มาดู วิธีใช้ ไหมขัดฟัน ที่ถูกต้อง ทำอย่างไรไม่ให้เหงือกพัง!!

หลังทานอาหาร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะต้องมีเศษอาหารหลงเหลือติดอยู่ในช่องปาก

หรือตามซอกฟันอย่างแน่นอน หากปล่อยเศษอาหารทิ้งไว้ในช่องปากนานๆ

ก็จะเป็นสะสมแบคทีเรียในช่องปาก

แถมยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เรามีกลิ่นปากอีกด้วย

วิธีการเอาออกสิ่งเหล่านั้นออกก็คือ การบ้วน แปรงฟัน หรือการใช้ ไหมขัดฟัน

ซึ่งการบ้วนปากและการแปรงฟันนั้น

หลายคนคงรู้จักวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องอยู่แล้ว

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าใช้ไหมขัดฟันอย่างไร ไม่ให้สุขภาพฟันเสีย

วันนี้เราจะพามาหาคำตอบกันค่ะ

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)

แนะวิธีการแปรงฟัน โดยใช้สูตร 2:2:2 คือ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

ตอนเช้าและก่อนนอน ให้ทั่วทุกซี่ทุกด้าน นาน 2 นาที

ไม่รับประทานอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

แต่การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารที่อยู่บริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึงได้

จึงต้องใช้ ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดฟันเพิ่ม อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

หลังแปรงฟัน เพื่อลดการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของฟันผุ

และเหงือกอักเสบโดยเฉพาะบริเวณซอกฟันและด้านข้างของฟันที่อยู่ชิดกัน

สำหรับวิธีใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง คือ ดึงไหมขัดฟันออกมายาวประมาณ 12 นิ้ว หรือประมาณ 1 ไม้บรรทัด

พันปลายไหมไว้กับนิ้วกลางซ้ายและขวา โดยให้เหลือไหมยาวประมาณ 2 ถึง 4 นิ้ว

ระหว่างมือทั้งสองข้าง จับไหมขัดฟันให้แน่นด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้

แล้วค่อยๆ เลื่อนไหมขัดฟันไปมาเบาๆ ลงไประหว่างซี่ฟันจนถึงใต้ขอบเหงือก

หรือลงไปในร่องเหงือกเล็กน้อย โอบไหมขัดฟันตามส่วนโค้งของซี่ฟัน ค่อยๆ

ขยับไหมขัดฟัน ขึ้นลงไปทีละซี่ เมื่อเสร็จ 1 ซี่ ขยับไปใช้ไหม

ข้อควรระวังคือ ค่อยๆ เลื่อนไหมขัดฟันไปมาเบาๆ

เพื่อแทรกเข้าซอกฟัน ไม่ใช้วิธีกดไหมขัดฟันให้ผ่านเข้าซอกฟันโดยตรง

ไม่ใช้ไหมขัดฟันอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้เหงือกเลือดออกเป็นแผลได้

หรือหากไหมขัดฟันฉีกขาดเมื่อผ่านซอกฟัน อาจเกิดจากฟันผุด้านข้าง

ที่มาบทความจากwww.thaihealth.or.th