เที่ยวภูกระดึงให้สนุก กับ 15 ข้อน่ารู้ก่อนพิชิตยอด
ภูกระดึง จังหวัดเลย เปิดรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนขึ้นไปพิชิตยอด พร้อมดื่มด่ำและชื่นชมธรรมชาติของภูกระดึงกันอย่างเต็มที่
"ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ดูจะเป็นประโยคคลาสสิกตลอดกาลสำหรับการไปเที่ยวภูกระดึง
แต่กว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้พิชิตภูกระดึงใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ
เพราะต้องแลกทั้งหยาดเหงื่อและกำลังกายไม่ใช่น้อย
หลายคนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวภูกระดึงอาจฟังแล้วคิดในใจว่า "ลำบากขนาดนั้นเชียว ?" แล้วถ้าอยากจะไปเที่ยวภูกระดึงดูบ้าง จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ฟิตร่างกายแค่ไหน ขึ้นไปแล้วจะเจอกับอะไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
? 1. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หรือภูกระดึง
ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีระดับความสูงอยู่ระหว่าง
400-1,200 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร
สภาพอากาศทั่วไปบนยอดภูกระดึงเย็นสบายเกือบตลอดปี
โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อาจลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส
2. ภูกระดึงไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นตลอดปี
ช่วงเปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-31 พฤษภาคมของทุกปี
และช่วงปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายนของทุกปี
? 3.
ช่วงเปิดฤดูการท่องเที่ยวของภูกระดึงจะมีความงดงามแตกต่างกันในแต่ละเดือน
ถ้าอยากเที่ยวน้ำตกให้ไปช่วงเดือนตุลาคม ช่วงนี้น้ำจะยังเยอะอยู่
ถ้าอยากเห็นใบเมเปิลต้องมาช่วงกลางเดือนธันวาคม
และจะร่วงในช่วงปลายเดือนธันวาคม แต่ถ้าอยากฟินกับอากาศหนาวมาก ๆ
ต้องมาช่วงปลายเดือนธันวาคม ไม่แน่ว่าคุณอาจโชคดีได้เห็นทะเลหมอกสวย ๆ
และแม่คะนิ้งก็ได้
? 4. การเตรียมฟิตร่างกายและเตรียมอุปกรณ์การเดินทางให้พร้อม เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการเที่ยวภูกระดึง
- การเตรียมพร้อมร่างกาย ควรฟิตร่างกายมาให้เต็มที่
เพราะคุณต้องเดินเยอะมาก ๆ รองเท้าที่ใส่ควรเป็นรองเท้าผ้าใบพื้นหนา ทนทาน
และเน้นที่ใส่สบาย
- การเตรียมอุปกรณ์จำเป็น เช่น
ยารักษาโรค ไฟฉาย เครื่องนุ่งห่มกันหนาว ถุงเท้ากันทาก
และอุปกรณ์จำเป็นอื่น ๆ (แชมพู ยาสีฟัน สบู่) เป็นต้น ส่วนในเรื่องอาหาร
นักท่องเที่ยวไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำอาหารไป
เพราะบนนั้นมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน และมีขายเกือบทุกอย่าง
ไม่ต้องกลัวว่าจะอด
และไม่ต้องกลัวว่าเราจะแบกสัมภาระขึ้นไปยังไงไหว เพราะที่นี่มีบริการลูกหาบไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวเรียบร้อย
? 5. การจองที่พักบนภูกระดึง ถ้าต้องการนอนบ้านพักจะต้องเข้าไปจองล่วงหน้า 60 วัน ที่เว็บไซต์ nps.dnp.go.th
หรือติดต่อฝ่ายบริการที่พัก โทร. 02 562 0760, 02 561 0777 ต่อ 1743, 1744
สำหรับใครที่ต้องการนอนเต็นท์
ทางอุทยานมีทั้งเต็นท์ไว้ให้บริการและพื้นที่กางเต็นท์รองรับอย่างเพียงพอ
? 6. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินขึ้นภูกระดึง ถ้าอยากเดินแบบสบาย ๆ
ก็ควรเดินทางขึ้นภูตั้งแต่ช่วงเช้า
ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นตั้งแต่เวลา 07.30-14.00 น.
เพราะถ้าขึ้นเอาช่วงบ่าย ๆ อาจจะรู้สึกกดดันตัวเอง
และคิดไปว่าเหมือนยิ่งเดินยิ่งไกล ยิ่งเดินไปฟ้าก็ยิ่งใกล้มืด
และต้องเดินขึ้นภูเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร บางคนใช้เวลามาก บางคนใช้เวลาน้อย
ขึ้นอยู่กับความเร็วและความแข็งแรงของแต่ละคนล้วน ๆ
? 7.
โดยปกตินักท่องเที่ยวมักใช้ระยะเวลาเที่ยวบนภูกระดึงทั้งหมดประมาณ 4 วัน
คือวันเดินขึ้น-ลงภูอย่างละ 1 วัน เดินชมเส้นทางสายน้ำตก 1 วัน
และเดินชมเส้นทางสายหน้าผา 1 วัน ซึ่งระยะเวลารวม 4
วันนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาพอเหมาะสำหรับการสัมผัสธรรมชาติบนภูกระดึงได้อย่าง
เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือถ้าใครอยากหาเครื่องทุ่นแรง
ที่นี่ก็มีจักรยานให้เช่า เอาไว้ปั่นไปตามที่เที่ยวจุดต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น
? 8. เส้นทางขึ้นบนยอดภูกระดึง
นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าวัดใจผ่านตั้งแต่ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก ซำกกหว้า
ซำกกไผ่ ซำกกโดน และซำแคร่ และช่วงสุดท้ายที่จะผ่านขึ้นไปยังหลังแป
เป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุด เพราะจะต้องปีนป่ายขึ้นโขดหิน
และต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าใครเหนื่อยก็นั่งลงแวะพักดื่มน้ำหาของทานกันได้
9. แหล่งท่องเที่ยวบนภูกระดึงที่พลาดไม่ได้ เช่น ผาหมากดูก ผานาน้อย
ผาเหยียบเมฆ ผานกแอ่น ผาหล่มสัก ลานพระศรีนครินทร์ (องค์พระพุทธเมตตา)
น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบ สระอโนดาต เป็นต้น
? 10.
กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวภูกระดึง คือการชิมอาหารร้านต่าง ๆ
ไล่เรียงตั้งแต่อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง
แต่ถ้าเป็นมื้อเช้าก็จะมีอาหารสำหรับรองท้อง มีทั้งโจ๊ก น้ำเต้าหู้
ปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวหมูทอด ชา กาแฟ หรือถ้าช่วงที่ไปอากาศหนาวมาก
ที่นี่ก็มีหมูกระทะและหมูจุ่มร้อน ๆ เอาไว้ทานเพื่อคลายความหนาว
? 11. ไฮไลท์เด็ดอีกหนึ่งอย่างของการมาเที่ยวภูกระดึง
คือการได้ชื่นชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน
นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากชมพระอาทิตย์ตกดิน มักเดินทางไปที่ "ผาหล่มสัก" หรือ "ผาหมากดูก" และชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ "ผานกแอ่น" ซึ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยนำทาง ด้วยเพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายจากสัตว์ป่าได้
? 12.
ปัจจุบันแม้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่ภูกระดึงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทุกปี แต่เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ไม่อาจเลือนหายไป
นั่นคือนักท่องเที่ยวจะได้พบกับความเงียบสงบ และมิตรภาพระหว่างทางขึ้นภู
ที่เกิดขึ้นง่ายแสนง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ
? 13.
การเที่ยวภูกระดึงอย่างมีจิตสำนึก
จะเป็นหนึ่งหนทางรักษาความสวยงามของภูกระดึงได้อย่างยั่งยืนที่สุด
นักท่องเที่ยวจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ทิ้งขยะในที่ที่จัดไว้ให้
ไม่ส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ป่า ไม่แกะสลักชื่อหรือขูดขีดร่องรอยไว้ที่ต้นไม้
ก้อนหิน หรือหน้าผา
? 14. ก่อนลงจากภูกระดึงพลาดไม่ได้กับการถ่ายรูปคู่กับป้าย "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" เอาไว้เป็นสักขีพยานในความมุมานะ ความพยายาม และความรู้สึกทั้งหมดที่คุณมีต่อภูกระดึงทริปนี้
? 15. นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากรู้รายละเอียดต่าง ๆ
ทั้งหมดเกี่ยวกับภูกระดึงเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดทั้งหมดได้ที่
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. 042 810 833, 042 810 834
หากจะพูดว่าภูกระดึงยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนรักธรรมชาติก็คง
จะไม่ผิดนัก แม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาพิชิตภูกระดึงมากขึ้นทุกปี
แต่นั่นไม่อาจทำลายเสน่ห์ที่สวยงามและน่าค้นหาของภูกระดึงไปได้
แถมยังมีแง่มุมให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ
ไม่รอช้า?มาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมพิชิตยอดภูกระดึงด้วยกันนะคะ ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, ททท, เฟซบุ๊ก TAT LOEI