How to Accept Kindness วิธีตอบรับคำชมจากผู้อื่นก็แค่กล่าวขอบคุณออกไปสั้นๆเท่านั้นเอง

อ่าน 1,175

ลองนึกภาพตัวเองกำลังเดินไปตามทางระหว่างชั้นเรียน คุณเพิ่งพูดหน้าชั้นเรียนเมื่อคาบที่ผ่านมา ขณะที่คุณเดินอยู่เพื่อนคนหนึ่งก็เข้ามาหาและพูดว่า ?เมื่อกี้เธอพูดได้สุดยอดจริงๆ? ปฏิกิริยาแรกของคุณคือ?

A. กล่าวขอบคุณเสียงดัง แต่คิดในใจว่าคนๆนี้ต้องการอะไรจากฉันเนี่ย?B. พูดว่า ?ก็ไม่เชิงหรอก ฉันทำพลาดไปนิดนึง? เพราะคุณไม่อยากให้เพื่อนที่ชมคุณคิดว่าคุณเป็นคนอวดเก่งC. ปล่อยให้คำชมซึมซาบเข้าสู่ร่างกาย อบอุ่นหัวใจ และนึกถึงความพยายามที่ผ่านมาในการทำรายงานครั้งนี้ จากนั้นก็ขอบคุณเพื่อนคนนั้นอย่างจริงใจ

ในโลกแห่งความฝันคนส่วนใหญ่จะตอบข้อ C แต่ในโลกแห่งความจริงมักจะเป็นข้อ A กับ B เนื่องจากคนเราจะสงสัยในตัวเองและกลัวที่จะถูกเยาะเย้ยถากถางได้ บางทีการลังเลที่จะตอบรับคำชมจากคนอื่นอาจเป็นเพราะผลกระทบจากการถูกสอนตั้งแต่เด็กว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า แต่ข้อ C ก็สามารถบ่งบอกได้ว่าเราอยู่ท่ามกลางผู้คนที่รักและเป็นห่วงรวมถึงมองเห็นคุณค่าในความพยายามของเราด้วย และนี่คือเคล็ดลับที่จะทำให้คุณประสบผลสำเร็จ

ตระหนักคุณค่าในตัวเอง

การตอบรับคำชมหมายถึงคุณยอมรับว่าตัวเองมีคุณค่าสำหรับคำชมนั้นๆ เมื่อคุณไม่เชื่อว่าตัวเองควรได้รับการปรนนิบัติเป็นอย่างดี สมองจะทำทุกอย่างเพื่อหาวิธีปฏิเสธการยอมรับจากบุคคลอื่น และเมื่อคุณปฏิเสธก็หมายความว่าคุณยอมรับว่าโลกเป็นสถานที่อันโหดร้าย น่ากลัว และตัดขาดจากสิ่งรอบข้าง หรืออีกนัยหนึ่งถ้าคุณปฏิเสธคำชมจากผู้อื่นเสมอ สมองของคุณก็จะมีข้อแก้ตัวโดยอัตโนมัติว่าทำไมคุณจึงยอมรับคำชมเหล่านั้นไม่ได้ เมื่อมีคนพูดในสิ่งดีๆคุณก็จะคิดว่าพวกเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอก! แค่ทำตัวสุภาพไปอย่างนั้นเอง! อย่างไรก็ตามเมื่อมีสถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น คุณต้องยืนหยัดเพื่อตัวเองและพูดว่าฉันสมควรได้รับคำชมเหล่านั้น ฉันเป็นคนดี ฉันทำงานหนัก ฉันพยายามอย่างเต็มที่ เป็นต้น ประโยคที่ฉันชอบพูดกับเพื่อนๆคือ ?เธอเป็นคนน่ารักและเป็นที่รักของทุกๆคน? เมื่อมีคนต้องการแสดงความรักให้ จงยอมรับมัน เพราะคุณรู้ดีว่าตัวเองมีค่าเช่นเดียวกับทุกคน

รับคำชม

การที่มีคนชื่นชมคุณไม่ได้หมายความว่าคุณติดหนี้อะไรพวกเขา บางทีคนเราชื่นชมก็เพราะแค่อยากชื่นชมเท่านั้น! อย่ารู้สึกราวกับว่าคุณต้องตอบแทนหรือมีข้อผูกมัดติดมากับคำชมเหล่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องตอบรับคำชมทุกครั้ง แต่ควรทำความเข้าใจว่าการชื่นชมก็คือการแสดงน้ำใจอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้รับรู้สึกดี และช่วยให้เราแยกความแตกต่างระหว่างคนที่จริงใจกับไม่จริงใจได้ คำชมที่จริงใจย่อมไม่มีข้อผูกมัดและคนที่ชมก็ไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณด้วย

คุณควรยอมรับคำชมต่างๆไม่ว่าจะเป็น ?ผลงานของคุณดีมาก? ?คุณมีสไตล์การทำงานที่วิเศษจริงๆ? ?คุณนี่อารมณ์ขันดีจัง? แค่กล่าวขอบคุณไปสั้นๆแม้ว่าคุณจะรู้สึกไม่ค่อยเชื่อก็ตาม วิธีนี้อาจต้องอาศัยเวลา แต่การยอมรับคำชมโดยเฉพาะจากคนที่คุณชื่นชมสามารถพูดได้ว่าคุณมาถูกทางแล้ว

รู้จักมีน้ำใจกับผู้อื่น

การมีน้ำใจมีหลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกับการใช้เวลาอันมีค่ากับคนอื่นๆ พร้อมกับสนับสนุนและช่วยเหลือ ส่งข้อความให้กำลังใจเล็กๆน้อยๆ หรือตื่นเต้นเมื่อมีข่าวดีเกิดขึ้นกับคนอื่น การกระทำเช่นนี้ค่อนข้างน่าหวาดหวั่นสำหรับคนที่ขี้อายอย่างฉัน ฉันเคยลังเลที่จะส่งกำลังใจให้แก่คนอื่นเพราะกลัวว่าพวกเขาจะมองว่าฉันไม่จริงใจ (โดยเฉพาะในโลกออนไลน์) แต่เมื่อเริ่มลงมือทำบ่อยๆฉันก็รู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติมากขึ้นและฉันก็มักจะได้รับผลตอบแทนที่น่ายินดีและน่าประหลาดใจตามมา จากประสบการณ์ของฉันทุกคนจะเริ่มเปิดใจและมีน้ำใจตอบกลับมามากขึ้น

คุณอาจกังวลว่าคนอื่นๆจะคิดว่าคุณเป็นคนจอมปลอม (ทั้งที่ไม่ใช่) หรือเสร่อ (ใครๆก็เสร่อกันทั้งนั้นแม้แต่คนที่เจ๋งที่สุดในโลกก็ต้องมีบางช่วงที่เสร่อบ้างแหละ) แต่จุดประสงค์ของการเรียนรู้ที่จะยอมรับคำชมคือการให้ความสำคัญกับสิ่งที่ดีมากกว่าสิ่งที่แย่ คุณไม่ต้องสนว่าคนอื่นจะมองว่าชีวิตของคุณเป็นอย่างไร เพราะคุณจะเริ่มตระหนักถึงความรู้สึกดีๆที่ได้รับคำชม โลกใบนี้โหดร้ายพออยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดเราต้องเรียนรู้ที่จะทำดีกับตัวเองและคนอื่นๆ ท้ายที่สุดมันจะเป็นไปตามธรรมชาติเองแหละ คุณจะพบว่าการคิดบวกกับความอบอุ่นที่เกิดขึ้นจะทำให้คุณและผู้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

Blogger : Pixie CaseySource : rookiemag.com



บทความแนะนำ


WorldJurassicกรีดรถภาพยนตร์วงThePositiveข่าวล่าสุดทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก