โศกนาฏกรรม!...ชิงสวาทรักสามเศร้า ของหญิง 3 คน

อ่าน 6,969

จากภาพด้านซ้ายคือ

ภาพการเล่นเพื่อน(สัมพันธ์รักเชิงชู้สาวระหว่างผู้หญิงด้วยกัน)ที่ฝาผนังวัด

คงคาราม จ.ราชบุรี อายุกว่า 200 ปี

สื่อให้รู้ว่าการเล่นเพื่อนนี้มีมาแต่สมัยโบราณแล้ว

จากภาพด้านบนคือ ตำหนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี สถานที่ที่เจ้ายวงแก้วกระโดดลงมา

จากภาพด้านล่างคือ

ข้าหลวงนางในจากราชวงศ์ฝ่ายเหนือที่ตามเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมีมาอยู่

ในพระบรมหาราชวัง (วงกลมสีแดงคือ เจ้าหญิงยวงแก้ว สิโรรส)

ปี

พ.ศ. 2449 ภายในพระบรมหาราชวัง ในสมัยนั้นผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

หากจะยลโฉมหญิงงามจากเมืองเหนือแล้วไซร้

ให้ไปที่ตำหนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

ผู้เป็นพระมเหสีในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5

ตำหนักหลังนี้นอกจากจะเป็นที่ประทับของพระราชชายาเจ้าฯแล้ว

ยังเป็นที่อยู่ของเหล่าข้าหลวงนางในที่ล้วนแต่เป็นพระญาติ

และเป็นเจ้าหญิงจากพระราชวงศ์ฝ่ายเหนือทั้งสิ้น

จึงทำให้ตำหนักหลังนี้อบอวลไปด้วยขนบธรรมเนียมและราชประเพณีล้านนา เช่น

ทุกคนจะแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสตรีชั้นสูงในคุ้มเจ้าหลวง

เกล้าอวยมวยผมอย่างสาวชาวเหนือ มีดนตรีขับร้องและฟ้อนรำเป็นเอกลักษณ์

อาหารการกินและภาษาเป็นคำเมือง

ความงามของข้าหลวงนางในตำหนักนี้ขจรขจายไปทั่วในราชสำนัก แต่ที่งามสวยรวยเสน่ห์จนลือชื่อนั้นเห็นจะเป็นเจ้าหญิงองค์หนึ่ง นามว่า ?ยวงแก้ว สิโรรส" เจ้าหญิงเมืองเหนือองค์นี้มีอุปนิสัยใจคอเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวและห้าวหาญ มิค่อยจะเกรงผู้ใดนัก ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เจ้าหญิงยวงแก้วมีคู่รักเป็นผู้หญิง นามว่า ?หม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ? หญิงสาวราชนิกุลผู้นี้เป็นข้าหลวงอยู่ตำหนักของเจ้านายพระองค์หนึ่งในละแวกเดียวกัน แต่หารู้ไหมว่าหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพผู้นี้ก็มีแฟนสาวอยู่ก่อนแล้วคนหนึ่ง ชื่อว่า นางสาวหุ่น เมื่อความเป็นเช่นนี้แล้วจึงเกิดศึกชิงรักหักสามเศร้า

ระหว่างนางสาวหุ่นกับเจ้าหญิงยวงแก้ว ต่างคนต่างชิงดีชิงเด่น

ชิงไหวชิงพริบหวังจะเอาชนะกัน เหตุการณ์เป็นเช่นนี้อยู่พักหนึ่ง

ไม่นานนางสาวหุ่นจึงปล่อยข่าวเป็นเชิงใส่ไฟเจ้าหญิงยวงแก้ว

ประมาณว่าเจ้าหญิงยวงแก้วนี้หลงใหลใคร่เสน่ห์ในตัวหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ

มากมายถึงขนาดเอาทรัพย์สินมีค่าที่พระราชชายาเจ้าฯประทานให้ไปปรนเปรอหม่อม

ราชวงศ์หญิงวงศ์เทพเสียหมดสิ้น

จน

ในที่สุดเรื่องใส่ไฟนี้ก็แดงขึ้น รู้กันไปถึงไหนๆ

สุดท้ายก็ไปถึงหูพระราชชายาเจ้าฯ

พระองค์ก็ทรงกริ้วเจ้าหญิงยวงแก้วอย่างรุนแรงถึงกับเอ่ยปากให้เอาของประทาน

มาคืนพระองค์ให้หมด

และคาดโทษไว้ว่าจะส่งตัวกลับนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ให้เร็วที่สุด

ไม่

มีใครทราบความรู้สึกของเจ้าหญิงยวงแก้วได้ดีเท่ากับตัวของท่านเองอีกแล้ว

แต่ที่รับรู้ได้ชัดเจนทั่วพระบรมหาราชวังคือ

มันได้สร้างความอับอายให้เจ้าหญิงยวงแก้วเป็นอย่างมาก อายต่อเพื่อนๆข้าหลวง

อายต่อผู้คนและคุณพนักงานในวัง จนไม่กล้าที่จะออกไปไหนมาไหน

ปัญหาต่างๆสั่งสมมากขึ้นจนกลายเป็นความเครียด กลุ้มอก กลุ้มใจ ทุกข์ระทม

อมระทวย 3วันต่อมาในคืนนั้นเองเจ้าหญิงยวงแก้วได้นอนปรับทุกข์กับ

เจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่ เพื่อนร่วมตำหนักถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

เจ้าหญิงยวงแก้วพร่ำรำพันถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นว่าแทนที่ทุกคนจะเห็นใจแต่

กลับเยาะเย้ยเหยียดหยามซ้ำเติม

เจ้าหญิงบัวชุมก็ได้แต่ปลอบใจให้คลายโศกเศร้าลง

แต่แล้วในคืนนั้นเองหลังจากเจ้าหญิงบัวชุมนอนหลับสนิทนั้น...

***...

เจ้าหญิงยวงแก้ว จึงตัดสินใจแอบเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตำหนัก

แล้วกระโดดลงมาจนถึงแก่ความตายโดยไร้คำสั่งเสีย ด้วยวัยเพียง...19ปี

ปิดฉากตำนานรักสามเศร้านี้อย่างค้างคาใจหลายคน

เพราะไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าหญิงยวงแก้วจะเด็ดเดี่ยวถึงเพียงนี้



บทความแนะนำ


ที่เที่ยวเที่ยวในประเทศaddmission58การแต่งตัวความสวยความงามรีสอร์ทพูลศิลาวดีสปาคะแนนสอบแอดมิชชั่นผู้หญิงแอดมิชชั่น58ทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก