วิธีสังเกตสภาพผิวหน้าของตัวเอง แบบง่ายๆ
เชื่อว่ายังมีอีกใครหลายคนแน่ๆ
ที่ยังไม่เข้าใจสภาพผิวหน้าของตัวเองว่ามีลักษณะแบบใด สรุปว่ามัน หรือผสม
หรืออาการผิวแห้งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวนั้นเกิดจากอะไรกันแน่
ทางเราไปถาม ?คุณแพทตี้? ผู้เชี่ยวชาญด้าน Beauty Makeup & skin/ Training manager จาก innisfree Thailandซึ่งคุณแพทตี้เล่าให้เราฟังว่าทาง
innisfee ได้แบ่งประเภทผิวออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ
และให้ข้อสังเกตสภาพของผิวตัวเองอย่างง่ายๆ มาเป็นข้อๆ ให้สาวๆ
ได้ลองเช็คลิสต์ตามดังนี้Genetic คือ
การแบ่งสภาพผิวตามลักษณะทางพันธุกรรม
โดยผิวลักษณะนี้เป็นสภาพผิวหน้าที่ได้รับมาตั้งแต่กำเนิด
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญจากอินนิสฟรี
แบ่งสภาพผิวตามลักษณะทางกรรมพันธุ์ไว้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ผิวธรรมดา,ผิวมัน,ผิวแห้ง
ผิวธรรมดา
เป็นสภาพผิวที่สาวๆทุกคนใฝ่ฝัน เพราะปัญหาผิวน้อย ผิวดูแข็งแรงสุขภาพดี ไร้อาการแพ้ง่าย สามารถสังเกตได้เป็นข้อๆดังนี้
- ผิวเนียนใส
- รูขุมขนแน่นกระชับ
- สีผิวสม่ำเสมอ
- สมดุลความชุ่มชื้นระหว่างน้ำและน้ำมันดีมาก
- ผิวแข็งแรงสุดๆ
ผิวแห้ง
เป็นสภาพผิวที่สามารถสังเกตได้ง่ายที่สุด
เพราะสามารถเห็นอาการลอกเป็นขุยจากความแห้งบนผิวได้อย่างชัดเจน
ซึ่งสามารถสังเกตอาการเพิ่มเติมได้ดังข้อต่อไปนี้- รูขุมขนแน่นกระชับ ไม่พบปัญหาสิว
- ใบหน้าหมองคล้ำและผิวหยาบกร้าน
- มักพบปัญหาริ้วรอยก่อนวัย
- ผิวมักอ่อนแอและระคายเคืองง่าย
ผิวมัน
และมาถึงสภาพผิวยอดฮิตของสาวไทย
ความมันเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งของการยึดเกาะของเครื่องสำอางบนใบหน้า
ซึ่งก็ไม่ได้สังเกตยากอะไรมากมายค่ะ ลงเช็คลิสต์ได้ตามนี้เลย- มักมีปัญหาความมันเงาทั่วทั้งใบหน้า
- มีปัญหารูขุมขนกว้าง
- มักพบปัญหาเกี่ยวกับสิว
- ผิวดูหนา และหมองคล้ำ
- ผิวแข็งแรงและเกิดริ้วรอยได้ช้ากว่าผิวชนิดอื่น
นี่เป็นแค่การสังเกตผิวของตัวเองอย่างง่ายๆนะคะ
แต่คุณแพทตี้ยังบอกมาอีกว่าจริงๆ
แล้วผิวขอเราสามารถมีหลายสภาพผิวได้พร้อมกันในคนๆ เดียว
(หรือที่เรียกกันว่าผิวผสมนั้นแหละค่ะ และแบ่งแยกย่อยได้อีกตามปัญหาของผิวอื่นๆ ได้อีก เช่น ผิวขาดน้ำ
ผิวเป็นสิว ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังกันอีกที
แต่ตอนนี้หวังว่าสาวๆน่าจะพอแยกแยะสภาพผิวของตัวเองเบื้องต้นได้แล้ว
เพราะมันสำคัญมากกับการเลือกใช้สกินแคร์และการดูแลผิวของเรา
รวมถึงการเลือกซื้อ Make up ชิ้นที่เหมาะกับเราด้วยค่ะขอบคุณข้อมูลจากinnisfreeTH