12 คำสอนอันทรงคุณค่าที่คุณย่าสอนฉันก่อนที่ท่านจะลาลับไป
ตอนที่คุณย่าของฉันล่วงลับไปเมื่อหลายปีก่อนขณะที่ท่านอายุ 90 ปี ท่านทิ้งกล่องใบหนึ่งซึ่งมีข้าวของมากมายอยู่ในนั้นไว้ให้ฉันดูต่างหน้า หนึ่งในนั้นคือสมุดบันทึกปกหนังเล่มเก่าที่ท่านตั้งชื่อไว้ว่า ?บันทึกแห่งแรงบันดาลใจ? คุณย่าจดบันทึกทุกอย่างลงไปในสมุดเล่มนี้ซึ่งมีทั้งแนวคิด ความคิด คำพูด เนื้อเพลง และอะไรก็ตามที่สร้างแรงบันดาลใจให้ท่าน คุณย่าจะอ่านข้อความในสมุดบันทึกให้ฉันฟังตอนที่ฉันเริ่มโตขึ้นและฉันก็จะตั้งคำถามกลับไป คุณย่าคือผู้ที่ประทานสติปัญญาและความสามารถให้กับฉันอย่างแท้จริง และวันนี้ฉันก็อยากแบ่งปันบทความที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนบ้างค่ะ
1. มีชีวิตอยู่เพื่ออนาคต ละทิ้งอดีตไป
ไม่สำคัญว่าคุณอยู่ที่ไหนหรือกำลังจะเผชิญกับอะไร เราควรเชื่อว่าย่อมมีแสงไฟปรากฏอยู่ที่ปลายอุโมงค์ อย่าคาดหวัง สันนิษฐาน หรือเรียกร้องสิ่งใด แค่พยายามทำให้ดีที่สุด ควบคุมสิ่งที่ควบคุมได้ และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
2. เราสามารถทำให้ชีวิตกลายเป็นเรื่องง่ายได้อีกครั้ง
แค่ให้ความสนใจไปทีละเรื่อง คุณไม่จำเป็นต้องลงมือทำทุกอย่างและไม่จำเป็นต้องทำเดี๋ยวนี้ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อยู่กับปัจจุบันและทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่ก็พอ สุดท้ายชีวิตก็จะตอบแทนคุณเองแหละ
3. ให้คนอื่นสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของคุณ
จงพูดความจริงแม้ว่าเสียงของคุณจะสั่นเครือ การเป็นตัวของตัวเองจะทำให้โลกใบนี้สดใส ดังนั้นจงก้าวเดินอย่างมั่นใจและอย่าไปหวังว่าทุกคนจะเข้าใจเส้นทางชีวิตของคุณ โดยเฉพาะถ้าพวกเขาไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน
4. คุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
คุณเคยเจ็บปวดและผ่านเหตุการณ์หนาวๆร้อนๆมามากมายจนทำให้คุณกลายเป็นคุณอย่างในทุกวันนี้ ประสบการณ์หลายอย่างทำให้มุมมองของคุณเปลี่ยนไปและสอนบทเรียนให้แก่คุณจนจิตใจกล้าแกร่ง เมื่อเวลาผ่านไปไม่มีใครย่ำอยู่ที่เดิมหรอก แต่บางคนก็ยังจะบอกคุณว่าคุณเปลี่ยนไป ตอบกลับไปเลยว่า ?ใช่ฉันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ฉันก็ยังเป็นคนเดิม แค่เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง?
5. สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คุณเติบโตแม้ว่าจะยากลำบากก็ตาม
เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะหล่อหลอมให้คุณเป็นคนใหม่และสมบูรณ์แบบกว่าเดิม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต้องไม่หยุดหวัง เพราะแม้แต่ปมที่เล็กที่สุดยังสามารถผูกเกลียวกันจนกลายเป็นเชือกที่ไม่มีวันขาดได้เลย
6. อย่าหาทางให้ตัวเองรวย แต่ควรหาทางให้ตัวเองมีความสุข
เมื่อคุณโตขึ้นคุณจะเข้าใจว่าคุณค่าของสิ่งต่างๆไม่ได้วัดกันที่ราคาค่างวด สุดท้ายแล้วคุณจะไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ทำให้คุณยิ้มได้ คุณจะรู้สึกซาบซึ้งและยินดีกับช่วงเวลาอันแสนพิเศษ นี่ล่ะคือความสุขที่แท้จริง
7. รู้จักคิดบวก ทำบวก
สิ่งที่กำหนดความเศร้าหรือความทุกข์ยากคือทัศนคติของคุณ ดังนั้นจงยิ้มให้กับคนที่พยายามทำร้ายหรือคิดร้ายต่อคุณ ทำให้พวกเขาเห็นว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่มีและพวกเขาก็ไม่สามารถพรากความคิดแง่บวกนี้ไปจากคุณได้
8. จงใส่ใจคนที่คุณรัก
บางครั้งการที่คนรักของคุณพูดว่า ?ฉันไม่เป็นไร? อาจหมายความว่าเขาต้องการให้คุณมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาและกอดเขาไว้แน่นๆพร้อมกับพูดว่า ?ฉันรู้ว่าคุณไม่สบายใจ? และอย่าแสดงอารมณ์หงุดหงิดหากเขานึกถึงคุณเฉพาะตอนที่มีปัญหาเท่านั้น แต่คุณควรรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษเหมือนกับไฟส่องทางให้กับคนเหล่านั้น
9. บางครั้งคุณก็ต้องปล่อยใครบางคนไปเพื่อให้พวกเขาเติบโต
สิ่งที่คุณสอนพวกเขาคือการทำทุกอย่างด้วยตัวเองนั้นจะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในที่สุด
10. บางครั้งผลลัพธ์ที่คุณต้องการคือการปลดเปลื้องตัวตนจากคนที่มีเป้าหมายไม่ตรงกับคุณ
เมื่อโตขึ้นคุณจะพบกับตัวตนของคุณและเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการ จากนั้นคุณก็รู้ว่าคนที่คุณรู้จักมานานอาจมีเป้าหมายในชีวิตไม่ตรงกับคุณ ดังนั้นจงเก็บแต่ความทรงจำดีๆเอาไว้และพาตัวเองมุ่งหน้าต่อไป
11. ลองมองย้อนกลับไปและพูดว่า ?ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะทำสำเร็จ? แทนที่จะพูดว่า ?หวังว่าฉันจะทำสำเร็จนะ
ท้ายที่สุดคุณก็จะถูกคนอื่นตัดสินอยู่ดี ดังนั้นอย่าใช้ชีวิตด้วยการพยายามเอาใจคนอื่น แต่ควรใช้ชีวิตเพื่อเอาใจตัวเองดีกว่า จงรักตัวเองให้มากพอที่จะไม่ลดฐานะของตัวเองให้ใคร
12. หากคุณกำลังมองหาความสุขแต่ดูเหมือนว่าจะหาไม่เจอ บางครั้งนี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าได้เวลาเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆแล้ว
ปัดฝุ่นตัวเองและยอมรับว่าคุณต้องเผชิญกับความล้มเหลวมานับไม่ถ้วน คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือคนที่หัวเราะได้แม้ในยามที่ลำบากที่สุดและเป็นคนเดียวกันกับคนที่ต้องต่อสู้กับสงครามที่หนักหนาที่สุด การที่คนเหล่านี้ยิ้มได้เพราะพวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาฉุดรั้งพวกเขาให้ล้มลง ที่สำคัญนี่คือการเริ่มต้นครั้งใหม่ของพวกเขาด้วย
Blogger : Marc ChernoffSource : marcandangel.com