เขื่อนรัชชประภา เที่ยวง่าย ๆ ไปเองก็ได้ ไม่ยากอย่างที่คิด
เขื่อนรัชชประภา
เรื่องราวดี ๆ ที่น่ารู้ก่อนไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน
จังหวัดสุราษฏร์ธานี เพื่อการเตรียมตัวที่พร้อมและสนุกมากยิ่งขึ้น
ใครวางแผนจะไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภาไม่ควรพลาด
เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน
ตั้งอยู่ติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
ด้วยเต็มไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาและสายน้ำที่งดงาม
เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ
แต่หลายคนก็อาจจะยังเริ่มไม่ถูกว่าถ้าจะไปเที่ยวที่นี่ควรเริ่มต้นอย่างไร
วันนี้เรามีข้อน่ารู้และเกร็ดท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภาเล็ก ๆ น้อย ๆ
มาฝากกันค่ะ
1. เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาสก
2.
ที่ชาวบ้านเรียกที่นี่กันว่าเขาสก
เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำและแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ใน
พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาสก
3.
ด้วยความที่บริเวณอ่างเก็บน้ำในเขื่อนรัชชประภามีภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงาม
แปลกตาตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นมากมาย
นักท่องเที่ยวจึงขนานนามว่าที่นี่คือกุ้ยหลินเมืองไทย
4.
นอกจากนี้แล้วเสน่ห์ของเขื่อนรัชชประภา
ยังอยู่ที่ธรรมชาติของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเงียบสงบ
อากาศเย็นสบายสดชื่นมาก อีกทั้งน้ำในเขื่อนยังสวยใส มีสีเขียวมรกต
มองเห็นปลาต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
5.
การไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน ถ้าจะไปเที่ยวชมวิวสวย ๆ
โดยไม่นอนค้างบนแพกลางน้ำก็ได้ค่ะ ก็จะมีจุดชมวิวอยู่บริเวณสันเขื่อน
หรือบริเวณที่ทำการของเขื่อน
หากใครอยากนั่งเรือชมวิวก็มีบริการเรือนำเที่ยวด้วยเช่นกัน
6.
หากต้องการไปพักแพบ้านพักในเขื่อนรัชชประภา
ที่พักส่วนใหญ่จะจัดเป็นแพ็กเกจให้กับลูกค้า เช่น 2 วัน 1 คืน รวมอาหาร 2
มื้อ, 3 วัน 1 คืน รวมอาหาร 5 มื้อ ฯลฯ บางที่พักก็มีแบบแยกจอง
ใครอยากจองแต่ห้องพักก็ได้ ไม่รวมอาหาร
สามารถสอบถามได้โดยตรงจากแพที่จะเข้าพักได้เลย
7.
แพที่พักแต่ละแห่งจะต้องนั่งเรือออกไป
เพราะฉะนั้นก่อนจองที่พักถามทางรีสอร์ทให้แน่ใจ
ว่าราคาที่จ่ายไปนั้นได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง รวมค่าเรือด้วยไหม
8. แนะนำว่าถ้าใครไปช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว ให้จองเรือไว้ดีกว่าแต่ถ้าไปวันธรรมดาก็จะมีเรือไว้บริการพอเพียง ไม่ต้องจองไว้ก็ได้
9.
เรือหางยาวที่ให้บริการในเขื่อนรัชชประภา ส่วนใหญ่เป็นแบบเช่าเหมาลำ
นั่งได้ประมาณ 8-10 คน ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท
(ขึ้นอยู่กับว่าแพที่พักไกลมากน้อยแค่ไหน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพที่จะเข้าพัก
หรือรุ่งโรจน์บริการเรือนำเที่ยวเขื่อนรัชชประภา โทรศัพท์ 08 7882 5011, 08
7269 1466
10.
นอกจากการจองแพ็กเกจกับที่พักแล้ว
ก็ยังมีบริษัททัวร์หลายแห่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้บริการพาเที่ยวเขื่อน
รัชชประภาด้วย ทั้งนี้อยากให้ลองหาข้อมูลให้เยอะ ๆ ก่อนที่จะตกลงซื้อทัวร์
เพราะบางทีการไปเที่ยวเองก็มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า
11.
บริเวณแพที่พักบางแห่ง อาจจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
เพราะฉะนั้นก่อนไปเที่ยวต้องเตรียมใจไว้ระดับหนึ่งว่าต้องตัดขาดโลกภายนอก
สักวันสองวัน
12. ถ้าอยากไปเที่ยวนอนพักบนแพกลางน้ำในเขื่อนรัชชประภาแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร แนะนำขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 1
>> เลือกที่พักที่อยากจะไปพัก
แล้วสอบถามรายละเอียดว่าให้เข้าพักแบบแพ็กเกจได้อย่างเดียว
หรือแบบจองห้องพักอย่างเดียวก็ได้ เพื่อที่จะได้วางแผนต่อไป
ขั้นตอนที่ 2
>> ลองหาทัวร์ที่ขายแพ็กเกจที่พักเดียวกับที่เราจะไปพัก
แล้วลองเปรียบเทียบราคากับแพ็กเกจของทางแพที่พัก
ดูให้ละเอียดว่ารวมค่าเรือหางยาวและอาหารหรือยัง มีการพาไปเที่ยวยังจุดต่าง
ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสกและเขื่อนรัชชประภาหรือไม่
ขั้นตอนที่ 3
>> ถ้าต้องจองเรือหางยาวไปแพที่พักเอง
สามารถจองเรือได้ล่วงหน้าที่รุ่งโรจน์บริการเรือนำเที่ยวเขื่อนรัชชประภา
โทรศัพท์ 08 7882 5011, 08 7269 1466 หรือถ้าไปวันธรรมดาไม่ต้องจองก็ได้ค่ะ
มีเรือไว้รองรับเพียงพอ
ขั้นตอนที่ 4 >> เมื่อจัดการกับเรื่องเรือและที่พักเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็มาจัดการเรื่องการเดินทางไปยังเขื่อนรัชชประภาได้เลย
13. การเดินทางไปยังเขื่อนรัชชประภา จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางไปได้หลายวิธี ดังนี้
ถ้ามาโดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ขับผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดชุมพร จนเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขับมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41
จนถึงแยกอำเภอพุนพิน ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลย 401 ขับไปเรื่อย ๆ
จะมีป้ายบอกทางไปเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)
ถ้ามาจากสนามบินสุราษฎร์ธานี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าแท็กซี่มาได้เลย
หรือนั่ง Airport Bus เข้าไปที่ตัวเมืองสุราษฎฎร์ธานี
จากนั้นให้ต่อรถตู้บริเวณตลาดเกษตร 2 ไปที่เขื่อนรัชชประภา
ถ้ามาโดยรถไฟ ให้ลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี
แล้วต่อรถบัสที่ให้บริการเส้นทางสุราษฏร์ธานี-ภูเก็ต
เพื่อไปลงที่ปากทางเข้าเขื่อนรัชชประภา
14.
การไปนอนพักบนแพในเขื่อนรัชชประภา
แพที่พักบางแห่งจะมีเวลากำหนดในการใช้ไฟฟ้า
เพราะฉะนั้นควรเตรียมไฟฉายไปด้วย เผื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
และควรเตรียมยาประจำตัวและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นไปด้วย
ใครที่แพ้ยุงก็อย่าลืมยาทากันยุงด้วยนะคะ
15.
ช่วงเวลาที่น่าไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภา
อันที่จริงแล้วที่นี่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบบรรยากาศแบบไหน ในช่วงหน้าร้อนอากาศอาจจะร้อนสักนิด
แต่ท้องฟ้าสดใส ถ่ายรูปสวย ส่วนช่วงหน้าฝนจะอากาศสดชื่นเย็นสบาย
ภูเขาและธรรมชาติจะมีสีเขียวขจี บางวันยังจะได้เห็นหมอก
อีกทั้งยังเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นอีกด้วย
แต่ถ้าใครชอบอากาศเย็น ๆ หนาว ๆ ต้องไปช่วงปลายปี
แต่ช่วงนี้ก็จะมีนักท่องเที่ยวเยอะด้วยเช่นกัน
16.
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาสก โทรศัพท์ 0 7739 5139, 0
7739 5154-5 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฏร์ธานี โทรศัพท์ 0
7728 8818-9
หวัง
ว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากจะไปสัมผัส
เขื่อนรัชชประภาไม่มากก็น้อยนะคะ วันหยุดว่าง ๆ ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน
ลองไปเที่ยวที่นี่กันค่ะ รับรองว่าจะประทับใจแน่นอน :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 30 มกราคม 2560
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
rpb.egat.com, park.dnp.go.th, ททท.