เปิดใจ "สัปเหร่อสาว" พิการครึ่งซีก เคยฆ่าตัวตายแต่รอด เชื่อเป็นบุญกุศลที่ช่วยเฝ้าศพ !

นางสาวอัฏฐะวีกาญ ธัมมะพิทักษ์ หรือกิ๊ฟ อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี จบการศึกษาระดับ ปวส.ด้านวิทยาศาสตร์อาหาร หรือ Food Science จากวิทยาลัยราชมงคลพระนครใต้ ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตที่สุดเหลือเชื่อว่า หลังจากเรียนจบตนได้เข้ามาดูแลหลวงลุงภายในวัด ก็ได้พบเห็นการทำงานของลุงสัปเหร่อประจำวัด ด้วยความสนใจก็ชอบเข้าเรียนรู้และมาช่วยงานเล็กๆน้อยๆ

จนกระทั่งเมื่อปี 2551 แม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ตนจึงเจ้ามาช่วยงานสัปเหร่อเต็มตัว และเริ่มนอนเฝ้าศพแม่เป็นศพแรก ด้วยความที่มีกันเพียง 2 คน แม่ลูก เมื่อผู้เป็นแม่จากไปตนจึงไร้ที่พึ่ง มีเพียงหลวงลุงที่คอยดูแล ตนจึงตัดสินใจหันมาทำงานสัปเหร่อที่วัดอย่างจริงจังมากขึ้น กระทั่งปี 2555 เพื่อนชวนไปทำอาชีพอื่นที่มีความมั่นคง ตนจึงคิดจะเลิกทำอาชีพนี้ แต่กลับถูกรถชนจนพิการครึ่งซีกด้านขวา ไม่สามารถขยับใช้การได้

นางสาวอัฏฐะวีกาญ กล่าวต่อว่า หลังจากต้องเข้ารับการรักษาตัวนานกว่า 1 ปี 4 เดือน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควรแขนขาใช้การได้ไม่ปกติ ตนจึงท้อแท้คิดสั้นกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ญาติๆมาช่วยไว้ได้ทัน เมื่อฟื้นขึ้นมาตนจึงคิดได้ว่าสิ่งที่ตนรักที่สุดยามมีชีวิตอยู่นั่นคืออาชีพสัปเหร่อ ตนจึงหันกลับมาช่วยงานสัปเหร่ออีกครั้ง อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ขาเริ่มเดินได้ปกติมากขึ้นแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์

สัปเหร่อกิ๊ฟ กล่าวอีกว่า ด้วยความท้อแท้ในชีวิตตนจึงบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือในวัดอีกว่า หากจากนี้ไปอีก 3 เดือน อาการตนไม่ดีขึ้นจะไม่ขออยู่บนโลกนี้แล้ว แล้วก็เกิดสิ่งที่คนคิดว่าเป็นปาฏิหาริย์ ใน 2 วันต่อมา คือ ก็ถูกไฟดูดอย่างแรงจนสลบไปโชคดีซ้ำสองอีกเพื่อนขี่รถแวะมาหาที่พบว่า ตนเองนอนสลบอยู่จึงรีบช่วยจนฟื้น เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่า อาการผิดปกติทางร่างกายซีกขวาดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายเป็นปกติในเวลา 1 เดือน จากนี้ตนก็ขออุทิศชีวิตที่เหลือเพื่องานสัปเหร่อและรับจ้างนอนเฝ้าศพจนกว่าจะหมดลม

นางสาวอัฏฐะวีกาญ กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้หน้าที่ของตนคือ ทำทุกอย่างที่สัปเหร่อผู้ชายทำ หากเจ้าภาพต้องการให้นอนเฝ้าศพตนก็นอนเฝ้าให้ โดยตนจะเปิดเพลงให้ศพฟัง พูดคุยเป็นเพื่อนศพด้วย โดยที่ไม่มีความกลัว และมองว่า ศพที่เฝ้า คือ ญาติตนเองคนหนึ่ง