"พาราเซตามอล" กินพร่ำเพรื่อ ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง

อ่าน 9,074

ใครๆ ก็มีติดบ้าน ติดกระเป๋าไว้กินประจำ

เพราะข้อดีของพาราเซตามอลคือแก้ปวดและไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร

แต่แท้จริงแล้วมีผลข้างเคียงที่อันตรายมากคือ การเกิดพิษต่อตับ

หากใช้เกินขนาดหรือใช้ติดต่อกันนานเกินไป

ถึงแม้ว่าจะเป็นยาที่มีความปลอดภัยในการใช้ก็ตามค่ะ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวด ลดไข้

เป็นยาที่คนไทยซื้อรับประทานเองมากที่สุด

พฤติกรรมการซื้อยาเองอย่างพร่ำเพรื่ออาจส่งผลไปสู่การรับประทานยาเกินขนาด

การดื้อยา และปัญหาสุขภาพจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

สอดคล้องกับรายงานของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่า

มูลค่าการบริโภคยาของคนไทยในปี 2553 ทั้งยาแผนปัจจุบัน และแผนโบราณ เฉลี่ย

128 ล้านเม็ดต่อวัน โดยอาการป่วยที่เป็นสาเหตุให้หาซื้อยาเองเพื่อรักษานั้น

ได้แก่ ปวดหัว ตัวร้อน และปวดเมื่อยตามร่างกาย คือพาราเซตามอลนั่นเอง

คำแนะนำสำหรับการใช้ยาคือ

สำหรับผู้ใหญ่ให้รับประทานครั้งละ 2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง

ห้ามรับประทานเกินกว่า 8 เม็ดต่อวัน และไม่ควรรับประทานติดต่อกันนาน 7 วัน

เพราะจะส่งผลอันตรายต่อตับ

และห้ามใช้กับสัตว์เพราะจะเกิดความเป็นพิษสูงโดยเฉพาะสุนัขและแมว

ภาวะตับเป็นพิษจากพาราเซตามอล เกิดจากตัวยาจะผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึม

และถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของสาร NAPQI

ซึ่งถ้ามีปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะออกซิเดชันสเตต

ซึ่งทำให้เซลล์ตับเสียหายได้

ถ้าตับนั้นไม่มีความสามารถที่จะกำจัดออกได้อย่างทันท่วงที

ภาวะนี้เกิดได้จากการรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันและได้รับยาเกินขนาด

ล่าสุดมีงานวิจัยหลายเรื่องที่ตีพิมพ์ถึงคุณสมบัติของ ?ทอรีน?

นอกจากจะช่วยบำรุงสายตาแล้ว ยังช่วยป้องกันความเป็นพิษของยาที่มีต่อตับ

ซึ่งทอรีนเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย

ควบคุมของเหลวในเซลล์, ควบคุมระดับการเข้าออกของแคลเซียมระหว่างเซลล์

และสามารถป้องกันความเป็นพิษและความผิดปกติที่เกิดกับอวัยวะต่างๆ

และรักษาความเป็นพิษของตับที่เกิดจากการรับประทานยาได้

แต่เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้งค่ะ



บทความแนะนำ


เซ็กส์ข่าวล่าสุดผู้หญิงความรักหินมงคลการศึกษาผู้ชายหินหน้าคนทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก