5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณ กำลังจะโดนเขี่ยทิ้ง!!
" ที่ใดที่รัก ที่นั่นมีทุกข์ "
นี่
เป็นเรื่องจริงของทุกคนที่มีความรัก
แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแต่เรื่องสุขสมหวังไปตลอดเวลา
บางครั้งมันอาจจะมีเรื่องทุกข์ใจเข้ามาอย่างที่ตัวเราเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน
อย่างไรเสีย เมื่อความรักมันจืดจางลงจนรู้สึกว่า " หมดรัก " ก็ต้องมีคนหนึ่งที่เป็นฝ่ายไป ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราควรจะต้องทำใจยอมรับกับทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้น
i1192.photobucket.comและนี่คือ" 5 สัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังจะโดนบอกเลิก หรือ โดนเขี่ยทิ้ง! "ถ้าใครเจอสิ่งเหล่านี้กับตัว ให้ทำใจตั้งรับไว้ได้เลย
1. ชอบหงุดหงิดใส่ ไม่พอใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
i630.photobucket.com
เป็น
เรื่องธรรมดาที่คนเป็นแฟนกันจะมีเรื่องทะเลาะกันบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
แต่หากเป็นเรื่องจุกจิกที่บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าเราทำผิดอะไร
แล้วเขามาหงุดหงิดใส่เรา ทำเหมือนไม่พอใจเราไปซะทุกเรื่อง
แบบนี้ก็ดูไม่มีเหตุผลใช่มั้ยล่ะคะ นี่อาจจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นแล้วก็ได้
และเราอาจมีคำถามตามมาว่า " ยังรักกันอยู่รึเปล่า? "
2. ทำตัวห่างเหินกัน ไม่มีท่าทีสวีทหวานเหมือนแต่ก่อน
myasianmovie.files.wordpress.com
จริงอยู่ที่ใครๆ เขาว่ากันว่า " เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน " เมื่อความรักของคนสองคนดำเนินมาได้สักพัก อาจจะมีช่วงที่เรียกว่า " หมดโปรโมชั่น " อาจไม่ได้สวีทหวานกันเหมือนช่วงคบกันใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารักนั้นจะจืดจางลงไปนี่!
ใน
สภาวะแบบนี้ สามารถตีความได้ 2 แบบ คือ 1.
ความรักของคุณทั้งคู่เดินทางมายาวนาน
แม้จะไม่มีทีท่าสวีทกันทั้งต่อหน้าและลับหลังคนภายนอก
แต่คุณทั้งคู่ก็ยังรู้ดีว่ารักกันอยู่
การพูดว่ารักจึงไม่ใช่เรื่องที่สลักสำคัญอะไรมากนัก
และ
2. ความรักของคุณทั้งคู่จืดจางลง
โดยเฉพาะหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีท่าทีที่เฉยเมย เย็นชา
จนรู้สึกว่าอีกฝ่ายโกรธอะไรเราอยู่รึเปล่า? ทั้งๆ
ที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ขุ่นข้องหมองใจกัน
หาก
เป็นแบบข้อ 1 ก็เป็นเรื่องดีค่ะที่ความรักของพวกคุณดำเนินมาอย่างราบรื่น
ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวา ในขณะเดียวกันถ้าหากเป็นแบบข้อ 2
ก็เริ่มน่าคิดมากขึ้นแล้วล่ะ
3. ไม่มีเวลาให้ / ติดธุระตลอด
www.koreandramafashion.com
นอกจากจะทำตัวห่างเหินแล้ว ยังมีเวลาให้กันน้อยลงอีก อันนี้เริ่มน่าคิดแล้วล่ะค่ะ คิดดูนะว่าคนเราต่อให้ยุ่งตัวเป็นเกลียว งานหนักขนาดไหน อย่างน้อยก็ต้องมีเวลามาติดต่อหรือมาเจอแฟนบ้าง แม้จะเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเถอะ เพราะถึงจะได้อยู่ด้วยกันในช่วงระยะเวลาเพียงน้อยนิด มันก็ถือเป็นเวลาที่มีค่ามาก ที่จะได้เห็นหน้า สบตา ได้ยินเสียงของกันและกัน
ถ้า
หากว่าแฟนของคุณไม่ว่างเพราะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น ติดงานด่วน
หรือมีธุระสำคัญต้องสะสางจริงๆ อันนี้ก็ต้องเห็นใจเขา เป็นกำลังใจให้เขา (
เพราะเขาอาจจะไม่ว่างจริงๆ อย่างที่บอก ) แต่ถ้าหากเขาบ่ายเบี่ยง
ไม่ว่างที่จะมาเจอเราหรือคุยกับเราเลย มันก็เริ่มน่าคิดแล้วล่ะค่ะ
ว่าเขาต้องมี Something Wrong แน่ๆ
คำ
ว่า " ไม่ว่าง " ที่เขาพูด มันมีน้ำหนักให้เชื่อได้อยู่ 2 ทาง คือ 1.
ไม่ว่างจริงๆ และ 2. เป็นข้ออ้างที่จะไม่มาพบเรา ณ
จุดนี้คุณต้องพิจารณาเอาเอง ซึ่งเราว่ามันไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก
เซนส์ที่คุณมี มันจะบอกคุณเอง!
4. มีโลกส่วนตัวมากขึ้นจนดูผิดปกติ
www.hancinema.net
ถ้า
เกิดว่าคุณกับคนรักได้เจอกันบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
คุณทั้งสองคนย่อมจะรู้นิสัยใจคอ ความชอบ และพฤติกรรมกันดี
แต่หากวันใดวันหนึ่ง เขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปล่ะ?
ประมาณว่าแอบมีความลับกับเรา ไม่ชอบให้เรามายุ่งวุ่นวาย
ถามอะไรเซ้าซี้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขาเวลาที่อยู่นอกบ้าน
อันนี้ก็น่าคิดแล้วว่าคนของคุณต้องมีอะไรปิดบังคุณอยู่แน่ๆ
และเรื่องนี้ก็ไม่อยากให้คุณรับรู้ด้วย!
ที่หนักไปกว่านั้น หากเขาดูติดโลกโซเชียลมากกว่าปกติ เอาแต่นั่งดูมือถือ นั่งแชทในทุกๆ ครั้งที่เจอกัน แบบนี้ก็น่าสงสัยค่ะ คิดดูสิ มาเจอกับแฟน แต่นั่งแชท นั่งจ้องจอมือถือประหนึ่งว่าแฟนไม่ได้อยู่ด้วย พอถามก็พยายามบ่ายเบี่ยงว่าคุยงานบ้าง ในบางกรณีหากถามมากเข้าหน่อยก็จะโดนหงุดหงิดใส่ หาว่ายุ่งเรื่องส่วนตัวบ้าง คือถ้าสนิทใจกันจริงๆ ก็ไม่เห็นจะต้องโกรธกันเลย จริงมั้ย?
5. ประชดประชัน ยกข้ออ้างมาบอกเลิก
www.koreandramafashion.com
มา
ถึงข้อสุดท้ายค่ะ ที่สุดของที่สุด หากมีสัญญาณใน 4
ข้อที่ผ่านมาเกิดขึ้นกับคุณ ยอมรับได้เลยค่ะว่ายังไงๆ
มันก็คงจะต้องมาถึงจุดนี้ จุดที่เขาคงไม่เหลือความรักให้เราแล้ว
บางคู่คบกันมานานจนหวังจะสร้างอนาคตด้วยกัน
เมื่อมีเหตุการณ์อะไรมาทำให้กระทบกระทั่งเพียงเล็กน้อย
มันก็อาจเป็นช่องให้อีกฝ่ายใช้โอกาสนี้ในการบอกเลิกได้โดยง่าย
ด้วยเหตุผลแย่ๆ ว่า " เพราะเธอไม่เชื่อใจกัน "
ใน
กรณีนี้ จริงอยู่ว่าการไว้เนื้อเชื่อใจคนรักเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย
แต่หากแฟนของคุณมีพฤติกรรมดังที่กล่าวมาก่อนหน้านี้
คุณยังจะเชื่อใจเขาได้ต่อไปมั้ยคะ ( เชื่อก็โง่เต็มทนแล้ว )
ไม่ว่าจะยังไงอยากให้ตั้งสติกันดีๆ นะคะ
เข้าใจว่าบางคนเจอเรื่องแบบนี้ก็คงต้องมีช็อคกันบ้างแหละ เราเข้าใจนะ
ยิ่งรักมากก็เจ็บมาก T^T
ต้องดื่มน้ำใบบัวบกกันเป็นลิตรๆ เลยสินะสำหรับบทความนี้ เสียใจได้
ร้องไห้ได้ เศร้าได้ค่ะ ไม่มีใครห้าม เอาความอัดอั้นตันใจออกให้หมด
แล้วลุกขึ้นมาเดินหน้าต่อไป มีอะไรในชีวิตต้องทำอีกเยอะ
มากกว่าจะมาเสียเวลาพร่ำเพ้อถึงคนคนเดียว การที่เขา " เขี่ยเราทิ้ง "
มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีค่าอะไร ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองค่ะ
อย่าปล่อยให้คนคนเดียวมาทำลายชีวิตเราให้ป่นปี้ไม่เป็นชิ้นดี
คิดซะว่าการอกหักครั้งนี้
อาจเป็นโชคดีที่ทำให้เราได้รู้เช่นเห็นชาติคนคนหนึ่ง
ถือว่าคุ้มค่ากับการเริ่มต้นชีวิตใหม่นะคะ เดินหน้าต่อไปแบบสตรอง
เราขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอให้ทุกคนมีรักที่ดี อะไรแย่ๆ ที่ผ่านไปแล้วก็อย่าไปนึกถึงมันอีก
โชคดีค่ะทุกคน บ๊ายบาย
Sista Peony