32 พฤติกรรมที่ทำลายผิวของคุณ

อ่าน 13,560

เราทุกคนล้วนรู้สึกผิดกับพฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้

1. สัมผัสคลอรีนมากเกินไป

การดูแลผิวหลังว่ายน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากคลอรีนจะเกาะติดผิวและทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้ภายนอก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือแม้กระทั่งโลชั่น ดังนั้นในการขจัดคลอรีนออกอย่างได้ผลคุณต้องถูสบู่ที่มีฟองมากๆหลังจากที่ว่ายน้ำเสร็จ

2. หลับพร้อมกับเครื่องสำอาง

การนอนหลับทั้งที่ยังแต่งหน้าอยู่อาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียและรูขุมขนอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว นอกจากนี้สารตกค้างบนหมอนก็สามารถทำให้คุณป่วยได้ด้วย ทางที่ดีควรวางทิชชู่เปียกไว้ข้างเตียงเพื่อย้ำเตือนว่าคุณต้องลบเครื่องสำอางที่เป็นอันตรายออกทุกครั้ง

3. ดื่มกาแฟ

คาเฟอีนคือสาเหตุหลักในการทำให้ผิวแห้งและริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น คุณควรดื่มน้ำมากๆเพื่อบำรุงผิวหรือจะใส่ผลไม้ เช่น ส้มหรือมะนาวลงไปด้วยก็ได้เพื่อเพิ่มรสชาติ

4. บีบสิว

พฤติกรรมแคะ แกะ เกาบนใบหน้าจะทำให้สิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนและทำให้เกิดสิวมากขึ้น

5. อดอาหาร

การอดอาหารอาจทำให้ผิวแก่เร็วและแห้งกร้านมากขึ้น ดังนั้นควรรับประทานวิตามินซี (ส้ม) วิตามินบี3 (ถั่ว) วิตามินอี (อะโวคาโด) และวิตามินเอ (มันเทศ) ให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพผิว

6. อาบน้ำร้อนนานๆ

การอาบน้ำร้อนนานๆครั้งอาจทำให้รู้สึกดีแต่ก็เป็นการทำลายผิวชั้นนอกทำให้ผิวแห้งและเป็นขุย ดังนั้นเมื่อคุณเริ่มรู้สึกแสบและคันผิวในระหว่างที่อาบน้ำก็ควรพอได้แล้ว

7. ทดสอบผลิตภัณฑ์มากเกินไป

ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนเสมอไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง โลชั่น และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพียงเทผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทดสอบลงบนแขนส่วนใดส่วนหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้บนใบหน้า

8. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ

การเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกายทุกวันจะช่วยต่อต้านริ้วรอยและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี ในทางกลับกันถ้าไม่ดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะทำให้ผิวแห้งเหี่ยวและหยาบกร้าน

9. คุยโทรศัพท์

การคุยโทรศัพท์นานหลายชั่วโมงอาจทำให้เกิดสิวและมีผื่นขึ้นตามแก้มและคาง ดังนั้นควรใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์ (และผิวของตัวเอง) อยู่เสมอ

10. พ่นน้ำยาจัดแต่งทรงผมโดนใบหน้า

คราวหน้าถ้าคุณใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผม ควรใช้ผ้าสะอาดปกปิดใบหน้าเพื่อปกป้องผิวของคุณ นอกจากนี้อย่าลืมใช้อุปกรณ์ซับเหงื่อขณะออกกำลังกายด้วยเพื่อไม่ให้สิ่งตกค้างจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมไหลหยดลงบนใบหน้าเมื่อเริ่มมีเหงื่อ

11. สวมแว่นตาสกปรก

อย่าลืมเช็ดแว่นตากันแดดให้สะอาดเช่นเดียวกับแว่นตาปกติ แบคทีเรียที่สะสมอยู่บนแว่นตาอาจเข้าไปในรูขุมขนรอบดั้งจมูกของคุณจนทำให้เกิดสิวและอาการระคายเคือง

12. ปฏิกิริยาโยโย่จากการอดอาหาร

เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นและลดลงบ่อยๆจะทำให้เส้นใยที่อยู่ในผิวหย่อนคล้อยจนเกิดเป็นผิวแตกลาย

13. นอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนหลับนาน 8 ชั่วโมงจะทำให้คุณดูสดชื่น มีพลัง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แต่ในทางกลับกันถ้านอนหลับไม่เพียงพอจะส่งผลให้ผิวหมองคล้ำและรูขุมขนอุดตัน

14. รับประทานโซเดียมมากเกินไป

โซเดียมส่วนเกินในอาหารจะดูดซับความชื้นออกจากผิว ทำให้ผิวแห้งกร้านและหมองคล้ำ ดังนั้นควรลดปริมาณอาหารที่มีรสเค็มและใช้ครีมมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบำรุงผิวหน้า

15. หรี่ตา

การสวมคอนแทคเลนส์เก่าและแว่นตาล้าสมัยจะทำให้คุณต้องหรี่ตามากขึ้นและในที่สุดก็กลายเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ทางที่ดีคุณควรไปพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง

16. แวกซ์ขนบ่อยเกินไป

การแวกซ์ขนมากเกินไปจะทำให้ผิวอักเสบและขรุขระ ควรให้เวลาฟื้นฟูผิวอย่างน้อยสามสัปดาห์โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบาง

17. สารเคมีในน้ำ

ความร้อนจากการอาบน้ำนานจะทำให้ผิวแห้ง นอกจากนี้สารบริสุทธิ์ที่ใช้ในการกรองน้ำประปาจะสะสมอยู่บนผิว ดังนั้นควรใช้ฝักบัวกรองน้ำแร่เพื่อต่อสู้กับผิวแห้งที่อาจเกิดจากคลอรีนและสารประกอบอื่นๆ

18. ละเลยริมฝีปากของตัวเอง

การปล่อยให้ริมฝีปากแตกแห้งเป็นขุยอยู่เสมอจะยิ่งทำให้ปากเหี่ยวเร็วขึ้น ดังนั้นควรมองหาลิปสติกและลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของเจลลี่บริสุทธิ์ ไดเมธิโคน และกลีเซอรีนที่จะช่วยสร้างความชุ่มชื้น

19. ปลอกหมอนสกปรก

ในช่วงกลางคืนผิวจะพักผ่อนและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปซึ่งเซลล์ผิวที่ตายแล้วเหล่านี้จะสะสมอยู่บนปลอกหมอน ดังนั้นเพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีคุณควรเปลี่ยนปลอกหมอนอย่างน้อยทุกๆสองสัปดาห์

20. ขัดผิวบ่อยเกินไป

การขัดผิวบ่อยเกินไปจะทำให้สูญเสียน้ำมันที่ช่วยรักษาความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติ ดังนั้นควรขัดผิวเพียงสัปดาห์ละครั้งเพื่อสุขภาพผิวที่ดี

21. ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

กล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องจากการแสดงสีหน้าจะทำให้เกิดริ้วรอย ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงการทำหน้านิ่วคิ้วขมวดซึ่งจะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นถาวร

22. ความเครียด

ความเครียดจะทำให้เกิดรอยด่างดำ ความหมองคล้ำ และผดผื่น ทางที่ดีคุณควรผ่อนคลายความเครียดโดยการทำกิจกรรมที่คุณชอบ เช่น โยคะ อ่านหนังสือ หรือทำอาหาร

23. รับประทานน้ำตาลมากเกินไป

การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปจะทำลายคอลลาเจนที่อยู่ในผิว ทำให้ผิวหย่อนคล้อย แต่คุณสามารถทดแทนความหวานได้โดยการรับประทานผลไม้อย่างสับปะรดหรือมะม่วง

24. ออกกำลังกายไม่เพียงพอ

การออกกำลังกายจะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและทำให้ใบหน้าของคุณดูเปล่งปลั่ง อีกทั้งช่วยขับสารพิษในร่างกายและสร้างเซลล์ใหม่ให้เจริญเติบโต

25. พลาสติกหุ้มเสื้อผ้าจากร้านซักแห้ง

เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองของผิวหนัง ควรเอาพลาสติกที่หุ้มเสื้อผ้าจากร้านซักแห้งออกทันทีเมื่อถึงบ้าน เนื่องจากถ้าปล่อยไว้นานๆจะทำให้สารเคมีที่ทำร้ายผิวถูกดูดซึมเข้าไป

26. มองข้ามแขนที่มักจะถูกแสงแดด

ทุกครั้งที่ขับรถจะมีแขนข้างใดข้างหนึ่งถูกแสงแดดมากกว่าปกติ (ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมในประเทศนั้นๆ) ดังนั้นควรทาครีมกันแดดบนแขนข้างดังกล่าวมากเป็นพิเศษและใช้กฎเดียวกันนี้กับผู้ที่นั่งข้างคนขับ

27. ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

ไวน์ เบียร์ และเหล้าจะทำให้ผิวแห้งกร้านและมีริ้วรอยเหี่ยวย่น

28. อยู่ในห้องซาวน่า

พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าห้องซาวน่าและห้องอบไอน้ำให้มากที่สุดเนื่องจากผิวของคุณอาจหย่อนคล้อยได้ (เพราะความร้อนจะทำลายความยืดหยุ่นและคอลลาเจนในผิว) ตลอดเวลา

29. อยู่ห้องแอร์มากเกินไป

คุณควรปิดแอร์บ้างเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น หากเปิดแอร์ตลอดเวลาคุณจะสูญเสียทั้งความชื้นในอากาศและความชุ่มชื้นของผิว

30. ควันบุหรี่

แม้ว่าคุณจะไม่สูบบุหรี่แต่การอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่จะทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย

31. แต่งหน้าจัด

การเว้นช่วงไม่แต่งหน้าจะทำให้ผิวของคุณได้หายใจบ้าง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันรูขุมขนอุดตันและการเกิดสิวรวมถึงริ้วรอยก่อนวัยด้วย

32. ถอนขนคิ้วบ่อยเกินไป

การถอนขนคิ้วบ่อยเกินไปอาจเป็นการทำลายผิวอย่างมหาศาล ดังนั้นคุณควรล้างแหนบด้วยสบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเสมอ จากนั้นวางผ้าขนหนูร้อนเพื่อเปิดรูขุมขนเมื่อถอนขนคิ้วเสร็จ และควรปลอบประโลมผิวด้วยโลชั่นว่านหางจระเข้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดขนคุด



บทความแนะนำ


ต่างประเทศดีเจต้นหอมที่ฉีดก้นมิคกี้เมาส์โปรโมชั่นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก