แอปเปิล เผยประกอบการไตรมาสล่าสุด กำไรลดลงครั้งแรกในรอบ 13 ปี ด้าน iPhone ยอดขายลดลงตามคาด!
ล่าสุด แอปเปิล รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบการเงินของบริษัท ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์หลายท่านคาดเอาไว้ เมื่อแอปเปิล มีผลกำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี
โดยไตรมาสล่าสุดนี้ แอปเปิล มีรายได้รวมอยู่ที่ 50.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 22.5% ในขณะที่ยอดขายอย่าง iPhone ขายได้ 51.2 ล้านเครื่อง ลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วน iPad ขายได้ 10.2 ล้านเครื่อง ลดลง 19% และผลิตภัณฑ์ในตระกูล Mac ขายได้ 4.03 ล้านเครื่อง ลดลง 11%
ถึงแม้ว่า ผลประกอบการในไตรมาสนี้ จะไม่ค่อยดีนัก แต่ Tim Cook เผยว่า iPhone SE ไอโฟนรุ่นเล็กหน้าจอ 4 นิ้ว ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับความสนใจเกินคาด โดยมาจากลูกค้า 2 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งกลุ่มแรกก็คือ ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนขนาดเล็ก กะทัดรัด ส่วนอีกกลุ่มมาจากผู้ที่ใช้ iPhone อยู่แล้ว และมีความต้องการที่จะเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ ในราคาที่ไม่แพงเกินไป นอกจากนี้ อัตราการย้ายจากผู้ใช้ Android มายัง iPhone ยังสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
อย่างไรก็ดี สำหรับการเปิดตัว iPhone 7 ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ด้านนักวิเคราะห์ได้มองความเป็นไปได้ออกเป็น 2 กลุ่ม นั่นก็คือ iPhone 7 จะช่วยทำให้แอปเปิลกลับมามีกำไรอย่างถล่มทลาย ในขณะที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า iPhone 7 จะไม่สามารถดึงยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ ถ้าหากมีการอัปเกรดแบบ minor change
