น้ำตาซึม! เด็กหญิงป.5 เขียนจม.ผู้ว่าฯช่วยด้วย เสาบ้านจะพัง

อ่าน 3,220

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านเลขที่ 110 หมู่ 11 ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายอำเภอเมืองพิษณุโลก และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมหาวนาราม เข้าช่วยเหลือ เด็กหญิงศิริพร สุทินเผือก (น้องนุ่น) อายุ 10 ปี เด็กชายสาโรจ มีจันโท (น้องโอม) อายุ 8 ปี เด็กชายนพเก้า มีจันโท (น้องเก้า) อายุ 4 ปี รวม 3คน พี่น้อง หลังจากได้รับ เรียงความจากน้องนุ่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก

โดยน้องนุ่นได้อ่านเรียงความให้ผู้สื่อข่าวฟังมีใจความว่า หนูชื่อเด็กหญิงศิริพร สุทินเผือก นักเรียนโรงเรียนมหาวนาราม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่กับพี่น้องร่วมมารดา 3 คน ครอบครัวมีฐานะยากจนมากมีความลำบากในการดำรงชีวิต พ่อเป็นลูกจ้างร้านล้างแอร์ต้องไปทำงานต่างจังหวัดบางครั้งก็มีงาน บางครั้งก็ไม่มีงาน แม่มีอาชีพรับจ้างล้างจานได้วันละ 250 บาท ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน้ำน่านประตูมอญ ไปทำงานแต่เช้ากลับเย็นไม่มีคนดูแลหนู แม่เลยต้องปิดบ้านไว้เพราะกลัวหนูกับน้องๆตกบ้าน

แล้วบ้านหนูก็ไม่แข็งแรง ไม่ปลอดภัยด้วย ถ้าลมฝนมาแรงๆ หนู กลัวมากหลังคาปลิวหาย และฝนที่ตกจะเข้ามาเปียก แล้วก็กลัวบ้านจะล้มเพราะ บ้านหนูเป็นบ้านเก่ามาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ พื้นที่ดินก็ต่ำ ฝนตกมามากๆน้ำก็ท่วม เสาบ้านก็ผุ พังต้องเอาไม้ค้ำยันไว้ไม่ให้ล้มลงมา และหนูก็พยายามช่วยกันอยู่อย่างประหยัดและพอเพียงเพื่อให้พอกับรายได้ที่รับมา

ถึงแม้ครอบครัวหนูจะยากจนแต่หนูก็ไม่เคยลักเล็กขโมยน้อยของใคร เก็บเงินได้ก็ส่งให้คุณครูประกาศหาเจ้าของทุกครั้งแม้ครอบครัวหนูไม่มีเงินแต่หนูจะทำความดีต่อไปหนูอยากให้ท่านผู้ว่าฯมาช่วยซ่อมบ้านมุงหลังคาบ้านให้ปลอดภัยและแข็งแรง

เบื้องต้น นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งการให้เทศบาลตำบลหัวรอดำเนินการ ตรวจสอบและออกแบบบ้าน พร้อมด้วย นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมมอบ เงินสงเคราะห์กรณีฉุกเฉินและถุงยังชีพ พร้อมทั้งประสานงานกับธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อให้ความช่วยเหลือ

นายสุวรรณ เพ็ชรบัว ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมหาวนาราม เปิดเผยว่า น้องนุ่นเป็นเด็กดี มีอนาคต ตั้งใจเรียน ที่ผ่านมาทำความดีเก็บกระเป๋าเงินที่มีคนทำตกส่งคุณครูตามหาเจ้าของหลายครั้ง ในส่วนของคุณครูรู้สึกดีใจที่ครอบครัวของน้องนุ่นได้รับความช่วยเหลือ

เช่นเดียวกับน้องนุ่น ที่บอกกับผู้สื่อข่าว ว่า ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของหนู เพราะที่ผ่านมาหลังจากเลิกเรียน ตนเองและน้องอีก 2 คน จะกลับมาอยู่บ้านเพื่อรอแม่กลับจากเลิกทำงาน ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าสักวันหนึ่งบ้านจะพังลงมาเพราะเสาบ้านแต่ละต้นเริ่มผุพังและเอียง จนต้องนำเอาเสามาค้ำยันไว้หลายต้นแล้ว จึงตัดสินใจเขียนเรียงความถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพราะกลัวว่าขณะที่อยู่บนบ้านบ้านจะพังลงมา

ด้าน นางสาวกรองแก้ว สุทินเผือก อายุ 33 ปี แม่ของน้องนุ่น เปิดเผยว่า ทุกครั้งในช่วงนี้มีฝนตกหนักลมพัดแรง ฝนจะสาดเข้ามาในบ้าน หลังคาสังกะสีจะเปิดและบ้านที่มีเสาไม่แข็งแรงก็จะสั่น สร้างความหวาดกลัวให้กับลูกๆ เป็นอย่างมาก บางครั้งหากอยู่ด้วยก็จะพากันไปอยู่บ้านข้างๆ รอจนกว่าฝนจะหยุดตก

ด้าน นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งการให้ เทศบาลตำบลหัวรอ สำรวจและออกแบบเพื่อเตรียมการช่วยเหลือครอบครัวของน้องนุ่น เป็นการเร่งด่วน

เนื่องจากบ้านมีสภาพไม่ปลอดภัย และอาจเป็นอันตรายต่อเด็กๆ ได้ขณะนี้อยู่ระหว่างการระดมทุนเพื่อหางบประมาณ และติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาช่างมาช่วยเหลือสร้างบ้านที่แข็งแรงให้กับครอบครัวนี้



บทความแนะนำ


โปรโมชั่นความสวยความงามบรอนเซอร์VOLCOMBIGSALEระยะทางความห่างรักแท้ผู้หญิงทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก