เมื่อยังไม่ใช่ก็อย่าฝืน!! กับ 7 วิธีบอกเลิกความสัมพันธ์ที่ยังไม่ใช่!!
บอกไปตรงๆ อย่าเสียเวลาสร้างเรื่องแก้ตัวจงหยุดที่จะสร้างเรื่องหรือหาข้ออ้างมาใช้แก้ตัว หรือสรรหาคำบอกเลิกใหม่ๆ ที่คิดว่าไม่จำเจ ให้คิดเสียว่า มันไม่มีอาหารตามสั่งแปลกใหม่อาศัยอยู่ในโลกจริงๆ หรอก ถึงคุณจะสั่งข้าวกะเพราไข่ดาว ขอพริกเยอะๆ ไม่ใส่ถั่วฝักยาว แต่ใส่ข้าวโพดอ่อนปลอกเปลือกแค่ครึ่งเดียว และขอขอบไข่ดาวกรอบๆ คุณรู้สึกไหม? บางทีผลสุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามนั้น! ก็เพราะรายละเอียดมันมากเกินไป แถมมันก็ยังเป็นข้าวผัดกะเพราไข่ดาวอยู่วันยังค่ำ คำบอกเลิกก็ไม่ต่างกัน แค่สื่อความหมายที่ต้องการให้ชัดเจน จะทำให้ไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดใจหรือเสียใจในภายหลังสำหรับผลลัพธ์ที่ได้...ที่คุณเผลอลงรายละเอียดมากเกินไป
เริ่มต้นให้ตัวเองเป็นฝ่ายผิดเมื่อกล้าที่จะบอกเลิก ก็ต้องกล้าที่จะยืดอกยอมรับชะตากรรม กรณีที่ไม่มีสัญญาณเตือนให้อีกฝ่ายได้รู้ล่วงหน้า และเหตุผลจากคุณเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายอยากฟัง ให้เริ่มต้นที่ตัวเองเป็นคนผิด อีกฝ่ายจะรู้สึกว่าต้นเหตุไม่ได้เกิดที่เขา "พอดีเราไปเจอคนใหม่ เป็นเราเองที่หวั่นไหว ก็เลยอยากลองคบกับเขาแบบจริงจัง เธอไม่ได้ทำผิดอะไรหรอก เราต่างหากที่ผิดเอง" หรือ "รู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันยังไม่ใช่ เราเห็นแก่ตัวเองแหละ อยากทำในสิ่งที่มันใช่กว่า" ฯลฯ
แสดงเหตุผลให้สั้นกระชับสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ต้องการจะบอกเลิกคนรัก ก็คือ ให้ใช้คำพูดที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย ว่าทำไมคุณจึงจำเป็นจะต้องบอกเลิกอีกฝ่าย เพื่อจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ หากเป็นไปได้ก็ควรจะพูดเฉพาะเหตุผลหลักๆ อย่ายาวเหยียดจนกระทั่งออกทะเล จนอีกฝ่ายรู้สึกว่าเขาเป็นคนไม่ดีขนาดนั้นจริงๆ หรือ ที่สำคัญควรใช้คำกลางๆ อย่าสื่ออารมณ์ในด้านลบ เดี๋ยวจะจบไม่สวย
มีอารมณ์ร่วมให้น้อยที่สุดเมื่อตัดสินใจมาเป็นอย่างดีแล้ว บางคนยังไม่ทันจะเอ่ยคำปฏิเสธก็พาลน้ำตาไหลไปก่อนหน้า ทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางทีสิ่งที่เตรียมไว้ในหัวก็อาจเป็นโมฆะ จนสื่อออกไปแบบไม่ได้ใจความ ทำให้อีกฝ่ายก็ไม่เข้าใจ สรุปแล้วว่าเขาทำผิดตรงไหน? กลายเป็นฝ่ายที่บอกเลิกกลับรู้สึกเสียใจมากกว่า และรู้สึกผิดเอง ทั้งๆ อารมณ์ร่วมนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะการบอกเลิกเป็นเรื่องของเหตุผล แต่การตกหลุมรักมักเป็นเรื่องอารมณ์และความรู้สึกมากกว่า ถ้าคุณมีอารมณ์ร่วมก็อาจเป็นสัญญาณว่า คุณอาจยังรักยังแคร์เขาอยู่ สิ่งนี้จะกลับกลายมาทำร้ายตัวคุณเองได้ในภายหลัง
อย่าใช้คำพูดที่ดูให้ความหวังถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ ในกรณีที่คบกันมาสักระยะแล้ว การกระทำนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะยังไงๆ อีกฝ่ายก็ย่อมเข้าใจความหมายที่คุณต้องการจะสื่ออยู่ดี การใช้คำพูดที่ดูมีความหวัง นั่นจะเท่ากับพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเองดูดีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ลองคิดดูว่าคำพูดในทำนอง "เรายังมีโอกาสกลับมารักกันอยู่เหมือนเดิมนะ" "ยังไงๆ เธอก็คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา...เท่าที่เราเคยรู้จักมา" คำพูดเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นมาได้จริงๆ หรอก แถมยังเป็นการทำร้ายอีกฝ่ายในทางอ้อม ทำให้เขายิ่งมองคุณในแง่ร้าย ทำนองว่าปากไม่ตรงกับใจ เพราะถ้าเขาดีขนาดนั้นจริง ก็แล้วทำไม? ถึงไม่เลือกเขาล่ะ
ไม่ควรเติมเชื้อไฟให้เรื่องราวใหญ่โตไม่มีใครที่จะอยู่เฉยหรือไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ หลังจากถูกบอกเลิกได้อย่างแน่นอน ดังนั้น ไม่ควรจะเติมเชื้อไฟให้เรื่องราวใหญ่โต โดยการขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ขึ้นมา มาตอกย้ำเป็นดาบสองหรือดาบสาม นั่นจะทำให้ใจความไม่กระชับ คล้ายอีกฝ่ายมีความผิดหลายกระทงก็คงไม่มีประโยชน์ ทางที่ดีเลือกเหตุผลหลักๆ เพียงข้อเดียวที่คุณคิดว่าใช่ที่สุด หรืออย่างมากก็ไม่ควรเกินสองเรื่อง
ประเมินช่องทางที่เหมาะสมจากที่เคยคบกันอยู่ ย่อมรู้ว่าเขามีอารมณ์แบบไหน ถ้าเขาใจเย็นและเป็นคนเปิดใจ ก็ใช้วิธีเผชิญหน้าแล้วก็บอกออกไปตรงๆ อาจอาสาขอเลี้ยงอาหารเขาเป็นมื้อสุดท้าย แต่ถ้ารู้สึกว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้าย หรือไม่ก็เก็บความรู้สึก การบอกตรงๆ ต่อหน้าก็อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก อาจจะใช้การโทรศัพท์โทรหาในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือว่าใช้การส่งข้อความแบบกระชับ พร้อมเหตุผลเคลียร์ๆ อย่าใช้ถ้อยคำรุนแรง เสียดสี ให้ทั้งคุณและเขารู้สึกเจ็บปวดน้อยที่สุด โอกาสเป็นเพื่อนกันก็ยังมีอยู่ แม้มันจะเป็นไปได้น้อยมากก็เถอะ...