ลิ่มเลือดในประจำเดือนมากแค่ไหนถึงควรกังวล
โดย แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข?(สูตินรีแพทย์และนักเขียนรางวัลชมนาด)
ประจำเดือนเป็นผลพวงจากการกระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกของฮอร์โมนเพศหญิงจากรังไข่
เพื่อเตรียมการฝังตัวของตัวอ่อน หากไม่มีการปฏิสนธิ ฮอร์โมนจะลดระดับ
เส้นเลือดแดงที่มาหล่อเลี้ยงจะหดตัว
เยื่อบุโพรงมดลูกขาดเลือดกลายเป็นเนื้อตายหลุดลอกออกมาพร้อมเลือด
กลายเป็นเลือด?ประจำเดือน ดังนั้นประจำเดือนคือเลือดดี
ร่วมกับเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกออกมา
ประจำเดือนที่ปกติมีลักษณะดังต่อไปนี้- สีแดงไม่สด คล้ำเล็กน้อย เพราะเลือดประจำเดือนเป็นเลือดแดงที่ขาดออกซิเจนจากการที่เส้นเลือด?หดตัวก่อนเยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดลอก
- ไม่มีกลิ่นเหม็น แต่อาจเป็นกลิ่นคาวเลือดจางๆ
- มานานไม่เกิน 7 วัน โดยเฉลี่ยประมาณ 3-5 วัน
- มาไม่มาก คือไม่เกิน 80 ซีซีต่อรอบประจำเดือน
หรือน้ำหนักประจำเดือนไม่เกิน 84 กรัม (เลือด 1 ลิตรหนัก 1,060 กรัม)
คุณสามารถชั่งเลือดประจำเดือน?ได้โดยชั่งผ้าอนามัยก่อนและหลังใช้
หรือคำนวณง่ายๆ ว่าผ้าอนามัยขนาดธรรมดารับเลือดได้ประมาณ ?5 ซีซี ดังนั้น 1
รอบควรใช้ผ้าอนามัยไม่เกิน 16 ผืน (หรืออย่างมากวันหนึ่งไม่เกิน 10 ผืน)
- รอบประจำเดือนปกติคือ 28 วันบวก/ลบไม่เกิน 7 วัน
คือหากประจำเดือนรอบหนึ่งอยู่ที่ 21-35 วัน ถือว่าปกติ แต่หากเกิน 35
วันแล้วประจำ-?เดือนไม่มา หรือมาถี่ก่อน 21 วัน ถือว่าผิดปกติ
- อาจมีเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งเป็นชิ้นเนื้อนิ่มๆ ขนาดเล็กออกมาด้วย ถือว่าปกติ
- ต้องไม่มีก้อนเลือดขนาดใหญ่ที่ความกว้างคูณยาวคูณหนามากกว่า 2 x 2 x 2
?เซนติเมตร
การมีก้อนเลือดขนาดใหญ่ปนมา?แสดงว่าเลือดออกในโพรงมดลูกมากจนไหลออกไม่ทันและจับตัวเป็นก้อนเลือด
โดยส่วนใหญ่มักปวดท้องร่วมด้วย
ถ้าเลือดประจำเดือนออกมากจนเห็นลิ่มเลือดขนาดใหญ่ถือเป็นอาการไม่ปกติ
ส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากโรคของมดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอก?มดลูก (Myoma
Uteri) เนื้องอกโพรงมดลูก (En-?dometrial Polyp) เยื่อบุโพรงมดลูกหนา
(Endo-metrial Hyperplasia) มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial Cancer)
ซีสต์หรือถุงน้ำของรังไข่ (Ovarian Cyst, Polycystic ovarian disease)
มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) เป็นต้นเมื่อประจำเดือนมีลิ่มเลือดผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
หากรอให้เป็นนาน เลือดที่ออกมากอาจทำให้เกิดภาวะซีด หัวใจวาย
จนเป็น?อันตรายต่อชีวิตได้ด้วย