อำมหิต! แม่เลือดเย็น "ฆ่าลูกชายวัย 5 ขวบ" บังคับให้กินยาแก้หวัด ก่อนนำร่างใส่รถจุดไฟเผา!!

อ่าน 2,457

เปิดคดีสุดสลดสะเทือนขวัญ หญิงชาวอเมริกันใจอำมหิต บังคับลูกชายวัย 5 ขวบกินยาแก้หวัดจนหมดสติ ก่อนนำร่างใส่รถแล้วจุดไฟเผาอำพรางคดี ล่าสุดศาลตัดสินจำคุก 50 ปี

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 เว็บไซต์เดอะวอชิงตันโพสต์ เผยรายงานคดีโศกนาฏกรรมสุดสลด ระบุว่า นางนาร์เจส แชฟีราด หญิงชาวอเมริกันวัย 35 ปี ก่อเหตุสุดสยองขวัญและสะเทือนใจ ฆาตกรรมลูกชายวัย 5 ขวบ ด้วยการให้กินยาแก้หวัดจนหมดสติ ก่อนจะจัดฉากให้เหมือนรถยนต์เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้เผาร่างลูกชายที่นอนอยู่ภายในรถ โดยรายงานจากทางศาลรัฐแมริแลนด์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาคดี นางนาร์เจส ได้เปิดเผยในศาลถึงเรื่องราวชีวิตการหย่าสุดขมขื่น รวมทั้งความยากลำบากในการต่อสู้ในชั้นศาล และทำให้เธอกลายเป็นโรคซึมเศร้า โดยผู้เป็นแม่และผู้ต้องหาในคดีฆ่าลูกชายของตัวเองรายนี้ เผยว่า ชีวิตเธอพังทลาย มีลูกชายคนเดียวที่เป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หากสูญเสียลูกชายไป แต่สุดท้าย ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางศาลได้พิจารณาตัดสินแล้วว่า ให้เธอรับโทษจำคุกเป็นเวลา 50 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน รายงานจากทางศาล ระบุว่า ระหว่างที่อยู่ในศาล นางนาร์เจสมีการแสดงออกทางอารมณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าในขณะที่ทางพ่อและญาติฝ่ายพ่อของเด็กชายจะให้การในสภาพที่สุดเศร้าเสียใจ หรือแม้กระทั่งตอนที่ฝ่ายโจทก์ แจงรายละเอียดถึงวิธีการที่เธอบังคับให้ลูกชายทานยาแก้หวัดในปริมาณที่มาก แต่ทางนางนาร์เจสก็หาได้มีท่าทีให้เห็นว่าเสียใจแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ทางศาลได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบาดแผลและรอยฟกช้ำที่รอบ ๆ ปากของเด็กชาย อันเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า นางนาร์เจสผู้เป็นแม่บังคับขืนใจลูกชายให้กินยาดังกล่าวเข้าไป และให้กินอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2-4 ชั่วโมง จนเขาเสียชีวิต ซึ่งก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต คาดว่าฤทธิ์ของยาทำให้เด็กชายมีอาการตาพร่ามัว มึนเมา อาเจียน และเป็นไปได้ที่จะมีการชักด้วย

หลังจากนั้นได้จัดการอำพรางคดี ด้วยการนำร่างลูกชายไปใส่ไว้ที่เบาะหลังรถยนต์ ก่อนจะขับเข้าไปที่ปั๊ม พร้อมทั้งเติมน้ำมันมาเต็มแกลลอน จากนั้นได้ขับไปจอดที่ริมถนนสายหนึ่งในเขตเกเธอร์สบูร์ก ก่อนจะเทน้ำมันราดและจุดไฟเผาทำให้ดูเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ นางนาร์เจสได้อ้างกับทีมสืบสวนว่า เธอกับลูกชายกำลังขับรถไปเที่ยวชายหาด แต่ได้พกน้ำมันใส่แกลลอนติดรถไปด้วย เผื่อเกิดน้ำมันหมดและไม่พบปั๊ม โดยตอนเกิดเหตุระหว่างที่กำลังขับรถ เธอได้หยิบบุหรี่ออกมาสูบ ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น เธอได้รับบาดเจ็บเป็นแผลประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย และต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายเดือนด้วยกัน

ทั้งนี้จากขั้นตอนการสืบคดีพบว่า นางนาร์เจสและนายฮามิด ดานา ผู้เป็นสามี ได้แต่งงานมีลูกชายด้วยกัน 1 คน แต่หลังจากแต่งงานได้ 6 ปี ชีวิตรักของทั้งคู่ก็จบลงอย่างขมขื่นและหย่าร้างแยกทางกัน โดยนางนาร์เจสเคยลั่นคำพูดกับทางสามีไว้ว่า "ฉันจะทำให้คุณร้องไห้ แล้วคุณจะต้องเสียใจ" ซึ่งคาดว่า เมื่อประกอบกับความเครียดขั้นรุนแรง จึงเกิดเป็นแรงจูงใจให้นางนาร์เจสก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้ช่วยอัยการรัฐ เผยว่า ในกรณีดังกล่าวนี้ มีความเป็นไปได้ที่เด็กจะเสียชีวิตเพราะฤทธิ์ยา ก่อนที่ร่างจะถูกเผา ซึ่งถือว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ใหญ่ก็ถือว่าโหดร้ายมากแล้ว แต่นี่เป็นเพียงเด็ก อีกทั้งผู้ก่อเหตุเป็นแม่แท้ ๆ ของเด็กเองด้วย ขณะที่ด้านนายฮามิด พ่อของเด็กชาย รู้สึกเศร้าเสียใจกับการเสียชีวิตของลูกชายเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยให้การกับศาลว่า ตนพยายามที่จะพาลูกชายมาอยู่ด้วยหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ และพยายามหาวิธีให้ลูกชายได้มีทั้งพ่อและแม่ โดยทุกครั้งที่เขาต้องจากลูกก็มักจะบอกให้ลูกเข้มแข็งไว้เสมอ และไม่คาดคิดว่าสุดท้ายลูกชายที่เป็นเด็กร่าเริงและวาดฝันอยากจะให้มีอนาคตที่สดใส ต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้



บทความแนะนำ


มะเร็งเต้านมการศึกษาผู้หญิงผู้ชายสมุนไพรมะเร็งความรักทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก