เหตุผลที่ฉันโสด

อ่าน 8,954

ฉันไตร่ตรองมากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์

แม้ว่าฉันเกือบจะเคยมีระดับความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจริงจังอย่าง

?เราจะหมั้นกันแล้วเหรอ?? แต่สรุปแล้วฉันก็ยังครองโสดเต็มตัวนะ

และฉันก็โอเคกับมันด้วย แต่ฉันไม่ ?โอเค?

กับการที่คนอื่นพูดว่าโอเคทั้งที่พวกเขาไม่โอเคน่ะสิ

ดูเหมือนทุกคนจะเป็นห่วงวิถีคนโสดของฉันมากกว่าตัวฉันเองเสียอีกไม่ว่าจะ

เป็นนิตยสารผู้หญิง คุณปู่ เพื่อนๆของฉันที่แต่งงานแล้ว

รวมถึงช่างทำเล็บของฉันด้วย ตอนอายุ 20

ต้นๆฉันได้ไปโบสถ์ซึ่งคนที่นั่นจะแบ่งคนออกเป็น 2

กลุ่มได้แก่คนโสดกับคนที่แต่งงานแล้ว ต่อมาในช่วงวัย 30

ปีดูเหมือนว่าระดับความตื่นตระหนกจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

พวกเขาวิตกกังวลเกี่ยวกับความสุขของฉัน การเงิน และไข่ของฉัน

ฉันมักจะรู้สึกราวกับว่าอยู่ในแดนสนธยา

ทุกคนต่างพากันโบกมือและกรีดร้องขณะที่ฉันก็.. ?เฮ้

พูดเรื่องอื่นบ้างได้ไหมนอกจากเรื่องผู้ชายน่ะ??

ฉันคิดว่าฉันควรบอกเหตุผลของการอยู่เป็นโสด

บางทีคนโสดส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน

1. ฉันชอบอยู่คนเดียว

ใช่เลย ฉันชอบชีวิตที่ไร้การผูกมัดมาก

วันก่อนฉันเพิ่งนึกภาพตัวเองอยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจังและรู้สึกกลัว

เมื่อคิดว่าฉันอาจจะพลาดอะไรหลายๆอย่างในชีวิตปัจจุบันไป

นี่ไม่ใช่เรื่องของคนอื่นแต่เป็นของฉัน ฉันชอบความเป็นอิสระ ชอบการนอนดึก

และชอบกินขนมคนเดียว

2. ฉันเลือกคนผิด

บอกตามตรงว่าบางครั้งฉันก็มีรสนิยมเรื่อง

ผู้ชายที่ไม่ค่อยดี

แต่แทนที่จะมองว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ทำให้ฉันเจอเนื้อคู่ล่าช้า

ฉันกลับคิดว่านี่ก็ไม่ต่างจากการจัดกระเป๋าหรืออ่านหนังสือไร้สาระอื่นๆและ

ฉันก็ซื่อสัตย์กับตัวเองเท่าที่จะทำได้

ฉันมักจะเตือนตัวเองเป็นประจำให้เปิดตามองคนหลายแบบซึ่งโดยปกติแล้วฉันไม่มี

วันหลงรักหรอก

3. จังหวะเวลาคือโชคชะตา

ฉันอ่านบทความเรื่อง

?ฉันพบรักเพราะโชคชะตาไม่ใช่เพราะว่าฉันเปลี่ยนแปลงตัวเอง? เนื้อหาคือ

?ฉันไม่ได้ทำอะไรแตกต่างไปจากปกติเพื่อค้นหาความสัมพันธ์อันเปี่ยมสุข

ฉันไม่ได้ลองแอพพลิเคชั่นหาคู่

และฉันก็ไม่ได้เที่ยวป่าวประกาศให้โลกรู้ว่าฉันพร้อมที่จะรักแล้ว

ใช่ฉันโชคดีแต่ฉันก็ยังเป็นคนเดิมที่รู้สึกไม่มั่นใจ อคติ และวิตกกังวล

แต่ตอนนี้ฉันเจอคนที่ฉันรักและรักฉันกลับแล้ว

ภาพถ่ายหน้าหลังของฉันเกือบจะดูเหมือนกันแต่ต่างกันที่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว

อีกต่อไป? ดังนั้นฉันอาจจะเป็นโสดเพราะโชคชะตาหรือจังหวะเวลา

(หรือทั้งสองอย่าง)

หรือเพราะฉันลบแอพพลิเคชั่นหาคู่หรือเพราะคนที่ทำให้โลกของฉันสดใสและ

หัวเราะกับเรื่องตลกของฉัน ฉันยักไหล่และพูดว่าชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ

4. เพราะไม่เป็นไร

บทสนทนาที่ฉันเกลียดมากที่สุดคือความพอใจ

ในชีวิตของฉันและฉันควรจะอยู่กับใคร เมื่อปีก่อนฉันได้อ่านหนังสือเรื่อง

?Loving What Is? และก่อนที่คุณจะชี้นิ้วมาที่ฉันและร้องว่า ?ฮิปปี้!?

ขอบอกหน่อยนะว่านั่นก็แค่ข้อความเห่ยๆ

จงจำไว้ว่าความสุขจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง

ฉันโสดก็เพราะฉันโสดไงล่ะ ก่อนที่คุณจะคิดว่าฉันเป็นคนเรียบง่ายสบายๆ

ขออธิบายให้ชัดเจนนะว่าฉันเข้าใจ (และเห็นใจ) ความกลัว ความเหงา

และความเจ็บปวดที่มาจากการไม่มีคู่อย่างแท้จริง

มันอาจจะโหดร้ายโดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้นและเพื่อนๆแต่งงานกันไปหมดแล้ว

(จากนั้นก็หย่าและแต่งงานใหม่อีก)

และเมื่อเราตระหนักว่าเราอาจไม่มีลูกในวัยเดียวกับบรรดาเพื่อนสาวสมัย

มหาวิทยาลัย ซึ่งหมายถึงลูกคนที่สองและสามด้วย

ฉันไม่ได้ต้องการกำจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไป

ที่ผ่านมาฉันก็บ่นกับเพื่อนสาวถึงความเฮงซวยของผู้ชายในทุกวันนี้แต่ฉันก็

อ่านหนังสือหาคู่และข้อแนะนำในการเอาใจผู้ชายด้วย

เหตุการณ์อาจจะซ้ำรอยอีกแต่ฉันก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

ฉันหวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นไม่สำคัญว่าเราจะอยู่ใน

ความสัมพันธ์หรือไม่ก็ตาม

Blogger : Lyndsay Rush

Source : theeverygirl.com



บทความแนะนำ


ข่าวบันเทิงวันนี้กรุ๊ปเลือดพิชิตใจหมายปองแฟชั่นสาวอวบณปภัชsizePlusสาวทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก