู่แฟนหนังชาวไทยแล้ว ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นทั้งนักแสดง เนื้อเรื่อง เพลงประกอบภาพยนตร์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สถานที่ถ่ายทำ ที่ทำให้คนดูประทับใจมาก ๆ ซึ่งไม่เสียแรงเลยที่ทีมงานยกกองถ่ายไปถ่ายกันไกลถึงเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น วันนี้เราจึงจะพาไปตามรอยภาพยนตร์เรื่องนี้กันค่ะ พาไปดูสถานที่ถ่ายทำสวย ๆ บรรยากาศสุดโรแมนติก จะมีที่ไหนบ้าง ไปเก็บข้อมูลกันเลย

1. คลองโอตารุ (Otaru Canal) เมืองโอตารุ

เมืองโอตารุ เป็นเมืองท่าเล็ก ๆ ของกิ่งจังหวัดชิริเบะชิ (Shiribeshi Subprefecture) ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซัปโปโร (Sapporo) บนเกาะฮอกไกโด เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยมีบรรยากาศที่สวยงาม เงียบสงบ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเมืองเก่าแก่ ซึ่งแลนด์มาร์กอันโดดเด่นของเมืองนี้ ก็คือ คลองโอตารุ (Otaru Canal) เป็นลำคลองเล็ก ๆ มีตึกโกดังเก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่ริมคลองด้านหนึ่งอย่างสวยงาม ส่วนอีกฝั่งทำเป็นทางเดินริมน้ำ มีเสาไฟสไตล์ยุโรปเรียงรายไปตลอดแนวคลอง ทำให้บรรยากาศยามเย็นของที่นี่งดงามสุด ๆ เพราะแสงไฟจะส่องแสงลงคลองระยิบระยับ มองออกไปทางด้านหนึ่งจะเห็นภูเขาลูกใหญ่เป็นฉากหลังอย่างสวยงาม สามารถนั่งเรือชมคลองได้ด้วย แล้วอย่างนี้จะบอกว่าที่นี่ไม่โรแมนติกได้ยังไง2. พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Orgel Emporium/Otaru Music Box Museum) เมืองโอตารุภาพจาก NorGal / shutterstock.com พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดคลาสสิกที่ห้ามพลาดของเมืองโอตารุ เพราะที่นี่จะมีการรวบรวมกล่องดนตรีหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์ไว้มากกว่า 1,000 ชิ้น และที่บอกว่าที่นี่มีความคลาสสิกก็เพราะว่าตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่สไตล์ยุโรป สร้างขึ้นจากอิฐแดง ส่วนด้านในจะเห็นเป็นโครงสร้างไม้ มีการวางเรียงกล่องดนตรีต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงาม ซึ่งก็จะมีลวดลายที่แตกต่างกันไป ราคาก็มีทั้งสูงและต่ำ แต่รับรองได้ว่าสวยทุกชิ้น สามารถซื้อกลับมาเป็นของที่ระลึกหรือของฝากได้ นอกจากนี้ยังมีให้นักท่องเที่ยวทำกล่องดนตรีของตัวเองได้อีกด้วย3. นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Steam Clock) เมืองโอตารุภาพจาก Javen / shutterstock.com นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Steam Clock) แห่งเมืองโอตารุ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเมืองโอตารุ ตั้งอยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี เป็นนาฬิกาไอน้ำเก่าแก่ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา มอบให้แก่เมืองโอตารุ ความโดดเด่นของเจ้านาฬิกาเรือนนี้ นอกจากจะมีรูปลักษณ์ที่งดงามในสไตล์อังกฤษแล้ว ยังคอยจะส่งเสียงเพลงและพ่นไอน้ำออกมาในทุก ๆ 15 นาทีอีกด้วย4. คิโรโระ สกี รีสอร์ท (Kiroro Ski Resort)ภาพจาก เฟซบุ๊ก แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว คิโรโระ สกี รีสอร์ท (Kiroro Ski Resort) ถือได้ว่าที่นี่เป็นโลเคชั่นสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องราววุ่น ๆ ขึ้นในฮอกไกโดของคู่พระ-นาง โดยรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงใหญ่ภายในหมู่บ้านอะไกกาว่า (Akaigawa Village) เขต Yoichi-gun จังหวัดชิริเบะชิ (Shiribeshi Subprefecture) เกาะฮอกไกโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาว คิโรโระ สกี รีสอร์ทแห่งนี้จะกลายเป็นลานสกีขนาดกว้างใหญ่และเพียบพร้อมไปด้วยเครื่องเล่นฤดูหนาวต่าง ๆ มากมาย ซึ่งจะมีทั้งโรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน5. หุบเขาจิโงคุดานิ (Jigokudani)ภาพจาก เฟซบุ๊ก แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว หุบเขาจิโงคุดานิ (Jigokudani) มีฉายาเรียกอีกอย่างว่า หุบเขานรก (Hell Valley) ตั้งอยู่ที่เมืองโนบุริเบทสึ (Noboribetsu) กิ่งจังหวัดอิบุริ (Iburi Subprefecture) ของเกาะฮอกไกโด เป็นหุบเขาหินภูเขาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดออนเซ็นในเมืองโนบุริเบทสึนี่เอง โดยในพื้นที่นี้จะมีบ่อน้ำร้อนที่เดือดอยู่ตลอดเวลา มีควันพวยพุ่งขึ้นมาจากปากบ่อ จึงเป็นที่มาของหุบเขานรก เจ้าหน้าที่จะมีการทำทางเดินไม้ ให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวรอบ ๆ และมีทางเดินให้เข้าไปชมยังปากบ่อได้ในระยะใกล้ชิด ฤดูกาลที่ที่นี่จะสวยงามมาก ๆ จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะหุบเขาทั้งลูกจะเปลี่ยนสีใบไม้จากสีเขียวไปเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีแดงอย่างสวยงาม อากาศกำลังเย็นสบาย6. เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)ภาพจาก เฟซบุ๊ก แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะฮอกไกโด เพราะที่นี่มีทั้งอาคารเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ บ่อน้ำพุร้อน เทศกาลท่องเที่ยวต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย อาหารที่อร่อยสุด ๆ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่เงียบสงบมาก ๆ อีกด้วย เมื่อทุกอย่างหล่อหลอมอยู่ด้วยกัน ทำให้เมืองฮาโกดาเตะกลายเป็นเมืองที่สวยงามสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเดินท่องเที่ยวไปทางไหนก็จะสัมผัสได้ถึงความอิ่มเอมของการพักผ่อนอย่างแท้จริง อย่างเนินฮาจิมัน (Hachiman-zaka Slope) ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก ๆ ของเมืองฮาโกดาเตะ7. นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway)ภาพจาก เฟซบุ๊ก แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate) เป็นยอดเขาที่สำคัญของเมืองฮาโกดาเตะ สูงประมาณ 334 เมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะขึ้นไปยังด้านบนได้โดยการนั่งกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งใช้เวลาจากพื้นดินสู่ยอดเขาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น โดยตลอดระยะทางนักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวของเมืองฮาโกดาเตะและท้องทะเลสุดกว้างใหญ่ สามารถมองเห็นที่เที่ยวสำคัญ ๆ ภายในเมืองเกือบทั้งหมด ยิ่งเมื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวก็จะยิ่งตื่นเต้นไปกับภาพพาโนรามาของวิวทิวทัศน์ตรงหน้ามากขึ้นไปอีกเท่าตัว เพราะจะสามารถมองเห็นตัวเมืองที่มีอ่าวขนาบข้างทั้งสองฝั่ง พร้อมกับภูเขาลูกใหญ่ที่เป็นฉากหลังอย่างสง่างาม ซึ่งไม่ว่าจะขึ้นมาชมวิวในช่วงเวลาเช้า สาย บ่าย หรือเย็น ที่นี่ก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน ถือได้ว่าเป็น The Must ของเมืองฮาโกดาเตะเลยทีเดียว8. โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)ภาพจาก Sean Pavone / shutterstock.com โกดังอิฐแดงคาเนโมริ เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองฮาโกดาเตะ เพราะที่นี่เคยใช้เป็นโกดังเก็บสินค้าเมื่อครั้งที่มีการเปิดท่าเรือระหว่างประเทศภายในเมืองฮาโกดาเตะเมื่อราวปี ค.ศ. 1909 ลักษณะของโกดังเป็นอาคารสไตล์ยุโรป สร้างขึ้นด้วยอิฐแดง มีทั้งหมด 7 หลัง ภายในดัดแปลงเป็นร้านขายของที่ระลึกและขายของฝากสุดน่ารักประมาณ 50 ร้าน นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินเล่นไปรอบ ๆ โกดัง หรือจะนั่งเรือเล่นชมวิวรอบ ๆ อ่าวฮาโกดาเตะ แล้วค่อยเข้าไปช้อปปิ้งในอาคารก็ได้เช่นกัน9. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)ภาพจาก moowhan27 / shutterstock.com เทศกาลหิมะซัปโปโร เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จะจัดขึ้นภายในเมืองซับโปโร ราว ๆ เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยการจัดงานจะจัดขึ้นภายในสวนโอโดริ (Odori Park) ซึ่งจะมีการโชว์ประติมากรรมการแกะสลักน้ำแข็งและตุ๊กตาหิมะเรียงรายยาวไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร พร้อมกับการตกแต่งรอบ ๆ สวนด้วยไฟระยิบระยับงดงามตระการตา เรียกได้ว่าเป็น Dream Destination ของคนทั่วโลกเลย10. ยูโนะคาวะ ออนเซ็น (Yunokawa Onsen) ยูโนะคาวะ ออนเซ็น (Yunokawa Onsen) เป็นย่านบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมาก ๆ แห่งหนึ่งของเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งในย่านนี้จะมีทั้งโรงแรม ที่พักมากมาย พร้อมทั้งบ่อแช่ออนเซ็น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาแช่น้ำพุร้อน แต่ที่พิเศษมาก ๆ ก็คือ นอกจากคนแล้ว เจ้าลิงหิมะญี่ปุ่น (Japanese macaques) ก็ยังชอบมาแช่น้ำพุร้อนด้วย โดยจะมีลิงที่อยู่ในสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden) มากกว่า 100 ตัว ลงแช่น้ำพุร้อนในอ่าง ซึ่งจะมีมากในช่วงเดือนธันวาคม จนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ใครอยากเห็นความน่ารักและแก้มแดง ๆ ของเจ้าลิงหิมะญี่ปุ่นเหล่านี้ ก็ตีตั๋วไปเที่ยวฮอกไกโดในช่วงหน้าหนาวได้เลย

นี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ของเกาะฮอกไกโดเท่านั้น เพราะอันที่จริงแล้วบนเกาะฮอกไกโด ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าฤดูกาลไหน ๆ บนเกาะแห่งนี้ก็สวยงามตลอดทั้งปี ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีที่ญี่ปุ่น บอกเลยว่าต้องลองไปฮอกไกโดสักครั้ง แล้วคุณจะประทับใจไม่มีวันลืม :)ขอขอบคุณข้อมูลจากjapan-guide.com, city.otaru, otaru-orgel.co.jp, japan-guide.com, kiroro.co.jp, japan-guide.com, hakodate.travel, 334.co.jp, visit-hokkaido2.jp, hakodate-kanemori.com, snowfes.com, hakodate.travel



บทความแนะนำ


ความสวยความงามการแต่งหน้าผู้หญิงความสวยความงามทำนายนิสัยหมวกแก๊ปหมวกทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก