พฤติกรรมของคนรักที่เห็นแก่ตัว ใช่คุณหรือเปล่ามาดูกัน !
ส่วนใหญ่ต่างมีความเชื่อว่าความรักก็
คือการเสียสละหรือยอมทำทุก ๆ อย่างเพื่อให้คนคนหนึ่งมีความสุขมากที่สุด
แต่บางครั้งสิ่งเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นความเห็นแก่ตัวได้เช่นเดียวกัน ทั้ง
ที่ทำไปโดยไม่รู้ตัวหรือรู้แก่ใจดีก็ตาม
ซึ่งความเห็นแก่ตัวของเราไม่ว่าจะถูกแสดงออกทางคำพูดหรือการกระทำ
ต่างก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแตกหักได้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เพื่อความรักที่มั่นคงและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
ฉะนั้นเรามาพิสูจน์กันดีกว่าว่าคุณเป็นคนรักที่เห็นแก่ตัวเองหรือเปล่า
และจะสามารถปรับเปลี่ยนความรักให้สมดุลกันได้อย่างไรบ้าง
1. เป็นคนบอกรักยาก
คุณจะรู้สึกมีความสุขมากเวลาที่โดนบอกรัก
และยิ่งคนรักบอกรักบ่อยเท่าไรก็จะยิ่งรู้สึกมีความสุขมากเท่านั้น
แต่ในทางตรงกันข้ามคุณกลับไม่เคยบอกรัก
หรือแทบไม่เคยบอกรักเขากลับไปเลยนับตั้งแต่วันแรกที่คบหากันมา
เพราะคุณอาจจะคิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด
จนอาจจะลืมไปกว่าบางครั้งเขาก็อยากได้ยินคำพูดซึ้ง ๆ
และต้องการให้คุณบอกรักบ้าง
เพื่อความมั่นใจว่าคุณก็รักเขาเหมือนที่เขารักคุณ
2. ไม่ใส่ใจความรู้สึกของเขา
หลายต่อหลายครั้งที่คุณมักจะทำตามใจตัวเอง
และยึดความคิดของตัวเองเป็นหลักอยู่เสมอ
อีกทั้งไม่ว่าคุณจะพูดหรือทำอะไรก็ตามไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
สักเท่าไร เพราะคิดว่าสุดท้ายแล้วเขาก็จะยอมแพ้และเป็นฝ่ายกลับมาหาคุณเอง
ซึ่งแรก ๆ อาจจะเป็นเช่นนั้น
แต่สักวันหนึ่งที่เขาหมดความอดทนแล้วอาจจะเดินออกไปจากชีวิตของคุณโดยไม่รู้
ตัว
ฉะนั้นก่อนจะทำหรือพูดอะไรก็ตามควรคิดไตร่ตรองและคำนึงถึงความรู้สึกของเขา
ไว้ก่อนจะดีกว่า
3. อ้างอาการป่วยทุกครั้ง เมื่อพูดถึงเรื่องที่คุณไม่ชอบ
เมื่อเขาเข้าสู่การพูดคุยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณไม่ชอบหรือไม่พอใจทั้ง
เรื่องส่วนตัวและเรื่องอื่น ๆ คุณมักจะนำอาการป่วยมาอ้าง
เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยในเรื่องนั้น ๆ
หรือไม่ก็จะปฏิเสธคำเชิญชวนเรื่องที่เขาต้องการให้คุณทำอยู่เสมอ
ด้วยเหตุผลส่วนตัวหลาย ๆ ประการ
ซึ่งการทำเช่นนี้บ่อยครั้งเข้าก็อาจจะทำให้เขาคิดว่าคุณเห็นแก่ตัว
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องยอมเขาทุก ๆ เรื่อง
เพียงแค่ตอบรับความต้องการเขาบ้างเมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม และสามารถทำได้เท่านั้นเอง
4. ปล่อยให้เขาเผชิญปัญหาตามลำพัง
คุณไปกับเขาทุกที่และใช้เวลาอยู่กับเขาเกือบตลอดทั้งวัน
ยกเว้นช่วงที่เขาต้องการกำลังใจหรือใครสักคนที่จะรับฟังปัญหาของเขา
โดยคุณอาจจะให้เหตุผลว่าไม่ชอบฟังเรื่องเศร้าหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ความรู้สึกของคุณติดลบ ซึ่งจริง ๆ
แล้วการกระทำหรือความคิดเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิด
แต่อาจจะดูเห็นแก่ตัวไปสักหน่อยหากคุณไม่เคยอยู่เคียงข้างในวันที่เขากำลัง
ทุกข์ใจเลย เพราะหากคิดจะเป็นคนรักกันจริง ๆ
ควรจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างเขาทั้งในวันที่เขามีความสุขและมีความทุกข์
ถึงแม้เราต้องรักตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องยึดความสุขของตัวเองเป็นหลักซะทีเดียว
แต่ควรจะคิดถึงคนข้าง ๆ ด้วย โดยเฉพาะคนรักของคุณ
เพราะความรักที่ดีนั้นควรจะมีสมดุลระหว่างการให้และการรับ
ไม่เห็นแก่ตัวเองมากจนทำให้คนรักรู้สึกอึดอัด คับข้องใจ
หรือเกิดเป็นปัญหาใหญ่โตจนทำให้พวกคุณต้องเลิกรากัน