6 สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด!!! เมื่อโดนแฟนทิ้ง

อ่าน 5,287

ความรัก " เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร รักกันวันนี้ ก็หมดรักได้

นับประสาอะไรกับการโดนบอกเลิก การมีแฟนบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน

ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าคุณกับแฟนจะรักกันไปจนชั่วฟ้าดินสลาย

คบกันมานานขนาดไหน หรือว่าแต่งงานมีลูกแล้วก็ยังเลิกรากันได้...

ดราม่าขนาดนี้ ใช่แล้วค่ะ บทความนี้ไม่ใช่เรื่องสำหรับคนกำลังอินเลิฟแน่นอน

แต่เป็นเรื่องของคนที่โดนแฟนทิ้ง! ไม่ว่าแฟนคุณจะทิ้งคุณไปด้วยเหตุผลบ้าบออะไรก็ตาม สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดึงสติกลับมา พร้อมกับมาอ่านสิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ ว่าอย่าทำเป็นอันขาดในสภาวะอกหักแบบนี้!
1. หยุดร้องไห้, พร่ำเพ้อละเมอหาถึงรักที่จบไปแล้ว


ก่อนที่จะให้คนอื่นช่วยเรา เราต้องช่วยตัวเองก่อนค่ะ

อันดับแรกคือต้องควบคุมตัวเองให้ดี

ระงับอารมณ์ความรู้สึกของเราให้สงบนิ่งที่สุด การร้องไห้

ตีโพยตีพายเรียกร้องให้เขากลับมานั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้น เพราะ " คนจะไป ก็ต้องไป " เราไม่สามารถไปเหนี่ยวรั้งตัวเขาให้อยู่กับเราได้ ต่อให้รั้งตัวได้ แต่เมื่อใจของเขามันไม่อยู่กับเรา ทุกอย่างมันก็จบ!

ทางที่ดี ช่วงแรกๆ อย่ารื้อฟื้นความทรงต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขาออกมา

จะเป็นการดีที่สุด

ไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งเป็นการทำร้ายความรู้สึกตัวเองมากขึ้น

พยายามอย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ หรือหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทิ้งเราไป

สิ่งที่ควรจะทำให้ได้ ณ จุดนั้นคือ" อยู่กับปัจจุบัน "มีอะไรสำคัญที่ต้องทำอีกมากมาย มากกว่าจะไปนึกถึงเรื่องวันวานให้ต้องช้ำใจเล่นนะคะ?

2. อย่าโพสต์อะไรลงโซเชียลเด็ดขาด


ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากจะต้องเลิกร้องไห้

หยุดพร่ำเพ้อถึงเขาคนนั้นแล้ว ในโลกโซเชียลก็ต้องทำด้วย จริงอยู่ที่

Facebook, Instagram, Twitter หรืออะไรต่างๆ

เหล่านั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา เราสามารถโพสต์หรือแชร์อะไรไปก็ได้

แต่จงอย่าลืมว่าเมื่อมันถูกโพสต์ลงไปแล้ว

สิ่งเหล่านั้นก็จะไปอยู่ในที่ที่เป็นสาธารณะโดยทันที!

ไม่

ใช่แค่เรื่องอกหักเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ก็ด้วย

การโพสต์อะไรลงไปบนโลกโซเชียลนั้น

มันเป็นการแสดงความเป็นตัวตนของเราในอีกทางหนึ่ง

ยิ่งเป็นการแสดงอารมณ์อย่างรุนแรง มันจะทำให้คนภายนอกมองเราในทางที่ไม่ดี

โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเราเป็นคนอย่างไร

ที่แย่ไปกว่านั้นมันอาจเป็นการรบกวน ทำให้คนอื่นเกิดความรำคาญได้

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หากแฟนเก่ามาเห็นโพสต์ของเราด้วยแล้ว

มีแต่เสียกับเสียค่ะ

เพราะมันอาจทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองตกเป็นจำเลยในเรื่องนี้อย่างเสียไม่ได้

มองหน้ากันไม่ติดไปเลยล่ะทีนี้

หากอยาก

หาที่ระบายความรู้สึก หรือทนไม่ไหวแล้ว ต้องโพสต์ความรู้สึกนั้นออกไปให้ได้

แนะนำให้ตั้งสเตตัสในเฟสบุ๊ค อยากเขียน อยากระบายความอัดอั้นตันใจอะไร

ก็ปล่อยออกมาให้หมดเลย แต่!!!....ให้ตั้งค่าเป็น Only Me ไปนะคะ

เห็นคนเดียวไปนั่นแหละ

เราอาจจะอยากให้มีคนมาคอมเมนต์ปลอบเราให้รู้สึกดีขึ้น

แต่อย่าลืมว่าเพื่อนในเฟสบุ๊คนั้นไม่ได้มีแค่เพื่อนที่สนิทกันนะคะ

เราคงไม่อยากให้คนเป็นร้อยเป็นพันต้องมารับรู้เรื่องของเราแล้วเอาไปโพนทะนา

หรอก จริงมั้ย?

หรือ

ในอีกทางหนึ่ง ระบายให้เพื่อนสนิทฟังค่ะ อยากร้องไห้

อยากจะอะไรก็ปล่อยมันออกมาให้หมด คนเป็นเพื่อนกัน ย่อมรับฟังกันได้อยู่แล้ว

:)

3. ตามตื๊อทุกวิถีทาง


นึก

ถึงเวลาที่เราถูกตื๊อให้ซื้อคอร์สความงามของสถาบันความงามในราคาแพงๆ สิคะ

ชอบรึเปล่า? มันน่ารำคาญใช่มั้ยล่ะ เวลาที่มีใครมาตามตื๊อให้ทำอะไร

ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม กับแฟนเก่าก็เหมือนกันค่ะ การที่เขาทิ้งเรา

มันก็หมายความว่าเขาหมดรักเราแล้ว จะตามตื๊อไปก็ไม่มีประโยชน์

เพราะว่าเขาคงไม่กลับมาแน่นอน

มิหนำซ้ำเขาจะยิ่งรำคาญเรามากขึ้นจนอยากจะถอยหนีไปให้ห่างๆ เราเลยก็ได้

โดนบอกเลิกก็ว่าหนักพอแล้ว นี่ถ้าโดนเขามึนตึง เพิกเฉย ไม่ใยดี

มันไม่หนักกว่าหรือ? คิดดูนะคะ


4. เรียกร้องความสนใจ


ที่

จริงการโพสต์อะไรลงบนโซเชียลมีเดียก็เป็นการเรียกร้องความสนใจอยู่แล้ว

แต่ในข้อนี้มันรุนแรงกว่านั้นค่ะ บางคนอาจจะบอกว่าตัวเองไม่สบาย อ่อนแอ

หรือทำร้ายตัวเอง ( ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือการฆ่าตัวตายเพื่อประชดรัก!! )

เพื่อให้เขากลับมาสนใจ ต้องการให้เขาสงสาร โดยมีนัยประมาณว่า " อย่าทิ้งฉันไป ฉันอยู่ไม่ได้โดยไม่มีคุณ "

พูด

จริงๆ เลยนะคะ แฟนเก่าของคุณเขาอาจจะกลับมาสนใจคุณเพราะความสงสาร แต่!!!

ความสงสาร กับ ความรัก มันเป็นคนละเรื่องกันค่ะ

ดีไม่ดีความสงสารกลับกลายเป็น ' สมเพชเวทนา ' หรือกลายเป็น ' ความรำคาญ ' จนถึง ' เกลียดขี้หน้า '

ไปเลยก็ได้ ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งเหมือนเราทำตัวไม่มีค่าอะไร

แล้วแบบนี้คุณค่าของเราอยู่ที่ไหนล่ะคะ ลุกขึ้นมาอย่างสตรอง

อย่ามัวแต่นั่งจ๋อยเป็นหมาหงอย แบบนี้มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น อย่างน้อย ต้องรักตัวเอง ก่อนที่จะให้คนอื่นมารักค่ะ!


5. หาคนใหม่มาดามใจทันที


ถ้า

มีคนใหม่เข้ามา แล้วคุณรู้สึกรักเขาจริงๆ เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย

แต่ทว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น! เพราะถ้าเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า

ไม่มีทางที่คุณจะอยากมีใครเข้ามาใหม่ทันทีหรอก

อย่างน้อยมันก็อาจจะมีความอาลัยอาวรณ์รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป

เว้นเสียแต่ว่าใจจริงนั้นคุณก็ไม่ได้รัก " คนในอดีต " ของคุณเลย

ถึง

คนใหม่ของคุณจะดีสักแค่ไหน แต่ถ้าหากว่าคุณยังคิดถึงคนเก่าๆ

มันก็ไม่ได้ช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้นมาหรอก

มันยิ่งจะเป็นการทรมานทั้งตัวคุณและ" คนใหม่ "โดยที่แฟนเก่าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เรียกว่า งานนี้คุณจะเจ็บ และยังพาคนอื่นมาเจ็บด้วยนะคะ


6. ระรานแฟนใหม่ กิ๊กใหม่ ของแฟนเก่า


ข้อนี้เรียกว่ารุนแรงที่สุดแล้วล่ะมั้ง

จริงอยู่ที่ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เราและเขามีสิทธิ์ที่จะรัก,

เลิกรัก และมีใครคนใหม่แวะเวียนเข้ามาอยู่เสมอ

หากเรื่องของเรากับเขามันจบไปแล้ว เขาก็มีสิทธิ์ที่จะไปมี " คนใหม่ " คราวนี้ก็เป็นเรื่องของ " เขาสองคน " แล้ว เราเองก็ไม่ควรจะไปเป็น " คนที่สาม " ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพราะเราอยู่ในฐานะ " คนนอก " เท่า

นั้น การไประรานความสัมพันธ์ของคนอื่น

นอกจากจะไม่ดีในสายตาของคนคู่นั้นแล้ว

คุณจะยังดูไม่ดีในสายตาของคนรอบข้างด้วย

ที่สำคัญมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เรา " ดูไม่แพง " เป็นอย่างยิ่ง!

การเลิกรากันของคู่รักแต่ละคู่ต่างมีเหตุผลต่างกัน

บางคู่อาจจะยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ( แม้จะไม่ 100% )

ถึงจะเป็นเรื่องใหญ๋ แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตค่ะ เศร้าได้ แต่อย่าเศร้านานจน

กลายเป็นการจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอด ชีวิตของคนเราต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ

ในอนาคตจะมีใครคนใหม่เข้ามาหรือไม่ สิ่งนี้มันไม่สำคัญเลยค่ะ

สุดท้ายมันขึ้นอยู่ที่ว่า เราพอใจและเป็นสุขกับชีวิตที่เรามีมากแค่ไหน

เชื่อสิคะ " โดนแฟนทิ้งน่ะ " มันเรื่องเล็กๆ ไม่ถึงกับตายหรอก!

ขอ

เป็นกำลังใจให้สาวๆ ทุกคนพบเจอชีวิตดีๆ เจอคนดีๆ เข้ามาในชีวิตนะคะ

อะไรต่างๆ ที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตละกันเนอะ

หวังว่าบทความของเราจะเป็นกำลังใจ เป็นแรงฮึดในสาวๆ ลุกขึ้นมาแบบสตรองๆ

กันได้นะคะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบาย



บทความแนะนำ


โปรโมชั่นการศึกษานักสังคมวิทยานักเศรษฐศาสตร์นักโบราณคดีFOREVERXXIทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก