สมเด็จพระวันรัต เผยถึงพระจริยวัตรอันงดงามของในหลวง ร.9 ขณะทรงผนวช

อ่าน 8,997

สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เผยถึงพระจริยวัตรอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงผนวช

วันที่ 19 ตุลาคม 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 มีรายงานว่า สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ได้เผยความรู้สึกเมื่อครั้งได้ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงที่พระองค์ทรงผนวช ณ วัดศรีรัตนธรรมาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระราชอุปัชฌาจารย์ ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน 2499 ซึ่งระหว่างนั้นได้เสด็จฯ มาประทับจำพรรษาที่พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร? โดยระบุว่า ณ เวลานั้นตนยังเป็นเพียงสามเณรและได้อุปสมบทพร้อมพระองค์ ได้จำวัดอยู่พระตำหนักเดียวกันจึงมีโอกาสเห็นพระจริยวัตรของพระองค์ขณะที่เป็นพระสงฆ์มาตลอด ซึ่งทรงเคร่งครัดในพระธรรมวินัยยิ่งกว่าสามัญชน แม้จะเป็นถึงพระมหากษัตริย์ ทรงมีขันติมาก ดังจะเห็นจากยามที่พระองค์เสด็จฯ ไปทำวัตรที่พระอุโบสถในช่วงเช้าและช่วงเย็น ทรงไม่เคยหันพระบาทไปทิศตะวันตกที่มีพระสงฆ์ที่มีพรรษามากกว่าพระองค์เลย เนื่องจากทรงให้เกียรติพระสงฆ์ที่บวชก่อน ซึ่งถ้าเป็นพระใหม่รูปอื่นไม่น่าที่จะนั่งท่าเดียวโดยไม่สลับท่านั่งเช่นนั้นได้ นับได้ว่าพระองค์ทรงปฏิบัติเคร่งครัดในศาสนกิจทุกประการอย่างดี

นอกจากนี้ยังทรงตั้งพระราชหฤทัยประกอบศาสนกิจ เสด็จฯ ออกบิณฑบาตยังสถานที่ต่าง ๆ ทรงรับบาตรจากประชาชนเช่นภิกษุสงฆ์รูปอื่น และยังเสด็จฯ ไปสักการะสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่มีพระธาตุ เช่น พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม พระธาตุพนม จ.นครพนม และสักการะพระเถรานุเถระ ยังวัดสำคัญต่าง ๆ

ก่อนพระองค์ทรงลาผนวช ทรงปลูกต้นไม้เป็นอนุสรณ์ไว้ที่วัดบวรนิเวศวิหาร คือต้นสักและต้นสนฉัตร ปัจจุบันอยู่ที่หน้าคณะตำหนัก รวมทั้งทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเททองพระกริ่งพระพุทธชินสีห์ เนื่องด้วยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ มีพระชนมายุ 84 พรรษา

และยังทรงพระราชดำริเกี่ยวกับ พระพุทธรูปปางประทานพร ภปร มีพระปรมาภิไธยย่อ ภปร ประดับที่ผ้าทิพย์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างกรมศิลปากรปั้นแบบขึ้นตามพระราชดำริ ซึ่งเมื่อแก้ไขจนเป็นที่ต้องพระราชหฤทัยแล้ว จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้หล่อขึ้นเป็นครั้งแรก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปี 2508 พร้อมพระราชทานธรรมภาษิตจารึกไว้ที่ฐานพระพุทธรูปนี้ แปลได้ว่า "คนชาติไทยจะรักษาความเป็นไทยอยู่ได้ ด้วยมีสติสำนึกอยู่ในความสามัคคี"

ยังได้เล่าถึงความประทับใจส่วนตัวที่ได้มีโอกาสถวายเทศน์หลายกัณฑ์แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่าพระองค์ทรงรับสั่งว่าเทศน์ดี แต่คนฟังจะรับฟังรู้เรื่องเข้าใจหรือไม่ เทศน์ธรรมะดีอย่างไรคนก็ไม่ฟัง ทรงแนะนำให้นำนิทานชาดกมาเทศน์แฝง คนถึงจะสนใจฟัง จากนั้นเป็นต้นมาสมเด็จพระวันรัตจึงทำตามรับสั่งของพระองค์

สมเด็จพระวันรัต ยังกล่าวว่าการสวรรคตของพระองค์นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เพราะพระองค์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนทุกหมู่เหล่า อย่างไรก็ตามเมื่อเรารำลึกถึงพระองค์ก็ขอให้ปฏิบัติตามหลักของพระพุทธศาสนา ยึดมั่นในการทำความดีให้เกิดขึ้น เพราะพระองค์ทรงมีพระคุณใหญ่หลวงต่อปวงชนชาวไทย

พร้อมกันนี้ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ยังได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงผนวช เปิดให้ประชาชนได้ถวายความอาลัยแด่พระองค์ และมีการสวดพระอภิธรรมในเวลา 20.00 น. ณ พระอุโบสถเป็นเวลา 1 เดือน ทั้งยังมีการเปิดตำหนักเพชร ให้ประชาชนเข้าถวายสักการะ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในเวลา 15.00 น. ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ด้วย

ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้



บทความแนะนำ


ร้านอาหารเฟย์ฟางแก้วเพลงรักอย่าบ่นที.เจ.ทรีทรูวันสมาร์ทโฟนราเมนจังกะระsmartphoneที่กินทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก