วิธี แก้ปัญหา 'หลุมสิว' ให้หน้าเนียนสวย ใสปิ๊ง

อ่าน 13,093

ถ้าพูดเรื่องความสวยความงาม รับรองว่าไม่มีปัญหาไหนจะน่าปวดหัวเท่ากับเรื่องสิว ซึ่งเป็นบ่อเกิดของจุดด่างดำและหลุมสิวอีกแล้วววววว เพราะคงไม่มีสาวๆ คนไหนอยากจะมีปัญหาทั้งจุดด่างดำและหลุมสิวเป็นแน่

โดยเฉพาะเจ้า หลุมสิว เนี่ยทำยังไงก็ไม่หาย อาจจะต้องถึงขั้นหาหมงหาหมอเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องพยายามแหละ ก็อยากหน้าเนียนสวยนี่นา แล้วจะมีวิธีไหนบ้างนะที่จะช่วยให้หลุมสิวเราดีขึ้นได้ ไปดูกันเล้ยยย

ก่อนอื่นเรามารู้กันก่อนว่าหลุมสิวเกิดจากอะไร

หลุมสิวเกิดจากการที่ผิวถูกทำลายจนถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดแผลเป็นบริเวณใต้ผิวหนัง จนกระทั่งกลายเป็นพังผืดดึงรั้งผิวบริเวณนั้นให้กลายเป็นหลุมลึกลงไป การรักษาหลุมสิวจึงเป็นไปได้ยาก เพราะผิวบริเวณนั้นไม่เนียนเรียบเสมอผิวบริเวณอื่นนั่นเอง

ประเภทของหลุมสิว

1. Rolling scar หลุมสิวแบบตื้นสุด ค่อนข้างจะรักษาง่าย เกิดจากการที่เมื่อเป็นสิวแล้วเราไปแกะเกาบริเวณที่เป็นนั่นเอง2. Box scar เป็นหลุมสิวที่ลึกลงมาหน่อย แต่ไม่ลึกถึงขนาดผิวชั้นหนังแท้3. Ice pick scar เป็นหลุมสิวแบบลึกถึงผิวชั้นหนังแท้ ทำให้รักษายากและทำให้ผิวไม่น่ามอง ต้องใช้วิธีพิเศษในการรักษานั่นเอง

ความจริงแล้ววิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว แต่หากว่าเกิดแล้วนั้นเราก็ต้องมาหาวิธีรักษา แต่บอกก่อนว่าการรักษาหลุมสิวนั้นต้องใช้เวลา และใช้เงินพอสมควร หากรายที่เป็นมากอาจจะต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนที่มากขึ้นด้วย

วิธีดูแลรักษาหลุมสิวแรกเริ่มนั้นเริ่มจากการดูแลผิวหน้าให้ถูกวิธี

ใช้ Cleanser ทุกครั้งก่อนล้างหน้าเพื่อล้างเครื่องสำอาง สิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนให้หมด จากนั้นจึงล้างหน้าด้วยโฟมที่เหมาะกับสภาพผิวหน้า ถ้าให้ดีควรเลือกโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ BHA หรือ AHA เพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น

ตัวอย่างโฟมล้างหน้า AHA

AHA และ BHA ผลัดเซลล์ผิวหน้า

ครีมบำรุงผิว เลือกที่มีส่วนผสมของเรตินเอ หรือใครจะใช้อนุพันธ์วิตามินเอทาผิวหน้าก่อนนอนก็ได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวหน้า จึงทำให้หลุมสิวชนิดไม่ลึกดูตื้นขึ้น

เพียงแต่ต้องระวังเรื่องความชุ่มชื้น และไม่ควรทาเรตินเอทุกวัน ควรจะทาวันเว้นวันจะดีกว่า ส่วนวันที่ไม่ได้ทาก็สามารถทามอยส์เจอไรเซอร์ได้ตามปกติ

แต่สำหรับหลุมสิวลึกๆ วิธีนี้อาจจะไม่ได้ผล แม้จะทำให้ผิวโดยรอบดูเนียนขึ้นก็ตาม แต่ส่วนที่เป็นหลุมลึกคงยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งส่วนที่เป็นหลุมลึกนั้น อาจจะต้องพึ่งพาการเลเซอร์ หรือวิธีการของแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีเลเซอร์หลายชนิดหลายแบบมากมายที่มีสรรพคุณในการดูแลรักษาเรื่องหลุมสิว

เรามาดูดีกว่าว่า เลเซอร์แบบไหน ช่วยเรื่องหลุมสิวได้อย่างไรบ้าง

1. การกรอผิวด้วยไม่โครคริสตัล

อาจจะยังไม่ถึงขั้นเลเซอร์ แต่เป็นการที่แพทย์ใช้ผงอัญมณีผลัดเซลล์ผิวหน้า วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่เป็นหลุมแบบไม่ลึกหรือเป็นหลุมระดับตื้นๆ ซึ่งเมื่อผลัดเซลล์ผิวแล้ว ร่างกายจะกระตุ้นให้ผิวหน้าสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น ซึ่งในการกรอผิวนั้นควรทำตั้งแต่สี่ครั้งขึ้นไปจึงจะเริ่มเห็นผล

2. การใช้กรด TCA

หรือชื่อเต็มคือ Trichloroacetic Acid เมื่อแต้มลงไปบริเวณหลุมสิวเฉพาะจุด ผิวบริเวณนั้นจะเกิดเป็นแผล และมีการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ผิวจึงค่อยๆตื้นขึ้น

แต่ไม่ใช่ว่าแต้มเพียงครั้งเดียวแล้วจะเห็นผลเลย การแต้ม TCA ควรทำโดยแพทย์เป็นประจำเท่านั้น ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกความเข้มข้นของกรดอย่างเหมาะสมเอง

3. Dermaroller

เป็นการใช้ลูกกลิ้งที่มีเข็มเล็กๆ กลิ้งไปบนผิวหน้า แต่ก่อนหน้าจะกลิ้งลูกกลิ้งไปบนผิวหน้านั้น ต้องโปะยาชาราวสี่สิบห้านาทีเสียก่อน หลังจากนั้นแพทย์จะกลิ้งเข็มไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะทนไม่ไหวประมาณสองสามรอบ เป็นอันเรียบร้อย โดยที่หลังทำนั้นผิวหน้าจะแดงอยู่ราวครึ่งชั่วโมง และหลังทำหนึ่งถึงสามวันผิวหน้าจะเริ่มตกสะเก็ดอาจจะเป็นสะเก็ดดำๆ อยู่ราวอาทิตย์นึง ก่อนสะเก็ดจะเริ่มตก และผิวจะดูใสสว่างขึ้น

ซึ่งการทำ Dermaroller ต้องทำราวสามครั้งขึ้นไป ซึ่งเหมาะสำหรับหลุมสิวทุกขนาด แต่จะได้ผลมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย แต่จะได้ผลดีกว่าการกรอผิวไมโครคริสตัล รวมถึงราคาสูงกว่าด้วย

ลูกกลิ้งแบบมีเข็มที่ปลาย

4. เลเซอร์แบบต่างๆ

ปัจจุบันมีเลเซอร์หลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณในการรักษาหลุมสิวขนาดลึก แต่ส่วนใหญ่จะใช้หลักการเดียวกัน คือการยิงเลเซอร์ลงไปทำให้ผิวหน้าเกิดแผลเป็นสะเก็ด และเมื่อตกสะเก็ดก็จะเผยให้เห็นผิวพรรณที่เรียบเนียนขึ้นด้วย เลเซอร์นั้นมีตั้งแต่

Fraxel เป็นการยิงแสงเข้าไปให้ผิวหน้าเกิดรูเล็กๆ มากมาย เกิดเป็นแผล เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวใหม่ขึ้นมา

Fractional CO2 เป็นการทำลายผิวหนังชั้นบน เพื่อให้ผิวหน้าเกิดขึ้นมาใหม่ ดูสดใสเรียบเนียนกว่าเดิม

IPL เป็นการใช้แสงเพื่อกระตุ้นให้ผิวหน้าเกิดการสร้างคอลลาเจน จึงดูอิ่มเอิบ เต่งตึงขึ้น

fine scan เป็นการยิงลำแสงเล็กๆ ไปกระตุ้นให้เกิดแผล และเกิดการสร้างผิวใหม่กับใบหน้านั่นเอง

ส่วนใหญ่แล้วเลเซอร์จะมีหลักการเดียวกันคือทำให้เกิดแผลที่ผิวหน้า เพียงแต่เทคโนโลยีที่แตกต่างอาจจะทำให้เกิดแผลในลักษณะที่ต่างกันนั่นเอง

ที่สำคัญคือหลังทำเลเซอร์ ควรดูแลผิวหน้าตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดด้วย

การทำเลเซอร์นั้น บางครั้งแพทย์จะทำร่วมกับการทำ Subcision ซึ่งเป็นการใช้เข็มเลาะพังผืดของผิวบริเวณที่เป็นหลุมออกไป เพื่อให้ร่างกายรักษาตัวเอง แต่หลังจากทำนั้นไม่ควรให้ผิวเจอแสงแดด เพราะอาจจะไหม้หมองคล้ำได้นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธีหากเราไม่อยากทำเลเซอร์ คือการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มผิวบริเวณที่เป็นหลุม ซึ่งจะอยู่ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง อาจจะราวหกเดือน และอาจจะต้องไปฉีดซ้ำ แต่ข้อดีคือหลังฉีดไม่มีแผล และใช้ชีวิตได้ตามปกตินั่นเอง

ถึงแม้ว่าปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องหลุมสิวมากมาย แต่สาวๆ อย่างเราก็อย่าลืมว่า การดูแลผิวหน้าไม่ให้เกิดสิวซึ่งเป็นต้นเหตุของหลุมสิวนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดและเสียเงินน้อยที่สุดด้วย พยายามรักษาความสะอาด และใช้ครีมบำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง รับรองผิวใสค่ะ ^^ วันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ บ๊ายบาย



บทความแนะนำ


ภาพยนตร์ลิฟท์หนีบข่าวล่าสุดศรีสมพงษ์จ.ส.ต.ยุทธพลจอนนี่มือปราบข่าวจีนตำรวจทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก