มีใครเคยมาคิดได้ทีหลังไหมครับว่า เสียสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าเงินมากมายไป โดยให้ความสำคัญต่อสิ่งนั้นผิดตลอดมา

อ่าน 14,414

ตอนนี้ผมอายุย่าง 25 ปีครับ ได้คิดเรื่องนี้ระหว่างเดินทางมาทำงานมาสักพักแล้ว ผมยังนึกถึงเรื่องราวเมื่อก่อนทุกวัน ทั้งที่อายุของผมยังถือว่าไม่มากด้วยซ้ำ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ผมยังเรียนมหาวิทยาลัย ผมผ่านเรื่องรักเรื่องชอบพอกับคนอื่นมาพอสมควร แม้จะมีบ้างที่สมหวัง ผิดหวังแต่ก็ไม่เคยเสียใจอะไรมากมาย จนกระทั่งผมได้รู้จักกับแฟนเก่าของผมครับ ถ้าจะให้บอกคือเป็นคนที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยมีแฟนมา

ตั้งแต่ได้คบกับคนๆนี้ บวกกับเป้าหมายตอนเด็กของผมอยู่แล้ว ผมจึงมุ่งมั่นทำสิ่งต่างๆให้ครอบครัว และแฟนของผมภูมิใจ ผมพยายามในทุกเรื่อง ทั้งเป็นเด็กกิจกรรมที่มีคนรู้จัก ประกวดออกแบบชิงเงินรางวัล การเรียนก็ต้องดี ทำอะไรก็ต้องดีทุกอย่าง ประมาณว่า Perfectionist ครับ แต่ความจริงแล้วผมแทบไม่เคยรู้เลย ว่าแฟนผมต้องการให้ผมเป็นแบบนั้นจริงๆหรือไม่

ผมมักจะมีปัญหากับแฟนช่วงแรก เมื่อต้องการจะดีในทุกเรื่อง เวลาของผมที่ให้กับแฟนก็ลดน้อยลงตามมาครับ ความเครียดมากขึ้น ไม่ได้ดูแลตัวเอง ต่อมาแฟนผมเรียนจบก่อนผม เพราะคณะผมเรียน 5 ปีครับ หลังจากเรียนจบแฟนผมต้องรีบทำงาน เพราะเขาบอกว่าที่บ้านเขาธุรกิจมีปัญหา เงินทุนบางทีหมุนเวียนไม่ทัน ทำให้ผมอยากรีบเรียนจบมาช่วยเขาใจจะขาด

เมื่อต้องการเงินที่มากขึ้น สำหรับผู้หญิงแล้ว หนึ่งในอาชีพที่อายุน้อยสามารถหาเงินได้มหาศาล คงไม่พ้นการเป็น แอร์โฮสเตส ตอนนั้นผมค้านหัวชนฝา เพราะความคิดเด็กๆที่ว่า อยากจะเป็นคนหาเงินมาช่วยเธอเอง อยากเป็นผู้นำ เพื่อไม่ให้เธอต้องลำบาก และไม่อยากเจอกันน้อยลง ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้ทะเลาะกันหนักขึ้นครับ

ผมพยายามหาลู่ทางที่คิดว่าจะหาเงินได้อย่างหนัก ทั้งที่ยังเรียน และมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอยู่ จนสุดท้ายก็ไม่ไหวครับ ต้องยอมให้แฟนไปตามหนทางของเขาเอง แต่แอร์ไม่ได้ผ่านง่ายๆ ทำให้เธอได้งานด้านโรงแรมไปก่อน ผมถือว่ายังทำใจได้มากกว่าแอร์ เพราะส่วนหนึ่งผมยังเดินทางไปหาไปเจอได้ง่ายกว่าครับ

ชีวิตช่วงหลังจากนี้ เหมือนผมจะมองแต่เป้าหมาย คิดว่าถ้าทำงานมีเงิน คงดูแลเธอได้ดีขึ้น จนค่อยๆหลงลืมความสุขเล็กน้อยแบบคนธรรมดา จากการที่ได้เคยกินข้าวร้านธรรมดาด้วยกัน แชร์ค่าอาหารด้วยกัน วิ่งหลบฝน ช่วยกันทำกิจกรรม ไปเที่ยวด้วยกัน เดินไกลๆไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องเกรงใจว่าอีกฝ่ายจะเหนื่อย ความติดดินอีกมากมาย ความสบายใจตอนอยู่ด้วยกันสมัยยังเรียน ผมลืมไปจนหมด คิดแต่ว่าจะหาเงินยังไงให้เธอสบาย เพื่อเธอจะได้กลับมาเป็นเด็กขี้อ้อน ขี้งอแง ของผมอีกครั้ง

ปรากฏว่าผมคิดผิดมหันต์ จนสุดท้ายกลายเป็นว่า ผมกับเธอเริ่มห่างกันมากขึ้น ความคิดเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ขณะที่ผมยังมีความคิดแบบเด็กๆ ผมจะไม่พอใจถ้าเธอจะบอกผมเวลาผมทำผิด ว่าทำอย่างนั้นไม่ดี ทำอย่างนี้ไม่ได้ อีโก้ทำลายความรักของผมจนหมด เวลาเธอนัดไปดูหนัง ผมก็มักจะไม่ว่าง เพราะเห็นว่างานที่รับมาสำคัญกว่า ต้องรีบทำเพื่อจะได้เงินไวๆ ทั้งที่ไม่ฉุกคิดเลยว่าเธอก็มีงานทำเช่นเดียวกัน เธอยังเจียดเวลามาหาผมได้ ยังมีปัญหาทะเลาะกันอีกมากมายเท่าที่คนคบกัน 2 คนจะมีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเธอหมดความอดทน และเราต้องเลิกกันแบบไม่ทันตั้งตัว ในวันที่ผมเพิ่งเริ่มได้งานที่ทำประจำหลังเรียนจบไม่กี่วัน ซึ่งผมพยายามรั้งเธอไว้แล้ว แต่เพราะเธอให้โอกาสผมมาหลายครั้งแล้ว จนในที่สุดมันก็หมดแล้วจริงๆ

ผมยังโง่อยู่และคิดว่า ถ้าวันหนึ่งมีเงินมากๆ ผมคงจะมีเวลาไปหาเธอ กลับไปทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นอีกครั้ง ผมมี connection พอสมควรทำให้ผมนอกจากมีงานประจำทำแล้ว ยังเป็น outsource ทำงานประจำให้กับหลายๆที่ และขายภาพstock จนมีรายได้สูงพอสมควร และเริ่มลงทุนในหุ้น ซึ่งผลตอบแทนก็ค่อนข้างน่าพอใจ แต่นั่นมันก็เป็นคนละเรื่องกับการได้กลับไปคบกันอยู่ดี เพราะเธอไม่ได้หมดรักผมเพราะเงิน

ทุกวันนี้เธอมีคนดูแลคนใหม่ ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นคนที่ดี มอบสิ่งที่เธอต้องการได้มากกว่าผม ในขณะที่ผมยังมีแรงทำงาน และหาเงินเกินรายจ่ายไปมากแม้จะให้พ่อแม่ไปบ้างแล้ว ผมมีรถ ผมมีบ้าน ผมออมเงินไปลงทุนในหุ้นได้ถึง 80% ของรายได้ เพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ผมถือว่าผมค่อนข้างสบายเมื่อเทียบกันคนทั่วไป แต่ผมก็ยังรู้สึกได้ถึงความไม่สมบูรณ์ในชีวิต

ผมออกเดทกับหลายคน เพื่อหาสิ่งมาเติมกับความไม่สมบูรณ์นี้ ผมเลี้ยงค่าต่างๆกับคู่เดท ได้โดยไม่เดือดร้อน ผมไม่เคยเสียดายเงิน แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ความรู้สึกตอนที่หาอะไรกินง่ายๆ แชร์ค่านู่นค่านี่แม้จะเป็นของราคาถูก ผ่านความลำบากในวัยนั้นมาด้วยกัน ของขวัญhandmadeราคาไม่แพงที่ใช้ใจทำและมอบให้กันในวันสำคัญ จะกลับมาอีกแล้ว เรื่องไร้สาระมากมายที่เคยทำตอนนั้น กลับมีความสุขมากกว่าการวางตัวเป็นคนที่มีแบบแผนในการใช้ชีวิตในตอนนี้ซะอีก และผมยังทำใจชอบใครจริงๆไม่ได้อีกเลย แม้ผมรู้ว่าชีวิตยังต้องเจอคนอีกเยอะ แต่ผมเข้าใจตัวเองดีว่า ผมได้สร้างบรรทัดฐานให้กับตัวเองไปแล้ว

ผมแทบไม่ได้คุยกับแฟนเก่าแล้ว เพราะเธอมีคนดูแล ตอนนี้ผมยังเฝ้ามองชีวิตเธออยู่ห่างๆ เจ็บบ้างเป็นบางครั้ง แต่ผมเลือกที่จะดู และพยายามเข้าใจในความผิดพลาดครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตของผม เธอเป็นคนที่ฉลาด มีไหวพริบ นั่นทำให้ผมรู้ว่าในอนาคตชีวิตของเธอไม่ลำบากอย่างแน่นอน

ส่วนตัวของผมในตอนนี้เข้าใจแล้วว่า เงินทอง โปรไฟล์ที่ดี นั้นสำคัญ แต่ไม่เคยสำคัญเท่ากับการใช้เวลาช่วงที่อยู่กับคนสำคัญให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ผมเสียอนาคตกับคนๆนี้ที่อยากใช้ชีวิตด้วยไปอย่างต่ำ 30 ปี แต่ผมต้องมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อตนเอง เพื่อครอบครัว แม้มันจะเป็นชีวิตที่ไม่มีทางจะสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกแล้ว ผมจึงตั้งเป้าหมายใช้ชีวิตที่เหลือให้อยู่ในทางสายกลาง และมีสติในทุกๆวัน โดยไม่ลืมคนรอบข้างที่ยังดีกับเรา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก

อยากทราบว่ามีท่านใดเคยมีความรู้สึกเสียดายสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าเงิน แล้วพึ่งมาคิดได้ตอนสายไปมั่งไหมครับ แล้วหลังจากนั้นเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ^^



บทความแนะนำ


ความห่างเหินขาดความอดทนสนใจฟ้าผ่าตะขอชุดชั้นในข่าวจังหวัดปทุมธานีsmartphoneสมาร์ทโฟนทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก