7 เรื่องที่ต้องคุยกันให้เข้าใจก่อนแต่งงาน

อ่าน 12,189

คู่รักจำนวนมากอยู่ด้วยกันมานานก่อนที่จะแต่งงานกัน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาตกลงกันแล้วว่าใครมีหน้าที่ล้างจานและทำความสะอาดห้องน้ำ แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณควรตกลงกันให้ดีก่อนแต่งงาน แม้ว่าคุณจะเรียนรู้การใช้ชีวิตคู่ส่วนหนึ่งมาแล้ว และนี่คือ 7 เรื่องที่คุณควรคุยกันให้รู้เรื่องก่อนที่จะถึงวันสำคัญ

1. หนี้สินและการเงิน

ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีหนี้สิน เช่น หนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา คุณควรเปิดอกคุยกันดีๆเนื่องจากการปิดบังความจริงมีแต่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณย่ำแย่ ขณะเดียวกันถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการเงินก็จงบอกอีกฝ่ายไปตามตรงและช่วยกันปรับปรุงให้ดีขึ้น

2. ลูกๆและการเลี้ยงดู

ไม่ว่าคุณจะอยากมีลูกหรือไม่อยากมีก็ต้องจับเข่าคุยกัน เช่น เขาอยากให้คุณอยู่บ้านเลี้ยงลูกหรือคุณทั้งคู่อยากทำงานเต็มเวลา ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณต้องส่งลูกๆไปเนิร์สเซอรี่หรือจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแล นอกจากนี้คุณต้องปรึกษากันว่าจะให้ลูกนับถือศาสนาอะไร แล้วคุณจะประหลาดใจเมื่อรู้ว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่นับถือศาสนาอะไรเลยแต่ก็ยังอยากให้ลูกๆของตัวเองเชื่อในเรื่องพวกนี้ด้วย!

3. ย้ายไปเมืองอื่น

นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากมากและคนส่วนใหญ่ก็มักย้ายไปยังสถานที่แห่งใหม่เพื่อทำงานหรือหาซื้อบ้านที่พอๆกับกำลังทรัพย์ของตัวเองได้ คุณควรปรึกษากับอีกฝ่ายแม้ว่าจะเป็นแค่การย้ายไปย่านใกล้เคียง หากคู่ของคุณยืนกรานที่จะอยู่ที่เดิมก็ลองพยายามยกตัวอย่างขึ้นมา บางทีว่าที่สามีของคุณอาจกังวลว่าคุณจะไม่สามารถหาเงินได้มากพอที่จะย้ายไปยังที่ใหม่ หรือภรรยาในอนาคตของคุณอาจต้องการอยู่ใกล้ๆกับครอบครัวของเธอเมื่อมีลูก ดังนั้นคุณควรตกลงกันให้ดีๆ

4. ลำดับความสำคัญในชีวิต

การแต่งงานหมายถึงการวางแผนที่จะอยู่กับคนอื่นในระยะยาวจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรลำดับความสำคัญในชีวิต การพักร้อนเป็นสิ่งจำเป็นไหม? หรือคุณจะประหยัดเงินในช่วง 2-3 ปีแรกของการแต่งงานเพื่อซื้อบ้าน? ปรึกษากันให้ดีและหาจุดที่ลงตัวกันทั้งสองฝ่ายให้ได้ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้อีกฝ่ายสมหวังไปก่อนก็ได้

5. พ่อแม่ของแต่ละฝ่าย

คุณอาจไม่จำเป็นต้องคิดล่วงหน้าไปก่อนว่าพ่อแม่ของคุณต้องการอะไรบ้าง แต่การพูดคุยกันว่าคุณจะดูแลพ่อแม่อย่างไรก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการทำความคุ้นเคยกัน คู่ของคุณต้องการให้พ่อแม่อยู่ในบ้านหลังเดียวกันไหม? หรือเขาต้องการให้พ่อแม่ได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้? ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ? คุณควรให้พี่น้องของทั้งสองฝ่ายเข้ามาอยู่ในวงสนทนาด้วย

6. การจัดการกับปัญหายากๆ

โดยเริ่มด้วยคำถามนี้ ?คุณผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตไปได้อย่างไร?? แล้วคุณจะเข้าใจว่าคู่ของคุณสามารถผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้อย่างไรและอะไรคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาในยามนั้น คุณต้องคุยกันว่าจะรับมือกับปัญหาใหญ่ๆอย่างไรไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านอารมณ์ ทางกาย หรือการเงิน การไร้สมรรถภาพทางเพศ หรือการมีบุตรยาก หรือปัญหาสุขภาพต่างๆ

7. ปรับปรุงการสื่อสารระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้น

หากคุณอยู่ด้วยกันมานานหลายปีก็อาจจะยึดติดกับการสื่อสารในรูปแบบเดิมๆ แต่รู้ไหมว่าการปรับปรุงการสื่อสารระหว่างกันไม่ว่าจะเป็นการถกเถียง การเจรจา และการประนีประนอมก็เป็นเรื่องที่สำคัญ คุณอาจเรียนรู้วิธีการสื่อสารระหว่างกันจากพ่อแม่ของตัวเองหรือพยายามหลีกเลี่ยงรูปแบบการสื่อสารที่คุณไม่ชอบ การปรับปรุงหล่านี้จะช่วยสานสัมพันธ์รักให้อยู่คงทนและยั่งยืนต่อไป

Blogger : Kellee KhalilSource : mindbodygreen.com



บทความแนะนำ


เดอะบลูสกายรีสอร์ตแพพันวารีย์เขื่อนเชี่ยวหลานความสวยความงามอาร์อาณัตพลผู้หญิงอาร์จียอนข่าวบันเทิงทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก