9 อาการ สัญญาณเตือน! คุณกำลังเป็นโรคคลั่งกินคลีนเสียแล้ว

อ่าน 12,901

เดี๋ยวนี้เทรนด์รักสุขภาพกำลังเป็นที่นิยม

ผู้คนต่างมาให้ความสนใจกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น

ไม่เพียงแต่การออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องอาหารการกิน

หรือที่เราๆ รู้จักกันในนามของ ?อาหารคลีน? ด้วย

ซึ่งจะมีคนบางกลุ่มที่ต้องการมีหุ่นที่ดี ดูแลการทานอาหารมากเกินไป

จนกลายเป็นเข้มงวดกับตัวเอง ส่งผลอาจทำให้คุณกลายเป็น ?โรคคลั่งกินคลีน?

ไปโดยไม่รู้ตัว

ผู้มีอยู่ในภาวะOrthorexiaNervosa หรือ โรคคลั่งกินคลีน นั้น

จะมีอาการวิตกกังวลเรื่องอาหารการกินมากจนเกินเหตุ

เลือกทานแต่อาหารที่ตนเองมีความเข้าใจว่าดีต่อสุขภาพเพียงอย่างเดียว

และอาจมีอาการรังเกียจ หรือปฏิเสธอาหารปนเปื้อน ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

คอยระวังเรื่องปริมาณแคลอรี่ที่จะได้รับจากอาหารที่กินอยู่เสมอ

แต่สิ่งที่ผู้ที่มีอาการคลั่งกินคลีนลืมนึกถึงไปก็คืออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นลองมาเช็กความเสี่ยงกันหน่อยดีกว่าว่า

พฤติกรรมการทานอาหารของคุณในตอนนี้ เข้าค่ายการเป็นโรคคลั่งคลีนหรือเปล่า?

อาการของโรคคลั่งกินคลีน

1.หมกหมุ่นว่าอาหารต้องดีต่อสุขภาพเท่านั้น จึงจะกิน อาจเสียเวลาเพื่อเลือกอาหารที่จะกินนานนับชั่วโมง

2. ไม่รับและปฏิเสธอาหารที่ผลิตจากระบบอุตสาหกรรม

เพราะมีความเชื่อว่าเป็นอาหารที่ไม่มีคุณภาพ อาจมีสารปนเปื้อน

อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้

3. เคร่งครัด เอาจริงเอาจังกับปริมาณแคลอรี่ของแต่ละมื้ออาหารที่ได้รับ

4. รู้สึกดี และมีคุณค่าเมื่อตนเองได้ทานอาหารคลีน

5. หากพลาดไปทานอาหารที่ตนเองรู้สึกว่าไม่ดีต่อสุขภาพ จะระบายออกด้วยการออกกำลังอย่างหนัก รวมถึงเข้มงวดกับการกินคลีนมากขึ้น

6. ย้ำคิดย้ำทำ ล้างผัก ผลไม้

และเนื้อสัตว์จนกว่าจะมั่นใจว่าสะอาดถึงนำมาประกอบอาหาร

หรือตรจสอบหลายครั้งให้แน่ใจว่าอาหารที่จะทานนั้นสะอาดจริงๆ

7. รู้สึกผิดมาก หากทำตามกฎเกณฑ์ที่ตัวเองตั้งขึ้นไม่ได้

8. พยายามปกปิดพฤติกรรมการกินของตัวเอง ไม่ให้คนอื่นรู้

9. บางคนเป็นหนักถึงขั้นไม่ร่วมทานอาหารกับครอบครัว หรือคนรักเลย เพราะกลัวไม่คลีน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด

ดีต่อสุขภาพจะเป็นเรื่องที่ดี

แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงในเรื่องของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย

หากร่างกายขาดสารอาหารไป ก็ย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของเราแน่ๆ ดังนั้น

ไม่ว่าจะทำอะไรก็ควรจะตั้งอยู่ในความพอดี เพราะอะไรที่มันมากจนเกินไป

มันก็ไม่ได้เป็นผลดีเท่าไหร่นะ

ที่มา :www.healthandtrend.com และwww.ppat.or.th



บทความแนะนำ


ทศพรหมอช้างความสวยความงามหลอกตัวเองพี่น้องกันความสัมพันธ์ผู้หญิงฉีดโบท็อกซ์ทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก