10 วิธีช่วยลดการทำงานระหว่างสัปดาห์

แม้ว่าชีวิตอันทันสมัยของเราจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดเวลาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ดูเหมือนว่าเรากลับทำงานมากขึ้นตลอดเวลา แม้ว่าเราจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดเวลาภายในบ้าน เช่น ไมโครเวฟ เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องล้างจาน ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดเวลาในสำนักงาน เช่น โปรแกรมจัดตารางงาน อีเมล์ อินเตอร์เน็ต เป็นต้น แต่เรากลับไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการประหยัดเวลาและเรียกร้องเพื่อตัวเราเองได้เลย

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเรามาหาวิธีประหยัดเวลาการทำงานกันเถอะ?

1. ลดชั่วโมงการทำงาน

กำหนดเวลาทำงานในทุกๆวันและทุกๆสัปดาห์ คุณจะพบว่าตัวเองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลองตั้งเวลาออกจากที่ทำงานให้เลยจากเวลาเลิกงานไปสัก 30 นาทีและต้องทำให้ได้ เช่น หากปกติคุณเลิกงานตอน 5 โมงเย็นและอยู่เกินเวลามาตลอด ก็ควรตั้งเวลาไว้ที่ 5โมงครึ่งและปิดคอมพิวเตอร์ทันที นอกจากนี้การนัดหมายกับหมอ เพื่อน ช่างตัดผม ร้านเสริมสวย หรือนัดกับคนรักและลูกๆ ก็ต้องเข้มงวดกับตัวเองว่าต้องไปให้ได้ ห้ามยกเลิกนัด ห้ามผลัดวันประกันพรุ่งโดยเด็ดขาด แล้วคุณจะพบว่าตัวเองสามารถทำในสิ่งที่ต้องทำภายในระยะเวลาที่กำหนดได้

2. ทำงานที่บ้าน

มีคนจำนวนมากสนใจการทำงานที่บ้านซึ่งไม่ต้องเดินทางหรือไม่ต้องทำงานในออฟฟิศ ลองนำเสนอเจ้านายดูสิ บอกว่าวิธีนี้จะทำให้คุณทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัท (อาจจะโดนลดค่าจ้างลง แต่ก็มีความสุขมากขึ้นนะ)

3. ตั้งเวลาการตอบอีเมล์หรืออ่านข่าวในเว็บไซต์

ตั้งเวลาในการเช็คหรือตอบอีเมล์ หรือกำหนดเวลาในการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อติดตามข่าวสารในแต่ละวัน คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อโลกออนไลน์ตลอดเวลา วิธีนี้จะทำให้คุณบริหารเวลาได้ดียิ่งขึ้น

4. ตั้งใจให้มากขึ้น

หากคุณต้องการทำงานให้น้อยลงก็ไม่ควรทำงานหลายอย่างพร้อมกันและสนใจทำเฉพาะงานที่อยู่ตรงหน้า ปิดสิ่งรบกวนทั้งหมด สิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ และหันมาตั้งใจกับงาน ในที่สุดคุณก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสร็จงานในเวลาที่น้อยกว่าที่คุณตั้งใจไว้เสียอีก

5. กำหนดเวลาทำงานให้เสร็จในแต่ละชิ้นงาน

คุณควรกำหนดเวลาในการทำงาน แม้ว่าอาจจะฟังดูขัดแย้งกันแต่มันก็ได้ผล ให้เวลาตัวเองสัก 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงเพื่อทำงานให้เสร็จ ถ้างานใหญ่ก็ทำให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง แต่ถ้างานเล็กก็ลดระยะเวลาลงมา

6. ทำเฉพาะงานใหญ่ที่ให้ผลตอบแทนสูง

เลือกทำงานที่สำคัญที่สุดและให้ผลตอบแทนดีที่สุด อย่างไรก็ตามคุณลองชั่งน้ำหนักเรื่องงานดู เช่น งานเขียนบทความอิสระจะได้รับเงินมากที่สุดแต่ใช้เวลาน้อยที่สุด ขณะที่งานเขียนโปรแกรมอาจทำให้คุณมียอดดาวน์โหลดเป็นล้านๆครั้งพร้อมกับชื่อเสียง ดังนั้นจงเน้นงานหลักที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด

7. เลือกใช้บริการเอาท์ซอร์ส

หากเป็นงานหรือโครงการที่ไม่ได้มีมูลค่ามากมาย คุณก็ไม่ควรเสียเวลาแต่จงส่งต่อให้กับคนอื่นช่วยทำแทน หากพบว่าเป็นงานที่ซ้ำซากแต่ไม่คุ้มค่ากับเวลาของคุณก็ควรจ้างคนอื่นมาทำเพื่อลดเวลา หรือถ้าเป็นงานที่ไม่ต้องการจริงๆก็บอกปัดไปซะ คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเป็นล้านๆชั่วโมงเพื่อทำงานนี้

8. ลดการผูกมัด

หากคุณแก้ไขข้อผูกมัดของตัวเองได้ คุณก็สามารถลดภาระงานและปริมาณงานที่ต้องทำลงได้

9. ปิดคอมพิวเตอร์

ฉันรู้ว่าคุณต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน แต่หากคุณกำหนดเวลาในการเปิด-ปิดคอมพิวเตอร์ คุณจะพบว่าตัวเองสามารถทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลาเหล่านั้นได้ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่หน้าจอตลอดเวลาไม่เช่นนั้นคุณจะไม่มีวันทำงานเสร็จ ที่สำคัญยังมีงานอื่นให้ทำอีกเยอะ หรือมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าอ่าน

10. เปลี่ยนงาน

ถ้างานปัจจุบันของคุณเบียดเบียนเวลาส่วนตัวของคุณมากเกินไป งั้นคุณก็ควรเริ่มมองหางานใหม่ได้แล้ว เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่ งาน งาน งาน เพียงอย่างเดียวแต่ยังมีอีกหลายอย่างที่สำคัญและมีความหมายต่อชีวิตของคุณ หากคุณมีความสามารถก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหางานใหม่ที่ตอบโจทย์ของคุณได้ แต่ถ้าคุณยังไม่มีทักษะมากพอก็ควรเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆกับการทำงานในปัจจุบัน เอาไว้เก่งเมื่อไหร่แล้วค่อยมาเลือกกันอีกที สิ่งสำคัญคืออย่าเพิ่งออกจากงานจนกว่าจะได้งานใหม่

Source : zenhabits.net