ฮอร์โมนเจ้าปัญหาที่ทำให้คุณลดน้ำหนักยังไงก็ไม่ลงสักที ที่แท้เพราะแบบนี้?!! อ่านแล้วกระจ่างเลย!

บางครั้งคุณเคยสงสัยไหมว่าทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นเลือกทานอาหารให้น้อยลง ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอก็แล้ว แต่ทำไมเจ้ากรรมน้ำหนักกลับไม่ลดลงเลยซะงั้น ในวันนี้เราจะมาช่วยคุณไขคำตอบกับบทความฮอร์โมนเจ้าปัญหาที่ทำให้คุณลดน้ำหนักยังไงก็ไม่ลงสักที ที่แท้เพราะแบบนี้ ว่าแล้วอย่ารอช้าตามมาดูกันดีกว่า

เลปตินเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่เป็นตัว "ขัดขวาง" การลดน้ำหนักของคุณอย่างแท้จริงหน้าที่หลักของฮอร์โมนชนิดนี้ คือ การกำหนดระดับพลังงานที่ใช้ในแต่ละวันและน้ำหนักตัวของเรามีส่วนในการสั่งการสมองเกี่ยวกับเรื่องความอยากอาหารมีการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและกระตุ้นให้เนื้อเยื่อไขมันใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในบางครั้งร่างกายของคนเราก็สร้างบางสิ่งมาขัดขวางการทำงานของเลปติน สิ่งนั้นถูกเรียกว่า ภาวะดื้อเลปติน

หากร่างกายของคุณเกิดภาวะต่อต้านเลปตินจะมีอาการดังต่อไปนี้เลปตินจะส่งสัญญาณความรู้สึกอิ่มไปไม่ถึงสมองคุณจึงไม่สามารถควบคุมการกินได้สิ่งนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณอ้วนขึ้นได้หากคุณมีระดับเลปตินสูงเป็นเวลานานจะทำให้ความไวต่อความรู้สึกของคุณลดลงอีกทั้งสมองจะไม่ทำตามสัญญาณที่ได้รับ ซึ่งส่งผลกระทบให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลงและไม่สามารถควบคุมการกินไม่ได้น้ำหนักขึ้นควบคุมการกินไม่ได้เกิดอาการกินแก้เครียดกินดึกความดันโลหิตสูงนอนไม่หลับลดน้ำหนักไม่ลงอยากน้ำตาลไขมันสูงเป็นกังวลไม่มีแรงกระตุ้นกินของจุกจิกหลังอาหารบ่อยกินเสร็จแล้วง่วงนอน

ถ้าหากคุณเกิดอาการภาวะต่อต้านเลปตินแล้วสิ่งที่เราอยากแนะนำคุณคือคุณควรเลิกรับประทานอาหารเหล่านี้ เพื่อให้ภาวะดื้อเลปตินกลับมาสมดุลเช่นเดิม ซึ่งอาหารเหล่านี้มีดังต่อไปนี้1. ไขมัน2. น้ำตาล3. คาร์โบไฮเดรต4. น้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดฟรุกโตสสูงคุณควรหันมารับประทานอาหารออร์แกนิกและอาหารไม่ผ่านการแปรรูปแทนอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตตเชิงเดี่ยว จำพวกข้าวขัดสี ขนมปังขาวในส่วนของอาหารประเภทไขมันให้รับประทานไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากขึ้น เช่น น้ำมันมะพร้าว อะโวคาโด ถั่ว เนย และไขมันสัตว์ หรืออาจจะเป็นอาหารเสริมน้ำมันกุ้งหรืออาหารเสริมอื่นๆ ที่มีโอเมก้า 3

หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ก็ได้ทราบถึงคำตอบกันแล้วที่ว่าทำไมลดน้ำหนักแทบตาย ทำไมถึงไม่ลงซักทีกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่กำลังประสบกับปัญหาแบบนี้อยู่ละก็ ก็ลองทำตามคำแนะนำด้านบนกันได้เลย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: Thaijobsgov