มีใครที่แอบชอบคนคนนึงโดยไม่เคยเจอกันต่อหน้า ได้ยาวนาน 10 กว่าปีบ้าง

อ่าน 2,302

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมอยากระบายความรู้สึกที่มี เป็นความรู้สึกที่บอกใครไม่ได้โดยเฉพาะคนในครอบครัว

ย้อนไป 16-17 ปีที่แล้ว ผมได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง ตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ในโปรแกรมแชตชื่อดังในสมัยนั้นซึ่งเราเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ ก็ได้คุยกันแค่ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นก็ห่างหายกันไปจนหลังจากเรียนจบ ทำงานได้ประมาณ 2-3 ปี ผมก็วางแผนเรียนต่อปริญญาโท ในคณะที่เค้าเรียนตอนปริญญาตรีผมเลยส่งอีเมล์ไปถามรายละเอียดหลักสูตร ทั้งที่ไม่รู้ว่าเค้าจะยังคงใช้อีเมล์นั้น หรือยังจำผมได้อยู่รึเปล่าแต่สุดท้ายเค้าก็ตอบอีเมล์กลับมา และหลังจากนั้นเราได้มีโอกาสโทรศัพท์คุยกันทุกวัน

ตอนคุยกันช่วงสัปดาห์แรก ในใจผมรู้สึกหมั่นไส้เค้ามากๆ ในหลายๆเรื่องที่คุยกันด้วยบางครั้งที่ใช้ไทยคำอังกฤษคำบ่อยมากกว่าที่ควรจะเป็น อะไรๆก็ต้องประเทศอังกฤษอย่างั้นอย่างงี้ และเหมือนจะหลงตัวเองในบางครั้งณ เวลานั้นคิดว่าทัศนคติแบบนี้คงน่าจะคุยกันลำบากแล้วล่ะ ประกอบกับตัวผมเองที่เป็นพวกไม่ชอบคุยกับคนลักษณะนี้เลยเลยตัดสินใจบอกความรู้สึกตัวเองว่า เค้าทำตัวได้น่าหมั่นไส้มาก ถ้าจะเลิกคุยกันก็ตามใจเลยเค้าก็อึ้งไปและรับฟังผมจนจบ แต่กลับกลายเป็นว่า เค้าดีใจมากที่ผมกล้าความรู้สึกตัวเองและบอกเค้าตรงๆ เพราะไม่เคยมีใครตำหนิเค้าเลยกลับกลายเป็นว่าจากวันนั้น เราก็คุยโทรศัพท์กันบ่อย ขณะเดียวกันเค้าก็พยายามปรับปรุงวิธีการใช้คำพูดและทัศนคติในบางเรื่อง

ผ่านไปหลายปี เราก็คุยกันแค่ทางโทรศัพท์ อาจจะไม่บ่อยเท่าช่วงแรกๆ แต่เราก็ยังคุยกันเรื่อยๆเล่าสารทุกข์สุกดิบ ระบายเรื่องไม่สบายใจ ให้กำลังใจกัน จนผมรู้สึกว่า เราควรจะรู้จักกันในชีวิตจริงได้แล้วแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด ซึ่งตอนนั้นผมนึกในใจว่า มันเป็นเรื่องใหญ่อะไรหนักหนา แค่มารู้จักกันเท่านั้นเองแต่ก็เคารพการตัดสินใจเค้า และในใจก็แอบรู้สึกหลายๆอย่างปนกัน ทั้งไม่เข้าใจ หาเหตุผลไม่เจอ น้อยใจ เพราะรู้สึกว่าเราสนิทกันมากจนวันหนึ่ง เค้าก็บอกผมเรื่องที่กำลังจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ตามที่เคยได้บอกกับผมอยู่เสมอๆณ ตอนนั้น หลังจากที่ได้ยิน ทำไมผมถึงรู้สึกอึ้งและใจหายอย่างบอกไม่ถูก

เค้าไปเรียนที่นั่นหลายปี ทั้งเรียนภาษา ทำงาน และเรียน ปริญญาโท (ที่หลายปีเพราะเค้าหาเรื่องอยู่นั่น)ซึ่งเค้าก็โทร.จากอังกฤษมาหาผมบ้างนานๆ ครั้ง และได้มีโอกาสเห็นว่าเค้าหน้าตาเป็นยังไง ผ่าน video call ทำให้รู้สึกดีว่า เค้าเปิดใจกับผมมากขึ้นครั้งหนึ่ง เค้ามีเรื่องไม่สบายใจและได้รู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่ที่นั่น ณ ตอนนั้นคือมันรู้สึกอึ้ง พูดไม่ออก มันจุกแต่ในใจก็คิดว่าจะไปเสียใจทำไม ในเมื่อเค้าไม่รู้สึกอะไรกับเราเลย ก็พยายามคุยแบบปกติไป มีๆเลิกๆ อยู่ 2-3 คนในช่วงที่อยู่ที่นั่นจนหลังๆ เราห่างกันมากขึ้นจากเมื่อก่อนคุยกัน 3 เดือน 4 เดือนคุยกันครั้งนึง แต่หลังสุดหายไปเป็นปีกว่าๆ Line ไปก็ไม่ตอบเลยครั้งนั้นผมเสียใจมากจริงๆ แต่อีกใจก็เป็นห่วงว่า อยู่เมืองนอกหากเป็นอะไรไปจะมีใครรู้มั้ย หลายอารมณ์ปนกัน

ผมก็พยายามจะลืมนะ แต่อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่า อยากรู้ว่าเป็นยังไงบ้าง ยังมีชีวิตอยู่มั้ย กลับไทยรึยังเลยลอง search หาชื่อเค้าจากที่เห็นในไลน์ จนเจอเค้าและรู้ว่าเค้ากลับมาไทยได้สักระยะแล้วผมเลยแสดงตัว พร้อมกับตำหนิเค้า ในขณะที่ในใจก็ดีใจ อีกใจก็โกรธ เสียใจ ว่าทำไมไม่พยายามที่จะติดต่อผมกลับบ้างเลยเหรอแต่เค้าก็ขอโทษ ยอมรับผิด แล้วสุดท้าย...ผมก็พ่ายแพ้ใจตัวเองอยู่ดีจากนั้นเราก็กลับมาคุยกันเมื่อสักปีกว่าๆมานี้ ได้รับรู้เรื่องราวความรักของเค้าเป็นระยะๆตลอดชีวิตผมที่ผ่าน ผมอาจจะมีคนแอบชอบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยมีแฟนจริงๆ ผมรู้แต่ว่าผมนึกถึงแต่เค้าคนเดียวจนเมื่อคืนเค้ามาปรึกษาว่ามีปัญหากับแฟนเค้า มีปัญหาหลายเรื่อง เค้าก็แนะนำเรื่องความรักผมไปหลายเรื่องซึ่งมันสื่อถึงว่า เค้าอยากเป็นแค่เพื่อนกับผมเท่านั้น และไม่ขอเจอตัวจริง เป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกันจริงจังในเรื่องนี้

ที่ผ่านมาเคยนึกในใจว่า ถ้าวันหนึ่งเรื่องลงเอยแบบนี้ผมควรจะทำยังไง ระหว่างเลิกคิดแล้วเป็นเพื่อนกันหรือเลิกคุยกันไปเลยซึ่งก็พิจารณามานานมากหลายครั้งแล้ว และเมื่อคืนก็ตัดสินใจแล้วว่า ผมควรจะเดินออกมาดีกว่า ขอไม่ติดต่อเค้าอีกขอโทษ ขออโหสิกรรมในบางคำพูดบางการกระทำที่อาจทำให้เค้าไม่สบายใจ ไม่พอใจ ซึ่งเราก็จากลากันด้วยดี

แต่หลังจากวินาทีที่ผม delete ทุกช่องทางการสื่อสารกับเค้า ผมกลับรู้สึกว่า ทำไมผมถึงได้เป็นคนอ่อนแอมากขนาดนี้ผมมีพ่อ แม่ น้อง ที่รักและเป็นห่วงผม มีสถานะทางสังคมที่ดี แต่กลับอ่อนต่อโลกในเรื่องความรักมากๆบางคนคงอาจจะคิดว่าผมโง่ ทำไมคิดไม่ได้ ทำไมต้องปักใจกับคนคนเดียวที่ไม่เคยเจอกันต่อหน้า เรื่องไม่ได้ใหญ่โตเมื่อเทียบกับคนอื่นๆซึ่งผมขอน้อมรับครับ แต่ผมไม่ได้ชอบใครจริงๆนอกจากเค้า เราคุยกันได้ทุกเรื่อง มีความคิดเห็นและจริตหลายอย่างใกล้เคียงกันหรือที่จริงมันอาจเป็นแค่ความผูกพันเท่านั้น แต่ผมพยายามยัดเยียดให้มันเป็นความรักนี่คือครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่เกิดจนถึงวัยอายุเลข 3 ที่ผมรู้สึกเสียใจในเรื่องความรัก

มีเรื่องนึงที่ผมลืมบอกเค้าไปคือ เมื่อไม่นานมานี้เค้าลองทำขนมบราวนี่ และอยากลองเอามาให้ผมชิม โดยฝากไว้ที่ ประชาสัมพันธ์คอนโดที่ผมอยู่ครั้งนั้นผมรู้สึกดีที่เหมือนจะเข้าใกล้เค้าไปอีกนิด แต่ผมใช้เวลาทานมันตั้ง 4-5 วันกว่าจะหมด เค้าก็ถามว่าหมดรึยังผมก็บอกว่ายังไม่หมด เค้าก็พูดว่าคงไม่อร่อยเลยไม่ค่อยทาน ซึ่งที่จริงแล้วผมกลัวบราวนี่จะหมดมากกว่า แต่ผมไม่ได้บอกเค้าเลย

เขียนมาซะยืดยาวเกือบ 5,000 ตัวอักษรแล้ว สุดท้ายก็ขอให้ผมเองเข้มแข็งเร็วๆ มีสติมากกว่านี้ และขอให้เค้าคนนั้นมีความสุขมากๆ ในทุกช่วงชีวิตหวังว่าเรื่องราวของผม อาจจะมีใครบางคนได้เก็บรายละเอียดบางอย่างบางเรื่อง ไปเป็นข้อคิดและมีประโยชน์กับชีวิตของคุณบ้างครับ

ปล.หากพิมพ์ผิดพลาดไปบ้างก็ต้องขออภัยด้วยครับ

ขอบคุณครับ



บทความแนะนำ


การศึกษากันแดดcanmakeกันแดดเนื้อเจลเครื่องประดับการสวมแหวนจิตวิทยาCanmakeMermaidกันแดดทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก