ถ้าเขามัวแต่จีบทางออนไลน์?จะรู้เมื่อไหร่ว่ารักนี้จริงใจหรือเปล่า!?

อ่าน 12,853

ถึงเราจะยอมรับว่าจริงมาก ที่มาร์ค

ซัคเคอร์เบิร์กมาช่วยให้เราได้เจอหนุ่มฮอตที่เคยปิ๊งกันตอนมอปลายอีกครั้ง

ยังทำให้เราได้แว่บไปส่องโพรไฟล์ผู้ชายที่เราแอบชอบ

ระหว่างนั่งประชุมสุดจะน่าเบื่อ ยังได้ตื่นเต้นเล็กๆ

ที่หนุ่มคนนั้นส่งอินบ็อกซ์มาทัก แต่ทำไม?ตกเย็นทีไร

ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาชวนไปกินข้าว แถมเรายังลืมหน้าเขา

ทั้งที่คุยไลน์กันแทบทุกชั่วโมง คือไรอ่ะ!?

นี่เราเลิกขอเบอร์คนที่ชอบกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่

?ขอ

เบอร์หน่อยได้มั๊ยครับ?? คำถามที่สาวๆ ทเวนตี้ซัมติงถึงกับงงว่า

เบอร์อะไรคะ เบอร์รองเท้าเหรอ? แต่เราเชื่อว่าสาวเตอตี้ซัมติงขึ้นไปนี่

ได้ยินแล้วต้องหัวใจเต้นตึกตัก คิดถึงความรักครั้งแรกๆ

ความอบอุ่นและเปรี้ยวซ่าตอนออกไปเดทหนุ่มๆ

ในยุคที่ยังต้องโทรนัดออกไปเจอกันที่ร้านแมคโดนัลด์ ยุคที่เราเต้นๆ

อยู่ในผับ แล้วหนุ่มคนนั้นที่มองไปมองมาอยู่สักพัก เขาก็เดินมาถามว่า

ชื่ออะไรครับ ขอเบอร์หน่อยได้ ว่าแล้วก็ยื่นมือถือมาให้เรากดเบอร์

และถ้าเราจะโชว์ความเปรี้ยวอีกหน่อย ก็กดโทรออกเข้าเครื่องเราไปเลย

วันรุ่งขึ้นเขาโทรมา นอนคุยกัน นัดออกไปเจอ ชอบไม่ชอบ ใช่ไม่ใช่

ได้รู้ไม่เกินเดทที่สาม

แล้ววันนี้ล่ะ?ผู้ชายที่แอดเฟรนด์เรามาเมื่อสามเดือนก่อน ทำเหมือนจะจีบ

แต่จนวันนี้มาทักประโยคยาวสุดก็แค่ ?ทำงานเหนื่อยไหมครับ อิอิ?

#อิอิพ่องเหรอคะ อยากจะถาม

แล้วถ้าเราจะชอบใครสักคน ก็ทำได้แค่ อัพสเตตัสลอยๆ #และรอเงิบ

คือ

เราอยากจะบอกเขามากเลยว่า ?เย็นนี้ชั้นว่างค่ะ อยากชวนไปไหนมั๊ย?

แต่ก็ทำได้แค่นั่งรอเขาไลน์มาชวน หลังจากเราแกล้งอัพเฟซบุ๊คไปลอยๆ ว่าแบบ

?เฮ้..เพื่อนสาว คืนนี้ชั้นว่าง เราไปแดนซ์ไหนกันดี ตอบด่วน!? แล้วจบลงที่

เขาดันไม่ชวน เราเลยต้องเป้ฯฝ่ายไปแอบส่องเฟซบุ๊คเขาแทน

เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้เขาออกไปซิ่งแถวไหนกับแก๊งค์เพื่อนนะ พูดเลยว่าเศร้า

ความเหนื่อยก็คือ?เราต้องนั่งตีความยี่สิบตลบ

จาก

ที่เราเคยมั่นใจมากว่า ฉันไม่ใช่คนขี้มโน ไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเอง

แต่พอไถไปเจอว่าเขาโพสต์อะไรบางอย่าง เรานี่อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ยังไม่พอ

ขอแคปหน้าจอแล้วส่งไลน์ให้เพื่อนทันที ?แกๆ อันนี้เค้าพูดถึงชั้นป่ะวะ?

?แกว่าแปลว่าไรวะ? ?เค้าเครียดเรื่องไรป่ะวะแก แกว่าชั้นควรพิมพ์อะไรไปดี?

?เฮ้ย แต่อ่านดูอีกที เค้าพูดถึงผู้หญิงคนอื่นป่ะวะ เฮ้ยแฟนเก่าหรอ!?

คือเหนื่อยมากกก กับการนั่งตีความเอาเอง ยิ่งเมื่อเจอเขาโพสต์อะไรบางอย่าง

เหมือนอยากจะบอกเรา แต่ก็ไม่รู้ว่าพูดถึงเรารึเปล่า แต่รู้อีกที

เราก็กลายเป็นโรคนอยด์ มองหน้าจอทุกสองนาที จดจ่อมากกว่าเขาจะตอบมาว่าอะไร

มโนไปไกล สาวๆ บางคนกลายเป็นโรคขี้มโน ยึดติดกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน

ไม่เคยเจอหน้าเขาก็ไม่เป็นไร ขอแค่ไลน์หากันไม่หายไปไหนพอ

นี่ล่ะคือเราได้ลืมโลกความเป็นจริงไปแล้ว

ถ้าไม่ได้เจอหน้า?เราบอกเลยว่า พลังความรักไม่มีทางเกิดขึ้น

ถ้า

เขาไม่เคยโทรมา และเอาแต่พิมพ์มาว่า ?คิดถึงนะครับ? แล้วมันทำให้คุณคิดว่า

เขาคิดถึงคุณมากจริงๆ เราบอกเลยว่า ไม่ใช่ ถ้าเขาคิดถึงคุณ

ทำไมเขาไม่อยากได้ยินเสียงคุณ ทำไมเขาไม่อยากเจอหน้าคุณ

ก็เพราะเขาไม่ได้อยากเจอคุณจริงๆ ไง

และความจริงที่อาจจะเจ็บปวดแต่เราก็จะบอก คือ

เขาอาจส่งประโยคนี้ให้ผู้หญิงอีก 5 คนที่เขาจีบ เอาเป็นว่า

ตราบใดก็ตามที่คุณไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้พูดคุย ไม่ได้ยินเสียง

คุณไม่มีทางจะได้รับรู้อารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของเขาเลย

และถ้าเขายังไม่พยายามที่จะมาเจอคุณอีกล่ะก็ นี่ไม่ใช่ความรักแน่นอน

นั่งคุยมองตากันครั้งเดียว?ยังอาจจะรักกันได้ง่ายกว่าแชทนานเป็นเดือน

เพราะ

ความรักจะเกิดขึ้นได้ ต้องเกิดการพูดคุย ดูแลกัน ได้สัมผัสความอ่อนโยน

ความแข็งแกร่ง การมองเห็นหัวใจ และแอดติจูดต่อสิ่งต่างๆ บนโลก

ให้พลังความรักได้ออกมาทำงาน ได้บอกรักทางแววตา แม้ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

แล้วความรักที่จะเกิดขึ้นอาจไม่จำเป็นต้องใช้เวลาคุยกันนานๆ ด้วยซ้ำไป

มีการทดลองจากนักจิตวิทยาคนหนึ่งเขาทำการพิสูจน์ทฤษฎีของตัวเองที่ว่า

คนสองคนสามารรักกันได้ทันที

หากว่าทั้งคู่ได้มาแชร์ความคิดและความทรงจำที่ลึกซึ้งด้วยกัน

เขาทดลองโดยให้คนสองคนมานั่งตรงข้ามกัน แล้วผลัดกันถามตอบคำถาม 36 ข้อ เช่น

วันที่เพอร์เฟคท์สำหรับคุณเป็นยังไง?

คุณร้องเพลงให้ตัวเองฟังครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เหรอ?

ความน่าทึ่งและอบอุ่นก็คือ มีคนหนึ่งคู่ที่ทำการทดสอบนี้ ตกลงคบกันทันที

หลังจากเดทกันมานาน 3 เดือน

แต่ไม่เคยมานั่งคุยเรื่องส่วนตัวลึกซึ้งกันต่อหน้าแบบนี้มาก่อน สรุปคือ

ต่อให้เขามั่นคงในการส่งสติ๊กเกอร์ไลน์มาให้คุณทุกเช้า

แต่ไม่เคยขอนัดเจอเลยสักครั้ง มันก็แค่นั้นล่ะ จริงๆ

ถ้าเขายังมัวแต่กั๊ก?เราจะถามให้ชัดและมูฟออนล่ะนะ

?คือ

เบื่อแล้วจริงๆ และไม่อยากเหนื่อยกับความรักที่มองไม่เห็น

ถ้าไม่ได้อยู่ในที่ๆ มีสัญญาณอินเตอร์เนทอีกต่อไป? ถ้าคุณกำลังรู้สึกแบบนี้

เราขอแนะนำว่า ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเถอะ ลองรื้อฟื้นตัวเอง

แล้วขอกลับไปเดทแบบที่เราเคยทำๆ กัน เดทแบบใจๆ ชัดเจน พูดตรง ไม่ต้องตีความ

สาวรุ่นพี่ของพวกเราคนหนึ่งบอกว่า ?ถ้าเราจะเดทกับใคร เราขอเดทสามครั้ง

เดทครั้งแรกคือโทรศัพท์คุยกัน เดทที่สองต้องนัดกินข้าว เดทที่สาม ถามเลยว่า

เธอคิดยังไงกับเรา จะคบกันมั๊ยคะ และถ้าโทรไปไม่รับเกินสามครั้ง เราพอเลย

ไม่ต้องหาเหตุผลให้ตัวเอง จบและมูฟออน

ขอจริงใจกับความรู้สึกตัวเองเท่านั้น?



บทความแนะนำ


ความรู้สึกผู้หญิงนอกใจเรื่องชู้สาวชีวิตความรักอาการการศึกษาทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก