สัญญาณบอกว่าคุณ " รักเขาข้างเดียว "

อ่าน 14,429

ความสัมพันธ์นี่ก็เป็นเรื่องที่พูดยากกันจริงๆ นะ จะชอบใครสักคนหนึ่งเนี่ย เขาจะชอบเราบ้างรึเปล่านะ แค่คิดแบบนี้ก็คิดว่ายากแล้ว พอได้เริ่มสนิทกันมากขึ้น คบกันแล้วก็ต้องมีเรื่องให้คิดมาก รู้สึกเหนื่อยกันขึ้นไปอีก ว่าที่เรากับเขาเป็นกันอยู่เนี่ยคืออะไร เราอ่ะรักเขาจริงๆ แต่เขาเนี่ยจะคิดอะไรกับเราบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ที่รู้สึกอึดอัด เหมือนต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเองตลอดเนี่ย...เรากำลังรักเขาข้างเดียวอยู่รึเปล่านะ ?!

1. คุณเป็นฝ่ายได้รับหน้าที่ให้วางแพลนทุกอย่างถึงแม้ว่าในความสัมพันธ์จริงๆ แล้วเนีย ก็มีคุณกับเขาสองคนอยู่ในนั้น แต่ว่าคุณกลับรู้สึกได้ลึกๆ ว่า ทำไมเหมือนจะมีแค่คุณที่ต้องเป็นฝ่ายที่จัดหาอะไรตลอดเวลา มีแต่คุณฝ่ายเดียวที่กระตือรือร้นที่จะทำอะไรสักอย่างให้ความสัมพันธ์กระชับมากขึ้น เป็นคุณตลอดที่คิดว่าเดทนี้จะไปไหนดี ทำอะไรดี จะจัดตารางเจอกันยังไงดี แถมเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หากคุณจะตัดสินใจยังไง เลือกอย่างที่คุณชอบ จัดการวางแผนอย่างที่คุณต้องการได้ตามใจเลย

2. คุณเป็นที่พึ่งให้เขาได้เสมอ แต่เขาไม่ใช่คุณมีเวลาให้กับเขาเสมอ เวลาที่เขาต้องการคุณเขาก็จะเจอคุณในเวลาที่เขาต้องการได้เสมอ และคุณก็พร้อมเป็นที่พึ่งให้ตลอดเวลา แต่เวลาทีคุณต้องการเขา กลับไม่เห็นแม้แต่เงา ( หลอกกันชัดๆ )

3. คุณอึดอัดที่จะเปิดใจกับเขาคนเราเวลาคบกัน มันจะต้องมีความรู้สึกไว้ใจ สบายใจเมื่อได้อยู่ด้วยกัน สนิทใจที่จะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องที่ตัวเองไม่สบายใจ หรือความลับอะไรที่อยากบอกกับใครสักคน เพื่อที่จะได้รู้สึกได้รับการปลดปล่อย และรู้สึกว่าตัวเองมีที่พึ่ง ได้รับการปกป้องจากใครสักคนอยู่เสมอ แต่หากความสัมพันธ์ของคุณ ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกวางใจที่จะบอกเขาได้ทุกเรือง หรืออยากบอกก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะอยากฟังมั้ย บอกได้มั้ย เอาง่ายๆ คือ ไม่สามารถมั่นใจกับเขาได้เลย รู้สึกเหมือนคนไม่สนิทอะไรยังงั้น มันก็แปลว่าเขายังให้ความสำคัญกับคุณไม่พอ ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ไม่ใช่แล้วล่ะ

4. เขาอยากทำอย่างอื่นมากกว่า ที่จะใช้เวลาร่วมกับคุณมันก็เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่า ถึงแม้จะคบกันอยู่ แต่ก็คงไม่สามารถไปทำตัวติดกันได้ตลอดเวลาหรอกใช่มั้ยล่ะ แต่คนที่คบกันอยู่จริงๆ รักกันจริงๆ เนี่ย ยังไงก็ต้องหาเวลาที่จะได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้เจอกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวจริง หรือออนไลน์ก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆ ก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน มันเป็นไปตามธรรมชาติอยู่แล้ว ที่จะอยากใกล้ชิด หรือกระชับความสัมพันธ์กับคนที่เรารัก และหากว่าเขาเลือกที่จะไปทำอย่างอื่น และคิดว่ามีสิ่งอื่นที่น่าสนใจมากกว่าได้ใช้เวลาร่วมกับคุณล่ะก็ คงจะมีบางอย่างแปลกๆ แล้วแหละ

5. คุณต้องเป็นฝ่ายขอโทษก่อนตลอด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามทุกคนก็ต้องมีวันที่แย่ๆ มีเรื่องไม่ดีให้หนักใจ ให้อารมณ์เสียกันเป็นครั้งเป็นคราวอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ และบางทีเราอาจจะแสดงออกให้คนรักเห็นแบบไม่ตัว ก็ไม่แปลกเท่าไหร่หากเป็นคนที่รักกันเขาคงปล่อยให้คุณได้แสดงความรู้สึกลึกๆ ออกมาบ้าง และจะปลอบใจ หรือจะปรามกันดีๆ ยังไงก็ว่ากันอีกที แต่ถ้าหากไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกแย่ แต่ไม่ได้รับอนุญาติให้รู้สึกโกรธ งอน เหวี่ยงเป็นครั้งคราว กับเขาได้ล่ะก็ ไม่ต้องบอกเลยว่าคุณจะรู้สึกแย่ขนาดไหน หากเผลอไปทำใส่เขาล่ะก็ คุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด และยอมขอโทษเองดีกว่าแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าคนรักกันเขาไม่ปล่อยให้คุณคิดแบบนี้หรอกนะ

6. แค่อยากขอให้เขาคุยกับคุณ ก็เป็นเรื่องที่ยากเกินไปแล้วมันก็ใช่ว่าเราจะไปตามจิก ตามคุยกับเขาตลอดทั้งวันหรอกนะ แต่ในทุกๆ วันที่เรามีกิจกรรมส่วนตัวต้องทำ ไม่ว่าจะเป็น เรียน ทำงาน ทำธุระ คุณก็สามารถหาเวลาว่างสักนิดนึง เพื่อมาคุยกับเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นการแชท หรือโทรไปคุยกันสั้นๆ คุณก็ทำได้ นั่นเป็นเพราะว่าคุณอยากคุยกับเขาไง แต่ในทางกลับกัน แค่จะอ่านแชทของเรา ตอบแชทเรา หรือโทรกลับมาบ้าง ก็ดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาเหลือเกิน ไม่อ่าน ไม่ตอบ ไม่แบ่งเวลาอันน้อยนิดมาให้เลย แบบนี้จะให้คิดยังไงได้นอกจากว่าเขาไม่ได้อยากคุยกับเราบ้างเลยอ่ะ

7. แค่อยากจะชวนเขาไปเที่ยว ก็ยังต้องคิดเป็นล้านรอบ!มีหนังเรื่องหนึ่งที่คุณอยากดูมากๆ เลย หรือคอนเสิร์ตที่คุณชวนเพื่อนไปด้วยกัน แต่เพื่อนไปไม่ได้ แต่ในฐานะคนที่ไม่โสดแล้วเนี่ย คุณก็ยังมีใครบางคนที่คุณสามารถชวนได้เสมอ เป็นตัวเลือกที่ยังไงก็ปลอดภัยสำหรับคุณ เวลาที่คนอื่นเซย์โนกับคุณแบบนี้ แต่ถ้าหากเขาคนนั้นของคุณ ยังทำให้คุณต้องคิดหนักที่จะชวนกันไปไหนมาไหนอีกล่ะก็...... จะให้ไปชวนใครต่ออีกล่ะ?

8. คุณต้องคอยแก้ตัวแทนเขา ให้พ่อแม่ หรือเพื่อนๆ ฟังเพื่อนๆ และ ครอบครัวของคุณมักมีคำถามเกี่ยวกับเขาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นคนรัก หรือไม่เอาใจคุณ ไม่มีการปรนิบัติใดๆ ที่ปกติจะทำกัน แล้วคุณเองนั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายแก้ต่างให้เขา ให้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ ก็อยากจะบอกว่าถ้าหากเขารักคุณจริงล่ะก็ เขาคงไม่ทำอะไรที่ทำให้ครอบครัว กับเพื่อนของคุณต้องสงสัยกันแบบนี้หรอก

9. คุณพยายามที่จะทำให้เขามีส่วนร่วมในชีวิตคุณมากขึ้น แต่เขาไม่พยายามอะไรเลยไม่ว่าครอบครัวคุณกับเพื่อนของคุณ จะมองผู้ชายของคุณว่าเป็นยังไงก็ตาม แต่คุณก็ยังพยายามที่จะทำให้เขาเข้ากับครอบครัวและเพื่อนๆ ได้ แต่ในทางกลับกัน เขากลับไม่พยายามที่จะทำอะไรให้ดีขึ้นเลยสักนิดเดียว แถมนอกจากจะไม่สนใจแล้ว เขายังไม่ได้มีทีท่าว่าจะอยากรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับคุณให้มากขึ้น แล้วยังเก็บเรื่องส่วนตัวของตัวเองไม่ให้คุณรู้อีกต่างหาก พูดง่ายๆ ว่าไม่ว่าคุณจะพยายามทำอะไรเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ก็ตาม แต่มันก็ดูเหมือนว่าระหว่างคุณสองคนไม่มีอะไรเชื่อมต่อกันเอาซะเลย

สาวๆ คนไหน ที่เจอหนุ่มๆ เข้าข่ายนี้เกิน 50 % แล้วล่ะก็ ต้องลองพิจารณาดูดีๆ กันเลยนะคะ ว่าเราเป็นฝ่ายรักเขาแค่ข้างเดียวรึเปล่า จะได้ไม่เสียเวลาที่เราทุ่มทุน ทุ่มเท ไปเพียงแค่ฝ่ายเดียว โดยที่เขาไม่ได้มีอุดมการณ์ร่วมกันกับเราเลยสักนิดเดียว จะได้ไม่กลายเป็นความรักที่เหนื่อยและสุดท้ายแล้วเราไม่ได้อะไรเลย แต่ยังไงก็ขอให้ความรักที่คุณมีอยู่ตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ และเป็นรักที่แท้จริงด้วยนะจ๊ะ



บทความแนะนำ


ผู้ชายเรื่องรักผู้หญิงอุดรธานีอีจีวีบิ๊กซีโปรโมชั่นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก