ดึงสติกลับมาด่วนๆ! 5 วิธีลืมอาการอกหักรักคุด

สาวๆ วัยรุ่นทุกคนคงต้องเคยผ่านประสบการณ์ด้านความรักกันมาแล้วทั้งนั้น! แอบชอบรุ่นพี่ เพื่อน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวังเหมือนนางเอกในนิยาย เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบรับความรักที่เธอมีให้ ปฏิเสธกันอย่างไร้เยื่อใย จากโลกสีชมพูก็พังทลาย กลายเป็นสีเทาหม่น สมองเบลอไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป รู้ตัวอีกทีน้ำตาก็ไหลจนไม่สามารถกลั้นไว้ได้อีกต่อไปแล้ว... ใช่ เธอกำลัง " อกหัก " นั่นเองค่ะ

ช้าก่อน อย่าเพิ่งหมดหวังจนไร้เรี่ยวแรง ชีวิตยังมีอะไรอีกเยอะ! แทนที่่จะสนใจแต่เรื่องความรักช้ำๆ และเฝ้าคิดถึงแต่เขาเท่านั้น อย่าอยู่คนเดียว หาโอกาสระบายความทุกข์ให้เพื่อนฟัง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ บ้างวันนี้เรามีบทความ " 5 วิธี กอบกู้ความรู้สึกหลังอกหัก " จากคำแนะนำของผู้ให้่คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยา เพื่อก้าวผ่านสภาวะ ' อกหักรักคุด ' ไปได้โดยบอบช้ำให้น้อยที่สุด ถ้าเธอกำลังจะไปเดินตากฝนเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ อ่านบทความนี้เพื่อดึงสติกลับมาด่วนๆ!1. อย่าเอาแต่โทษตัวเอง มองโลกในแง่ดีเข้าไว้!

เราไม่แนะนำให้เธอมองโลกแบบเพ้อฝัน มโนแจ่มหรือที่เรียกว่า " โลกสวย " หรอกนะ เพราะความจริงที่เกิดขึ้นคือ ไม่ว่าเธอจะคิดหรือหวังขนาดไหน ความรักที่เธอมีให้เขาคนนั้นก็ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้อีก ไม่ว่าจะถูกทิ้งหรือเป็นความรักข้างเดียวตั้งแต่แรกก็ตาม ความรักเป็นเรื่องละเอียด ซับซ้อน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมั่นใจคือ " ความรู้สึกแรก " มักเป็นความจริง ถ้าเขาชอบเธอ เห็นเธอเป็นคนที่ใช่ เขาจะตามจีบเธอเองตั้งแต่แรก ไม่ปล่อยให้เธอวิ่งตามจนเหนื่อย และจบลงด้วยความทุกข์หรอกแต่ช้าก่อน เราก็ไม่ได้บอกให้เธอหมดหวังเช่นกัน มองโลกในแง่ดีเข้าไว้! ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวบนโลกนี้เสียหน่อย แม้เธอจะพลาดหวังจากคนนี้ เธออาจจะเจอรักที่ดีกว่าในอนาคตก็ได้ จงจำไว้ว่า ถ้าเราทำดีที่สุดแล้วเขาไม่เห็นค่า ก็ต้องถึงเวลาที่จะปล่อยโซ่ที่ล่ามตัวเองไว้ให้เป็นอิสระ แล้วคิดเสียว่า " เขาและเราไม่ได้เกิดมาคู่กัน ก็เท่านั้นเอง "เชื่อมั่นและภูมิใจในตัวเอง มองโลกในแง่ดี เข้มแข็งและยิ้มเข้าไว้ไม่ว่าสถานการณ์ใดจะเกิดขึ้น เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด นี่คือยารักษาแผลใจที่ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ ^^2. เขียนระบายความรู้สึกทั้งหมดลงในกระดาษ

อย่างที่รู้กันว่า มนุษย์ผู้หญิงเป็นเพศที่ฟุ้งซ่าน! อะไรนิดอะไรหน่อยก็เก็บมาคิดให้รกสมอง กรณีเบาหน่อยก็ไปถามเพื่อนรัวๆ ให้เพื่อนรำคาญเล่น แต่หากเป็นสาวโลกส่วนตัวสูง เก็บตัว เธออาจเลือกที่จะไม่ระบายกับใคร แต่มานั่งคิดเงียบๆ คนเดียว เมื่อหาทางออกไม่ได้ก็อาจทำเรื่องน่าตกใจอย่างการกรีดข้อมือ หรือทำร้ายตัวเองอย่างที่เห็นเป็นคดีตัวอย่างในหนังสือพิมพ์ T Tหากอยากระบายความอัดอั้นตันใจที่มีอยู่ หาสมุดสักเล่ม เขียนทุกๆ ความรู้สึกลงไปเลยค่ะ เราแนะนำให้เธอเขียนให้กระดาษแทน เพราะการพิมพ์แล้วเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดีย อาจจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ ตัวหนังสือที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์มันไม่ได้อารมณ์เท่ากับการเขียนตัวอักษร ออกแรงลงไปบนกระดาษหรอก ข้อดีอีกอย่างคือ เธอจะหยาบคายแค่ไหนก็ได้ เพราะนั่นมันคือสมุดของเธอถ้าเธอเขียนแล้วเกิดฟีลลิ่ง " ดราม่า " อยากร้องไห้น้ำตาแตก ก็ปล่อยโฮไปเลยไม่ต้องกลั้นไว้ สะอึกสะอื้นให้พอ ยิ่งร้องเสียงดังยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น เมื่อร้องไห้จนหมดพลังงานแล้วหิว เธอจะหิวและง่วงขึ้นมาตงิดๆ กินอาหารรสอร่อยและเข้านอนบนเตียงนุ่มๆ ตื่นขึ้นมาเธอจะพบว่าเช้าวันใหม่สดใสขึ้นกว่าที่เคยเป็นค่ะ3. นอนหลับพักผ่อนให้สบายใจ

การรักษาแผลใจที่ได้ผล แต่อาจฟังดูแปลกสำหรับสาวๆ คือ " ไปเข้านอนซะ! " การนอนหลับสนิทอย่างเต็มที่บนเตียงอันแสนอ่อนนุ่มนี่แหละช่วยได้ ร่างกายของเราจะมีระบบช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและทางใจในขณะที่เราหลับค่ะนอกจากการนอนหลับทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังทำให้จิตใจสงบ เธอจะรู้สึกว่าตัวเองมีสติมากขึ้น จัดการเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้ ก้าวเดินต่อไปโดยไม่ต้องลังเลหรือเผชิญกับคำว่า " สมองเบลอ " อีกต่อไป ลองนึกถึงตอนที่เธออดนอนสิ คิดอะไรก็ไม่ออก โรคซึมเศร้าก็ถามหา หงุดหงิดง่ายไปอีกถ้าเธอเป็นคนมีดนตรีในหัวใจ ไม่คุ้นกับการนอนหลับในห้องเงียบๆ จะเปิดวิทยุ เปิดคอมพิวเตอร์ เปิดมือถือแล้วฟังเพลงคลอไปด้วยก็ได้ จะใส่หูฟังหรือเปิดคลอในห้องก็แล้วแต่สะดวก สร้างบรรยากาศสบายๆ ให้ถึงขีดสุดด้วยการจุดเทียนหอมให้ส่งกลิ่นก่อนเข้านอน ( ดับเทียนก่อนหลับล่ะ เดี๋ยวไฟไหม้ขึ้นมาไม่รู้ด้วย 0_0 )หาหมอนนุ่มๆ มากอด เธอจะรู้สึกว่ามีสิ่งให้ยึดเหนี่ยวอยู่ข้างกาย หรือถ้าไม่มี ก็กอดตัวเองแน่นๆ ค่ะ ยังไงเธอก็ยังมีตัวเองอยู่นะ!

4. หากิจกรรมที่ทำให้ตัวเองมีความสุข มีรอยยิ้ม หัวเราะดังๆ

อย่าเอาแต่จมปลักอยู่กับความทุกข์ ยิ่งทำให้จิตใจมืดหม่นและไม่มีเรี่ยวแรงในการใช้ชีวิตไปเสียเปล่าๆ! จงหากิจกรรมที่ชอบ ทำให้ตัวเองร่าเริง หัวเราะและยิ้มได้ เมื่อมนุษย์มีความสุข ฮอร์โมนเอ็นดรอฟินในสมองจะหลั่งออกมา และยิ้มเพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อแก้มโดยอัตโนมัติด้วยล่ะ

เพราะนี่คือปฏิกิริยาตอบสนองโดยอัตโนมัติ บังคับตัวเองให้ยิ้มเมื่อเกิดอารมณ์เศร้า ดราม่า สมองจะถูกหลอกว่า " เรากำลังมีความสุขอยู่เหรอ " แล้วสารความสุขจะหลั่งออกมาโดยทันที เธอจะรู้สึกว่าความเศร้าค่อยๆ หายไปเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ

การบังคับตัวเองให้ยิ้ม สามารถใช้กับการร้องไห้ก็ได้! เมื่อเธอเจอเหตุการณ์ที่ทำให้น้ำตาต้องไหลอย่างห้ามไม่อยู่ อกหักรัวๆ เพราะเขาไม่เคยสนใจทั้งที่ตามตื๊อมาเป็นปี เป็นต้น จงยิ้มเข้าไว้ ยิ้มแม้น้ำตากลบตานั่นแหละ ส่องกระจกดูใบหน้าตัวเองว่าน่าขำแค่ไหน บางทีเธออาจจะหัวเราะพรืดออกมาเองเลยก็ได้ เมื่อเห็นทั้งน้ำมูก น้ำหูน้ำตายิ่งกว่าตัวตลกในสวนสนุกอย่างนั้น!

เลิกร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นค่าของเราเถอะค่ะ ปาดน้ำตาทิ้งแล้วลุกขึ้นเชิดใหม่อีกครั้ง เวลาจะช่วยรักษาความเจ็บช้ำได้ เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ย้อนกลับมามองอดีตเธออาจเบ้ปากแล้วคิดว่า " ฉันเคยร้องไห้เพราะผู้ชายบ๊องๆ แบบนี้ด้วยเหรอ " ก็ได้นะคะ5. ถ้าอยากร้องไห้ ให้ร้องเพลงแทน!

เธอเคยดูภาพยนตร์โรแมนติกบางเรืองที่นางเอก " ร้องเพลงทั้งน้ำตา " บ้างไหม! แม้ในหัวใจจะปวดร้าวเพราะความรักที่ไม่สมหวัง ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องสนุกในชีวิตทั้งหมดจะหายไปเสียหน่อย! มนุษย์มีสัญชาตญาณที่ต้องการความบันเทิง เติมความร่าเริงสดใสให้ชีวิตอยู่เสมอ

อารมณ์นี้คล้ายกับเป็นโรคติดต่อ เธอจะสังเกตว่าถ้าอยู่ในคนกลุ่มใหญ่ๆ ที่กำลังหัวเราะกันอยู่ แม้เธอจะไม่รู้วาขำเรื่องอะไร แต่เธอจะเริ่มยิ้มและหัวเราะตามโดยอัตโนมัติ จริงไหมล่ะคะ ^^

เมื่อเธออยู่ในอารมณ์เศร้าสุดขีด แต่ก็ยังอยากเผื่อแผ่ความบันเทิงให้คนรอบข้าง ลองร้องเพลงให้ดังสุดเสียงในขณะที่ร้องไห้น้ำตานองสิ! อาจจะรู้สึกตลกตัวเองไปบ้าง แต่ในที่สุดจะชิน เมื่อร้องจนจบเพลงเธออาจจะแปลกใจว่า " อ้าว! เลิกเศร้าตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะนี่ " ก็เป็นไปได้

ไม่จำเป็นต้องเสียงดี ขึ้นโน้ตสูง ลงโน้ตต่ำให้เหมือนนักร้องอาชีพแต่อย่างใด แค่ร้องเพลงที่อยากร้องไปตามอารมณ์ อย่าเก็บไว้ให้กดดันตัวเอง รับรองว่าเมื่อร้องเสร็จจะรู้สึกโล่งสุดๆ เลยล่ะค่ะ

==============================

มนุษย์หลายล้านคนบนโลกนี้ ทุกคนควรมี " ความสุข " กับชีวิต ไม่ควรมาจมปลักกับอดีตที่บอบช้ำและเลวร้าย แม้จะต้องใช้ชีวิตเป็นคนโสดไปตลอดก็ตามที เธอไม่ควรนั่งร้องไห้กับผู้ชายคนเดิมๆ ที่ทิ้งเธอไปมีคนใหม่จนเหลือแต่อาการ " อกหัก " ให้ช้ำใจรัวๆ

อย่าคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคร้าย เป็นเหยื่อที่น่าสงสารที่สุดในโลกใบนี้ ลองหันไปมองรอบๆ ตัว เธอจะพบว่ามีคนตกอยู่ในสถานะเดียวกับเธอมากมาย ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวังในความรัก แต่งงานและลงเอยอย่างมีความสุขหรอกนะ! เรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวให้เป็น เธอก็จะรู้สึกมีคุณค่า ดีพอ และ " พอดี " โดยไม่ต้องโหยหาความรักฉันหนุ่มสาวเลยค่ะ

มีความสุขเข้าไว้! เป็นตัวของตัวเองและไม่ต้องคาดหวังอะไร บางทีรักดีๆ ที่ไม่คาดฝันอาจมาตามหาเธอถึงที่เลยก็ได้นะ ^______^==============================