ชีวิตคู่ใน 5 ปี

อ่าน 4,017

///ฉันแค่อยากแชร์ประสบการณ์ ในการใช้ชีวิตคู่อีกมุมของฉันให้เพื่อนๆได้เป็นแนวในการเลือกคู่ชีวิตที่ดีค่ะ/// ตอนนี้ฉันก็อายุ28แล้วค่ะ ขอย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันอายุ 20 พอดีฉันยังใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปค่ะ ติดเพื่อน มีดื่มบ้าง เที่ยวผับเหมือนคนอื่นค่ะ ชีวิตตอนนั้นเรียกว่าได้ลองทำหลายอย่างที่อยากทำ ฉันเป็นคนชอบร้องเพลงมาก เลยตัดสินใจไปทำงานที่ผับแห่งหนึ่ง ไปเป็นนักร้องค่ะเพราะเราเป็นคนมีเพื่อนที่ชอบเล่นดนตรีเลยแนะนำให้ไปทำ ตอนนั้นยอมรับว่ามีคนมาจีบฉันเยอะนะคะ ก็คบสักพักแล้วก็เลิก *ฉันเป็นคนขี้เบื่ออ่ะนะ* ติดเพื่อนด้วยคงไม่มีเวลาให้ใครสักเท่าไหร่

ผ่านมาครึ่งปีค่ะ ผู้ชายคนนึงก็เข้ามาอยากรู้จักและแสดงออกถึงความจริงใจสารพัด เขาอายุ30 ห่างกับฉัน10 ปี รูปร่างสูง หน้าตาเข้มๆ ในสายตาฉันเขาดูดีมากค่ะ ยิ่งหน้าที่การงานด้วยแล้วถือว่าเป็นคนที่ผู้หญิงหลายๆคนอยากได้มาเป็นคู่เลยก็ว่าได้ ค่ะ! เขารับราชการทหาร เป็นทหารเรือ เวลาที่เขาใส่ชุดทำงานมันช่างน่าหลงไหลอ่ะ 5555 พอๆ ตอนนั้นมันลังเลมากเหมือนกำลังรู้สึกดีๆกับเขา เพราะเราแพ้คนพูดน้อยๆแต่แสดงออกชัดเจนอะไรประมาณนี้ เขาใช้เวลาจีบฉันอยู่แค่1อาทิตย์ ฉันก็ตกลงไปใช้ชีวิตคู่อยู่กับเขาแล้ว ไปอยู่ที่บ้านที่เขาซื้อไว้ ถือว่าช่วงนั้นฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดีเหมือนกันนะที่พอมีแฟนก็มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งบ้านทั้งรถ และแฟนก็มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ตอนนั้นทุกอย่างราบรื่นค่ะ ฉันเริ่มมีใจให้เขา และเขาก็ดูแลฉันเป็นอย่างดีมาตลอดจนฉันต้องลาออกจากงานที่ทำประจำ และงานร้องเพลงกับเพื่อน เพื่อออกมาอยู่บ้านเป็นภรรยาที่แสนดีของสามี

จนกระทั่ง เวลาผ่านมา 3เดือนที่อยู่ด้วยกัน ฉันก็ได้รู้ในสิ่งที่ไม่คิดว่าเขาจะปิดฉันและมีอีกหลายๆเรื่องตามมา คือเขาเคยแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว จดทะเบียนสมรสด้วยกันจนตอนนั้นก็ยังไม่หย่าขาดจากกัน ฉันได้แต่นั่งร้องไห้เมื่อรู้ความจริง จนต้องหนีกลับบ้านเพื่อที่จะเลิกกับเขา แต่สุดท้ายเขาก็ไปหย่าขาดกับภรรยาเก่าแล้วตัดสินใจมาขอฉันแต่งงานในที่สุด ฉันก็สบายใจนะที่เขาเลือกฉัน แต่มันก็ยังมีระแวงตลอด เพราะเขาเป็นคนมีสังคมเยอะ จนบางครั้งเขาไปกินเลี้ยงกับเพื่อนปล่อยฉันนอนรอที่โซฟาก็บ่อย แต่ฉันก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้หรอก เพราะฉันเข้าใจว่าเขาคงเหนื่อยกับงานก็ปล่อยเขาให้มีความสุขบ้าง ผ่านไป2ปีที่เรายังรักและเข้าใจกันดีมาตลอด

วันนี้เป็นวันเกิดของเขา เป็นธรรมดาที่ภรรยาอย่างฉันจะต้องจัดงานเลี้ยงที่บ้านให้สามี ชวนเพื่อนที่ทำงานเขามา วันนั้นทุกคนเมาจนหลับที่บ้านฉัน ฉันก็ดูแลพวกเขา แต่ที่แปลกคือฉันเห็นเพื่อนเขาคนนึงเป็นผู้หญิงและมาคนเดียว เขาเมาจนขาดสติฉันเลยพาเขาไปนอนในห้องของฉัน เก็บกระเป๋า โทรศัพท์ และแม้กระทั่งเดินไปล็อครถที่จอดอยู่หน้าบ้านให้โดยไม่คิดอะไร คืนนั้นสามีฉันนอนกับเพื่อนๆของเขาตรงโซฟา ฉันเลยต้องนอนกับเพื่อนผู้หญิงของเขาสองคน ประมาณตี2 ฉันเห็นรู้สึกตัวเห็นแสงสว่างจากไฟโทรศัพท์เลยหันไปดู เห็นผู้หญิงคนที่นอนข้างๆฉันกำลังแชทคุยกับใครสักคน แต่ที่ต้องตกใจคือ คำว่า *ใกล้กันแค่นี้ยังไปกอดไม่ได้เลย* ใช่ค่ะ เขากำลังคุยกับสามีของฉันอยู่ ฉันได้แต่นิ่งและนอนไม่หลับจนเช้า วันต่อมาเขาก็ทำตัวปกติ ผิดกับฉันที่เริ่มสงสัยเขาหลายๆอย่าง ทุกอย่างที่ฉันสงสัย เชื่อมั้ยว่า มันจริงเสมอ เขาแอบไปหาผู้หญิงคนนี้ตลอด เกือบทุกวันเลยก็ว่าได้ ฉันเริ่มทะเลาะกับเขาทุกวัน แต่ทุกครั้งที่โกรธ จะต้องเป็นฉันที่หายเอง ช่วงนั้นเลยคิดหางานทำค่ะ เพราะคิดเลยว่าเราคงหวังพึ่งเขาคงไม่ได้แล้ว ความเชื่อใจความไว้ใจมันลดน้อยลง ปีที่3ที่อยู่ด้วยกัน เขาเริ่มไปราชการต่างจังหวัด ไปทีเป็นปีแต่เขามีวันหยุดทุกเดือน เดือนนึงหยุด10 วันเขาก็กลับบ้านมาหาฉัน แต่ช่วงนั้นรู้สึกว่าพอเราเริ่มห่างกันทุกอย่างมันก็เริ่มไม่เหมือนเดิม แต่ก็เหมือนอยู่ๆไป เข้าปีที่4 เขากลับมาประจำการที่นี่ เราก็ได้ลองคุยกันและปรับความคิดหลายๆอย่างอีกครั้ง เหมือนมันกำลังจะไปได้ดี มีผู้หญิงคนนึงโทรเข้ามาหาฉันแล้วบอกว่าเขาท้องกับสามีฉัน ทั้งเสียงร้องไห้ดังจนฉันไม่ได้ยิน ฉันอื้อไปหมดไม่รู้ว่าจะต้องทำไงดีคิดไม่ออกเลยตอนนั้น พอวางโทรศัพท์ฉันเลยตัดสินใจคุยกับสามีว่าถ้าเขาท้องจริงฉันจะรับลูกเขามาเลี้ยงเองได้ไหม แต่ถ้าจะให้ฉันเลิกกับคุณฉันคงทำไม่ได้ สามีได้แต่กอดฉันแล้วร้องไห้ ฉันทำใจอยู่นานเหมือนกันกว่าจะยอมรับเรื่องนี้ได้ ผ่านไป3เดือนฉันโทรไปถามข่าวผู้หญิงคนนั้นเขาบอกกับฉันว่าเขาไปทำแท้งมาแล้ว ฉันช็อคกว่าตอนที่เขาบอกว่าท้องซะอีก ฉันสงสารเขามากฉันพยายามที่จะช่วยเหลือเขาแต่เขากลับปฏิเสธฉันทุกอย่าง แต่เขาก็หายไปจากชีวิตฉันกับสามีด้วยดี หลังจากนั้นฉันกับสามีก็ได้แต่เข้าวัดทำบุญกันมาตลอด ผ่านเรื่องราวปัญหามามากมาย จนถึงปีที่5 ไม่มีใครคิดหรอกว่ามันจะเป็นปีสุดท้ายที่เราจะได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ปีนี้เขาก็ได้ไปราชการอีก แต่คราวนี้ไปไกลถึงภาคใต้ แต่ไม่ใช่เพราะความห่างเลยที่จะเป็นอุปสรรคกับฉัน เราต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ฉันเริ่มกลับมาเชื่อใจ และไว้ใจกันอีกครั้ง....

ผ่านไป ช่วงวันที่ 5 มิถุนายน วันนี้เป็นวันที่ฉันดีใจมากเพราะฉันกำลังได้รับข่าวดี *ฉันท้อง* ฉันกำลังจะมีลูกกับเขา เรากำลังจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว ฉันดีใจมากที่ฉันกำลังจะเป็นแม่คนแล้ว ฉันตื่นเต้นไม่รู้จะบอกสามีแบบไหนถึงเซอร์ไพรส์เขา วันนั้นฉันตัดสินใจที่จะไปหาเขาถึงภาคใต้เพื่อไปบอกเรื่องนี้กับเขา ฉันยิ้มมีความสุขตลอดการเดินทางไป ถึงแล้วจังหวัดนราธิวาส นั่งรถเข้าไปในค่ายทหารอีก บอกแล้วระยะทางไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉันเลย ถึงหน้าค่ายฉันก็ถามทหารที่เฝ้ายามอยู่แถวนั้นว่าบ้านพักเลขที่นี้อยู่ตรงไหน เขาก็บอกให้ฉันเดินเข้าไปเลี้ยวขวาบ้านหลังที่2ก็เจอแล้วครับ พอถึงหน้าบ้านช่วงนั้น ประมาณ 2 ทุ่มได้ ฉันเห็นเขานั่งดื่มกับเพื่อนอยู่หน้าบ้านประมาณ3คน ฉันเดินตรงเข้าไปหาเขา ทันทีที่เขาเห็นหน้าฉันเข้าอึ้งไปเลยคงไม่คิดว่าฉันจะมาถูก ฉันบอกว่าฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ ยังไม่ทันได้บอกฉันก็มองไปเห็นว่าบนห้องเหมือนมีผู้หญิงอยู่ ฉันเลยถามเขา แต่เขากลับไม่ยอมพูดอะไร ฉันเลยต้องเดินขึ้นไปดูเอง นั่นแหละค่ะ เขามีคนอื่นอยู่ด้วย จะใครที่ไหนล่ะ ก็เพื่อนที่ไปนอนบ้านฉันเมื่อตอนวันเกิดนั่นแหละ เขาตามมาอยู่ด้วยกันถึงที่นี่เลย คราวนี้เขาไม่หลบๆซ่อนๆแล้วนะ มีเอาใบทะเบียนสมรสโยนใส่หน้าฉันด้วย บอกว่าเขาจดทะเบียนกันถูกต้องตามกฎหมาย ยื่นคำขาดให้ฉันเลิกกับสามีให้เด็ดขาด น้ำตาอาบแก้มค่ะช่วงนั้น กะว่าจะมาเซอร์ไฟรส์เขา กลับเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าอีก ทั้งเจ็บ ทั้งอายมาก เดินออกมาจากบ้านหลังนั้นมานั่งสงบสติอารมณ์สักพัก นั่งคุยกับสามีถามว่าจะเอายังไง เขาตอบฉันว่า เขารักผู้หญิงคนนั้นมาก ลืมไม่ได้มาตลอดเวลาที่อยู่กับฉัน เขาขอโทษและบอกกับฉันว่าขอเลิกกับฉันได้มั้ย ฉันอึ้งไปแปปนึงแล้วบอกกับเขาว่า ที่ผ่านมาฉันให้โอกาสเขามาตลอด แต่ครั้งนี้ฉันขอโอกาสได้ไหม ขอโอกาสให้เรากลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง เพราะตอนนี้ฉันกำลังจะมีลูกกับเขา และวันนั้นฉันก็ได้เห็นน้ำตาเขาอีกครั้ง ไม่รู้หรอกค่ะมันอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ไม่คิดเหมือนกันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เขาบอกว่ารักฉันมาก วันนี้เขาจะจากเราไปเพื่อที่จะไปใช้ชีวิตกับคนอื่น ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรรั้งเขาไว้ได้ค่ะแม้แต่คนที่กำลังจะเกิดมา เป็นเลือดเนื้อของเขาแท้ๆ เขายังทิ้งไปได้เลยค่ะ สุดท้ายฉันก็ใจแข็งเดินทางกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม แต่ที่คงต้องมากขึ้นเพราะต้องทำหน้าที่ของคุณแม่มือใหม่ด้วย เราได้เลิกลากันไป ฉันจบกับเขาด้วยดีนะ ไม่เรียกร้องอะไรเลย แม้แต่ค่าเลี้ยงดูลูก แค่ตอนนั้นฉันมีหน้าที่การงานที่มั่นคงฉันก็ดูแลตัวเองและลูกได้ค่ะ ฉันยังใช้ชื่อพ่อของลูกเป็นชื่อเขาค่ะและเขาก็ยินดี ฉันไม่ได้อะไรจากเขามาเลยนอกจากนามสกุลให้ลูกค่ะ เพราะอย่างว่าแหละฉันไปอยู่กับเขาแต่ตัว ฉันก็ต้องเดินออกมาแต่ตัวเหมือนกัน และหลังจากนั้นฉันก็ไม่เคยติดต่อเขาไปอีกเลย ตัดหายไปจากชีวิตเลยค่ะ จนฉันได้ยินข่าวเขาอีกทีเขาก็หย่าและเลิกลากับผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว แล้วพยายามกลับมาหาฉัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันทำให้ฉันเรียนรู้อะไรมากมายทบทวนสิ่งที่เขาทำให้เราเจ็บช้ำมาตลอด อ้อ เราได้ลูกสาวค่ะ เรามีเวลาอยู่กับลูกไม่กี่เดือนก็ต้องกลับมาทำงานต่อ ส่วนลูกแม่เราก็เลี้ยงที่บ้านเราค่ะ เป็นที่รักของทุกคน เป็นเด็กน่ารัก และที่สำคัญแม่ไม่เคยโกรธหรือโทษเราเวลาที่เราเคยทำผิดพลาดเลย กำลังใจล้วนๆเลย หลังจากนั้นเราก็ใช้ชีวิตเป็นซิงเกิ้ลมัมมาตลอดเลย.....

ผ่านมา3ปีแล้วที่เราเลิกกัน เท่ากับอายุกับลูกสาวที่กำลังเข้าเตรียมอนุบาล ภายใน3ปีที่เลิกกันเขาพยายามติดต่อกับฉันตลอด ขอคืนดี พยายามมาเจอที่ทำงาน โดยนิสัยฉันแล้วเป็นคนให้อภัย ไม่คิดโกรธเคืองเพราะเวลามันผ่านไปแล้ว ปัจจุบันฉันยังคุยกับเขาปกติ แต่คงเป็นในฐานะแค่คนรู้จักเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ ชีวิตตอนนี้ก็แฮปปี้ดีค่ะมีคนอื่นเข้ามาบ้างแต่ก็ยังไม่อยากมีชีวิตคู่ หรือยังกลัวอันนี้ก็ยังไม่แน่ใจ555555

///เรื่องราวชีวตของแต่ละคนมีทั้งดีและร้ายผ่านเข้ามาทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะเก็บเอาความสุขและก้าวผ่านเรื่องร้ายๆกันไปได้ยังไง สู้ๆนะคะและเป็นกำลังใจให้กับทุกคู่นะคะ และอีกอย่างเป็นกำลังใจให้ตัวเองและคนโสดทุกคนด้วยค่ะ



บทความแนะนำ


มาร์เวลซูเปอร์ฮีโร่ศัตรูบัตรประจำตัวผู้นำที่ดีศักดิ์ศรีเที่ยวต่างประเทศJurassicWorldที่เที่ยวสถานีรถไฟในญี่ปุ่นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก