หน้าบวม เกิดจากอะไร รู้สาเหตุไว้ก็รักษาได้ถูกทาง

อ่าน 7,660

อาการบวม เกิดที่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็ว่าเครียดพอตัวแล้ว ยิ่งถ้ามาเกิดบนใบหน้าอีกละก็ ยิ่งปวดหัวไปกันใหญ่ แบบนี้ต้องรีบหาสาเหตุ

หลายคนอาจจะคิดว่าหน้าบวมเกิดจากอาการพื้น ๆ อย่างอาการบวมน้ำ

ซึ่งอยากให้รู้กันไว้เลยว่าไม่ใช่แค่อาการบวมน้ำเท่านั้น

แต่อาจเกิดได้จากการป่วยด้วยโรคบางอย่าง

หากละเลยอาจจะทำให้ล่วงรู้อาการป่วยช้าเกินไปจนบางครั้งก็สายเกินแก้

ถ้าไม่อยากเจอกับปัญหาสุขภาพที่น่าหนักใจ

ต้องมาเรียนรู้สัญญาณสุขภาพจากอาการหน้าบวม

พ่วงด้วยวิธีลดหน้าบวมที่รับรองว่าได้ผลดีแบบไม่เจ็บตัวอีกด้วย

อาการหน้าบวม เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากของเหลวต่าง ๆ

ไหลกลับเข้าไปอยู่ในเซลล์เนื้อเยื่อบนใบหน้า

ทำให้เซลล์เกิดการบวมน้ำหรือเกิดการอักเสบขึ้นที่เนื้อเยื่อบริเวณใบหน้า

อาการบวมนี้สามารถเป็นได้ทุกส่วนบนใบหน้า

แต่จะสังเกตได้ชัดเจนที่บริเวณริมฝีปาก แก้ม และขอบตา

และยังสามารถลุกลามลงมายังบริเวณคอได้อีกด้วย

ซึ่งหลายคนมักจะเข้าใจว่าอาการบวมนั้นจะเป็นอาการบวมน้ำเพียงอย่างเดียว

ทั้งที่จริงแล้วยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวมบริเวณใบหน้าค่ะ

หน้าบวมเกิดจากอะไร ?

อาการหน้าบวมแม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีอันตรายอะไรมากนัก

แต่ขอบอกว่าอาการนี้มีสาเหตุค่ะ

ซึ่งก็อาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพบางอย่าง

หรือเป็นอาการของโรคที่ร้ายแรงได้ โดยอาการหน้าบวมนั้นมีสาเหตุอยู่ 11

สาเหตุใหญ่ ๆ ดังนี้

1. การบวมน้ำ

อาการบวมน้ำนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ

เนื่องจากเป็นภาวะที่ร่างกายรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย

ซึ่งก็มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การดื่มแอลกอฮอล์

การรับประทานอาหารรสจัด นอกจากนี้ก็ยังอาจจะเกิดจากโรคอย่างเช่น โรคไต

โรคตับ หรือภาวะหัวใจล้มเหลวอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูอาการอื่น ๆ

ร่วมด้วยจึงจะตัดสินได้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม

ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการหน้าบวมในช่วงก่อนมีรอบเดือน

เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนที่ควบคุมน้ำและเกลือแร่ในร่างกายเปลี่ยนแปลง

ดังนั้นช่วงนี้ควรเลี่ยงการกินเค็ม เพราะจะยิ่งทำให้บวมน้ำมากขึ้น

2. โรคอ้วน

โรคอ้วนคือ ภาวะการมีน้ำหนักตัวและมีค่าดัชนีมวลกายสูงกว่า 30 ขึ้นไป

ซึ่งเมื่อมีน้ำหนักมากก็จะทำให้เกิดอาการบวมบริเวณใบหน้าได้

โรคอ้วนมีสาเหตุได้ทั้งจากโรคบางชนิด หรือนิสัยการรับประทานอาหาร

รวมทั้งไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดี และออกกำลังกายน้อย

ซึ่งถ้ามาจากสาเหตุนี้อาการหน้าบวมจะไม่อันตรายนัก

และอาการจะหายไปก็ต่อเมื่อน้ำหนักลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ

3. การอักเสบที่เกิดจากเซลลูไลท์

ศัตรูตัวฉกาจของคุณสาว ๆ

อย่างเซลลูไลท์เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการหน้าบวมได้

เนื่องจากเซลล์ลูไลท์คือไขมันใต้ผิวหนังซึ่งทำให้เกิดอาการนูนบวมของผิว

และในบางครั้งก็ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย

และถ้าหากเกิดการติดเชื้อก็จะทำให้เกิดอาการใบหน้าบวม

แต่อาการบวมที่เกิดจากสาเหตุนี้จะปรากฏอาการอื่น ๆ ให้เห็นร่วมด้วย ได้แก่

บริเวณที่บวมจะมีสีแดง จับแล้วจะรู้สึกอุ่น ๆ

ทั้งนี้อาการอักเสบสามารถเกิดได้จากการอักเสบที่มาจากการติดเชื้อที่รากฟัน

การติดเชื้อของเนื้อเยื่อบริเวณรอบดวงตาจนทำให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบ

หรือแม้แต่เกิดการลุกลามของโรคไซนัสอักเสบด้วยค่ะ

4. อาการแพ้

อาการแพ้บางชนิดสามารถทำให้หน้าบวมได้

เนื่องจากอาการบวมเป็นหนึ่งในอาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มีต่อสารก่อภูมิแพ้

ซึ่งมีสาเหตุได้จากหลาย ๆ อย่าง

นอกจากนี้อาการบวมของใบหน้าที่เกิดจากการแพ้จะมีผื่นลมพิษ อาการคัดจมูก

น้ำมูกไหล หรือ จาม ร่วมด้วย แต่ควรต้องระวังให้ดี

เพราะอาการแพ้สามารถทวีความรุนแรงได้

หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน

5. โรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรง

โรคภูมิแพ้ชนิดร้ายแรง เป็นอาการแพ้ที่มีความรุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้

ซึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความไวต่อสารก่อภูมิแพ้

โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วลิสง อาหารทะเล เหล็กในของผึ้ง ยาแอสไพริน

หรือยาปฏิชีวนะ

โดยอาการหน้าบวมนั้นถือเป็นสัญญาณเตือนที่อันตรายร่วมกับการหายใจถี่

เกิดผื่นคัน ปวดท้อง เกิดอาการสับสนมึนงง และอาการไอ

ดังนั้นหากมีอาการหน้าบวมและมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์หรือรับประทานยาแก้แพ้โดยด่วนเลย

6. โรคตาแดง

โรคตาแดง

เป็นอาการอักเสบหรือติดเชื้อที่เกิดในเยื่อหุ้มเซลล์และเยื่อบุเปลือกตา

ทำให้เกิดอาการบวมบริเวณเปลือกตาและอาจลุกลามจนบวมไปทั้งใบหน้าได้

อย่างไรก็ตาม โรคตาแดงไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น

แต่การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่สะอาด

หรือการสัมผัสกับสารเคมีบางชนิดก็สามารถทำให้ตาแดงได้

7. คางทูม

อาการติดเชื้อไวรัสอย่างคางทูมเป็นโรคที่จะมีอาการบวมบริเวณลำคออย่างเห็นได้ชัด

และในบางครั้งก็ลุกลามมาที่บริเวณแก้มอีกด้วย

โดยอาการนี้จะเกิดที่บริเวณต่อมน้ำลายทั้งสองข้าง

ส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้าง่าย มีไข้สูง และไม่ค่อยหิวน้ำ ดังนั้น

หากเริ่มมีอาการบวมที่ลำคอบริเวณใต้ติ่งหูละก็

สันนิษฐานได้เลยว่าคุณอาจจะเป็นคางทูมเข้าแล้ว

8. ไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบเป็นอาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นบริเวณช่องว่างภายในกระดูกและบริเวณรอบ

ๆ จมูกซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการบวมและปวดอย่างรุนแรง

รวมทั้งจะมีความดันบริเวณรอบดวงตาและกระดูกแก้มมากขึ้น

แต่ก็จะไม่ทำให้เกิดอาการบวมบริเวณใบหน้ามากนัก

ไซนัสอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน

โดยอาการจะเริ่มต้นจากปวดหัวและติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน

ดังนั้นถ้ามีอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ

9. ลมพิษ

หากมีอาการบวมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา ใบหน้า ดวงตา

หรือเปลือกตา และยังปรากฏผื่นแดงร่วมด้วย

ก็เป็นไปได้ว่าอาการบวมนี้เกิดจากลมพิษ

โดยโรคลมพิษนี้อาจเกิดจากอาการแพ้ทั่วไป

หรือเป็นอาการที่ถ่ายทอดกันมาทางพันธุกรรมก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้น

อาการเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น ๆ

ที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันก็ทำให้เป็นโรคลมพิษได้เช่นกัน

10. คุชชิงซินโดรม

โรคคุชชิงซินโดรมเป็นความผิดปกติของร่างกายที่ผลิตสารคอร์ติซอล

ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดมากเกินไป

โดยเกิดได้ทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยกลางคน สาเหตุอาจเกิดจากการใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน

อันเนื่องมาจากการรักษาโรครูมาตอยด์

และอาจเกิดจากการมีเนื้องอกเกิดขึ้นที่ต่อมหมวกไต หรือต่อมใต้สมอง

ซึ่งโรคคุชชิงซินโดรมจะก่อให้เกิดอาการบวมที่บริเวณใบหน้าและทำให้ผิวหน้าไม่เรียบ

เกิดการสะสมไขมันที่มากผิดปกติในร่างกายส่วนบน

11. โรคไทรอยด์

ต่อมไทรอยด์ คือต่อมที่คอยผลิตฮอร์โมนที่ใช้ในการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย

โดยถ้าหากเกิดความผิดปกติขึ้นมาก็อาจจะทำให้เกิดอาการบวมของใบหน้าได้

เนื่องจากต่อมไทรอยด์จะอยู่บริเวณส่วนด้านหน้าของลำคอนั่นเอง

แต่ทั้งนี้ก็จะต้องมีอาการของโรคไทรอยด์อื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ น้ำหนักลด

เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว หรือมีอาการบวมตามมือและเท้า

ดังนั้นหากมีอาการหน้าบวมละก็

ควรสำรวจความผิดปกติของร่างกายด้วยเพื่อที่จะไปพบแพทย์ได้ทันท่วงที

หน้าบวมทำอย่างไรดี ลดหน้าบวมได้ด้วยวิธีแบบนี้

วิธีลดหน้าบวมที่ดีที่สุดคือการสังเกตอาการให้ชัดเจนก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไร

หากเป็นเพียงแค่การบวมน้ำที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราก็แค่เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอาการบวม

หากเกิดจากอาการแพ้ทั่วไปก็ควรรับประทานยา แต่ถ้าหากนอกเหนือจากนั้นละก็

ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน โดยเฉพาะหากเกิดอาการหน้าบวมร่วมกับอาการหายใจถี่

หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ควรรีบเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินมา

เพราะหากรักษาไม่ทันกาลอาจะเสียชีวิตได้

หน้าบวม ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ตราบใดที่เรารู้เท่าทันสุขภาพของตนเอง

เพราะเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด

หากเรารู้รักษาตัวเอง และหมั่นสังเกตสุขภาพของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

รับรองว่าไม่มีอาการผิดปกติใดมาทำให้คุณลำบากใจได้แน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

healthline

thehealthsite

healthgrades



บทความแนะนำ


การศึกษาCP910SELPHYCanonเทคโนโลยีภาพยนตร์HUNGERPARTTHEGAMES:MOCKINGJAYทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก