ถูกแฟนนอกใจสวมเขาโกหกแล้วยังโยนความผิดให้อีก

ณ วันนี้วันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เป็นวันครบรอบที่ทะเลาะกัน 3 เดือน เราสองคนอยู่กันคนละจังหวัดรู้จักกันเพราะเพื่อนเรากับเขาเรียน ป.โทด้วยกันเลยแนะนำให้รู้จักกัน ช่วงคบกันเขาดีกับเราตามตามใจทุกอย่าง เราขี้งอน งี่เง่า เอาแต่ใจยังไงก้อได้หมด (แต่จริงๆเราก้อไม่ได้เอาแต่ใจมากขนาดนั้นหรอก) เวลาทะเลาะกันเขาจะขอโทษเสมอ เพราะเราจะไม่ยอมขอโทษเลยเพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ผิด เราทำงานอยู่โรงเรียนในหมู่บ้านคนละจังหวัดกับเขา โดยตอนแรกเขาเรียน ป.โทและยังไม่ได้ทำงานประจำแค่ช่วยงานที่บ้านบ้าง(แต่สถานที่ทำงานคนละจังหวัดกับบ้าน) เขาจะอยู่บ้านคนเดียว ด้วยความที่เขาทำตัวให้เราไว้ใจ เราก้อไว้ใจมาตลอด ไม่เคยจู้จี้ถามอะไร ระแวงบ้างกลัวเขานอกใจแอบมีคนอื่นแต่เขาก็พิสูจน์ด้วยการทำให้เห็นว่าเขาไม่มีใครนอกจากเรา รักเราและดีกับเรามากจริงๆ เขาเคยบอกว่าเราอยู่ไกลกันแต่จะทำตัวให้เหมือนอยู่ใกล้กันเหมือนอยู่ด้วยกันเขาเคยบอกว่าจะมาเจอกันทุกเดือนอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน และจะโทรคุยกันก่อนนอนทุกวัน เวลาไปไหนมาไหนจะบอกกันว่าไปไหนกับใครถ่ายรูปส่งให้ดูซึ่งเราทำกันทั้งสองฝ่ายโดยที่เขาเป็นคนเริ่มทำก่อนและบอกว่าถึงเราไม่ทำเขาก้อจะทำ เราก้อคบกันจนเขาเรียนจบป.โทและเขาได้เข้าทำงานธนาคารแห่งใกล้กับบ้านเขาซึ่งเขาย้ายไปอยู่กับพี่สาวของเขา ทำให้ระยะทางในการมาหากันไกลมากขึ้นแต่เขาก้อมาหาเราปกติคุยกันปกติ จนเขาทำงานได้เกือบปี เราวางแผนจะแต่งงานกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้และพ่อแม่พี่น้องของฝ่ายชายก้อมาทาบทามที่บ้านฝ่ายหญิงเรียบร้อยตอนช่วงปีใหม่ เราวางแผนจะแต่งงานกันปลายปีนี้ เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ เราสองคนไปซื้อแหวนหมั้นด้วยกัน และคุยกันว่าจะหมั้นกันเดือนมิถุนายน แต่งานหมั้นก้อล่มลงผู้ใหญ่ฝ่ายเราเสียใจมากเหมือนเขามาหลอกเพราะคุยกันไว้แล้ว คนก็รู้กันหมดแล้วว่าเราจะแต่งงานกันปลายปีย้อนไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง เราได้โทรไปหาแม่ของเขาเลยได้รู้ว่าเขากลับบ้านแต่เขาไม่ได้มาหาเราทั้งที่ปกติน่าจะมาหากัน เราเลยโทรหาเขาถามว่าทำไมกลับบ้านไม่บอก เขาบอกว่ากลับแบบรีบๆไปงานศพพ่อของน้องข้างบ้านและรีบกลับบ้านพี่สาวเลยตอนวันเสาร์แต่ที่เราสงสัยทำไมต้องรีบกลับเพราะวันจันทร์ก้อเป็นวันหยุดชดเชยวันแรงงาน เราเลยนึกได้ว่าเพราะเขาคงไม่อยากมาหาเรา ด้วยในช่วงหลังๆมาตั้งแต่เดือนเมษาเราทะเลาะกันบ่อยมากมีปัญหากันบ่อยๆแต่เรารู้สึกว่าเขาแปลกๆเราสงสัยถามไปและชอบคิดเองด้วยทำให้คิดมากและทะเลาะกัน พอมีเรื่องนี้เราเลยโมโหถามว่าเขาทำไมทำแบบนี้ทำไมต้องโกหกเราเพราะเขาบอกเราว่าเขาไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านกับพี่สาวตลอดช่วงหยุด 3 วัน เราจับได้ว่าโกหกเลยเสียใจมาก เราเลยย้อนกลับไปถามเรื่องเก่าตอนวันที่ 8-10เมษา เขาไปเที่ยวกับที่ทำงานแล้วกินเหล้าไม่บอกเราว่ากลับห้องตอนไหนเราก้อเป็นห่วงนะจนบ่าย3ถึงได้ไลน์มาบอกว่าอยู่สวนน้ำเราก้อสงสัยว่าทั้งคืนทั้งวันหายไปไหนเราก้อบอกเที่ยวให้สนุกไม่ได้ว่าอะไร เห็นเราไม่ถามเขาก้อไม่บอกว่าไปไหนมาทั้งคืนทั้งวัน พึ่งจะมาบอกวันนี้ว่ากินเหล้าเมาและแฮงค์ทำไมพึ่งมาบอกก่อนหน้าทำไมไม่บอกเขาเลยว่าแล้วทำไมเราไม่ถามเขาล่ะ เราก้อทะเลาะกันคล้ายๆกับมันเป็นปัญหาสะสมมานานและมีหลายเรื่องพอมันระเบิดมันเลยออกมาหมด เราทั้งคู่ก้อใช้อารมณ์ ปกติเวลาทะเลาะกันเราอารมณ์ร้อนเขาโทรมาเราก้อไม่รับหรือบ้างที่รับแล้วคุยไม่รู้เรื่องเราก็ตัดสายและปิดมือถือพอเช้ามาเราก้อลืมเรื่องทะเลาะกันก้อคุยกันปกติ พอวันนี้เราก้อทำแบบเดิมอีกเขาโทรมาก้อไม่รับแต่วันต่อมาคือวันที่ 6 เขาไม่โทรหาเราเลย เราเลยโทรหาเขาถามจะเอายังไงจะเลิกเหรอเขาก้อไม่ตอบบอกแล้วแต่เราตอนนั้นเราเสียใจมากเราอยากให้เขาบอกว่าไม่อยากเลิกกับเราแต่เขาก้อไม่พูด หลังจากนั้นก้อห่างๆกันไปเราทนสภาพนี้ไม่ไหววันที่ 12 เราเลยไปหาเขาง้อเขา เขาก้อเหมือนจะดีแต่ยังไม่ดีเขาเลยบอกเราว่าขอห่างกับเรา ซึ่งตอนนั้นเรารักเขามากเขาให้เราทำอะไรยอมหมดเขาขอห่างเราก้อให้ห่างเขาบอกไม่ให้เราไลน์หาไม่ให้โทรหาเขาเขาจะเป็นคนติดต่อมาเองเราก้อยอมไร้ศักดิ์ยอมทุกอย่าง เพราะเขาบอกว่าที่เป็นแบบนี้เพราะนิสัยเราเป็นแบบนี้จะอยู่ด้วยกันได้ไหม เราถามเขาว่าเขามีคนอื่นไหมเขาบอกว่าไม่มี แต่พอเราปรึกษาเพื่อนเพื่อนก้อบอกว่าเขามีคนอื่น ตอนนั้นเรายังรับประกันให้เขาว่าเขาไม่มีใคร เราเหมือนคนโง่ตาบอดเชื่อเขาทุกอย่าง จนวันที่26พฤษภาประมาณ5ทุ่มมีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอเป็นเพื่อนกับเราในเฟสตอนเราก้อไม่สนใจประมาณ10นาทีเลยเข้าไปดูโปรไพล์ว่าเป็นใครเลยเห็นว่าเป็นเพื่อนกับเขาเราเลยกดยอมรับเป็นเพื่อนปกติเราเป็นคนไม่สนใจอะไรแต่เหมือนมีอะไรดลใจเราเลยเข้าไปดูเฟสของผู้หญิงคนนั้นและพอเรารับเป็นเพื่อนแล้วผู้หญิงคนนั้นก้อบล็อกเราคงมาเพื่อแสดงตัวให้เราเห็นและทำเราได้ตาสว่างว่าถูกสวมเขาเขาแอบนอกใจเรามานานที่เลิกกันเพราะเขามีคนอื่นและยังมาโยนความผิดให้ว่าเราผิด เขาแอบคุยกับผู้หญิงคนอื่นมาตั้งแต่เดือนมีนาทั้งที่ยังคบกับเราอยู่ ผู้หญิงทำงานร้านเพชรที่เราไปซื้อด้วยกัน ผู้หญิงก็แย่รู้ว่าเขาจะแต่งงานยังมายุ่งด้วยอีก แต่ผู้ชายเองก็ไม่รู้จักพอเห็นในเฟสผู้หญิงบอกว่าไปกินข้าวกับเขาปลอบใจผู้ชายบอกว่าเลิกกับแฟนซึ่งอะไรเรายังไม่ได้เลิกกันแต่เขากลับโกหกว่าเลิกกันเพื่อจีบผู้หญิงคนนั้นและมีไปรับกันไปกินข้าวไปเที่ยวกัน เห็นเห็นแม้ว่าจะไม่ได้ลงรูปคู่แต่ผู้หญิงลงรูปถ่ายคู่รถของแฟนเรา เราจำได้นะและคนถ่ายให้คงเป็นแฟนเราเอง จนวันที่ 1-4 เมษา เราไปเที่ยวภูเก็ตกับคณะครูที่โรงเรียนเรา แฟนเราเขาบอกว่าอยากไปเที่ยวเหมือนกันเห็นเราไปเที่ยวอิจฉา เขาอยากไปไหว้พระที่คิชกุฏจันทบุรี เราเลยบอกว่ารอเรากลับจากภูเก็ตค่อยไปด้วยกันวันเสาร์หน้า เขาบอกว่าไม่ได้เขาจะปิดก่อน เราก็ไม่ว่าอะไรอยากไปไหว้พระก็ไป เขาบอกว่าไปคนเดียวเราก็เป็นห่วงนะแต่เขาบอกว่านัดน้องที่รู้จักที่อยู่จันทบุรีไว้ และไม่ให้เราบอกแม่เขาด้วยว่าเขาไปไหน เราก็ไม่ได้บอก วันศุกร์ที่ 1 เมษาเรานั่งเครื่องไปภูเก็ต เขาก้อเดือนทางไปจันทบุรีบอกว่าไปคนเดียวตอนสี่ทุ่มซึ่งก่อนนั้นเราโทรหาพอประมาณห้าทุ่มเราโทรหาก้อไม่รับเราก้อเป็นห่วงเห็นว่าขับรถคนเดียว จนเช้าเราตื่นมาโทรหาก็ไม่รับ จนประมาณเก้าโมงโทรมาหาเราบอกว่าเมื่อคืนขับรถฝนตกหนักเลยไม่ได้โทรหาเราเราโทรหาก้อไม่ได้ยิน เอาโทรศัพท์ไว้หลังรถทั้งที่ปกติเวลาขับรถจะเอาโทรศัพท์ไว้ที่ขาตลอดแต่วันนี้ไม่ทำเราก็มีแต่เป็นห่วง เราไปภูเก็ตเที่ยวเกาะสิมิลันนั่งเรือไม่มีคลื่นโทรศัพท์ก้อไม่ได้โทรได้ไลน์ กลับห้องก้อเหนื่อยนอนหลับ เราไว้ใจเขามาเห็นว่าไปคนเดียวก้อเชื่อเพราะเขาเคยอยู่คนเดียวมาตลอดเพื่อนสนิทก้อไม่มี สุดท้ายความจริงเปิดเผยว่าแอบไปกับผู้หญิงอีกคน เพราะผู้หญิงคนนั้นไปเขาคิชกุฏวันเดียวกันมีอะไรเชื่อมโยงกัน ผู้หญิงกับผู้ชายไปเที่ยวกันสองคนไปด้วยกันมีเหรอจะนอนคนละห้อง และสุดท้ายที่เราเสียใจคือเขาเอาผู้หญิงไปนอนบ้านเขาผู้หญิงถ่ายรูปห้องเขาลงเฟส เราจำห้องจำผ้าปูเตียงได้ พอเราจับได้ถึงได้ยอมรับ ทั้งที่ตอนแรกเราถามว่ามีคนอื่นก็ปฏิเสธตลอด ตอนแรกที่เลิกกันเราบอกเขาว่าจะรอเขาถ้ายังไงก้อให้เขากลับมาเพราะว่ารักเขามากจะคิดว่าชีวิตขาดเขาไม่ได้ พอมาวันนี้เราทำใจและเข้มแข็งขึ้นอยู่ได้เมื่อไม่มีเขาเขาเห็นว่าเราเข้มแข็งเลยกลับมาคุยกับเราและเขาบอกเลิกคุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว เราขอให้เขาเปลี่ยนรูปประจำตัวเฟสเพราะเรารู้สึกว่ารู้ที่เขาใช้เป็นรูปที่ผู้หญิงคนนั้นถ่ายให้เขาตอนไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เขาบอกว่าเขาไม่ได้สนใจเราเลยว่าแปลว่ายังคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่เห็นเป็นเพื่อนกันในเฟส เขาเลยบอกว่าไม่ได้เป็นแล้วผู้หญิงคนนั้นบล็อกเขาไปแล้ว เราถามว่ารู้ได้ไงทำไมเราเห็นว่าเป็นเพื่อนเขาเลยบอกว่าเขาเข้าไปค้นชื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เพราะถูกบล็อกจริงๆคงยังอยากคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่ผู้หญิงคนนั้นเลิกกับเขาเองไม่ใช่เขาเป็นคนเลิก เราเลยรู้สึกว่าที่กลับมาคุยกับเราเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่เอาเขาแล้วรึเปล่า เพราะเขาไม่มีใครถึงได้กลับมาหาเราซึ่งเราเองเป็นคนบอกว่าจะรอเขาเอง แต่คำพูดที่เขาพูดกับเราแต่ละคำเราฟังแล้วเศร้ามาก เหมือนเขาจะคอยโทษเราว่าที่ทะเลาะกันเป็นเพราะเรานิสัยไม่ดีเขาเลยไปคุยกับคนอื่น เรารู้สึกว่าเขามองเห็นแต่ความผิดของเราแต่เขาไม่มองเห็นความผิดของเขาเลย เขาไม่รู้สึกอะไรเลยที่นอกใจเราไม่เสียใจที่ทำแบบนี้กับคนที่บอกว่ารักกันเลย สิ่งที่เขาทำไม่เคยคิดถึงใจเราเลย ที่สุดเขาบอกว่ารักเราน้อยลง เขาบอกว่าคุยกับคนนั้นด้วยแล้วรู้สึกดีในขณะที่คุยกับแฟนแล้วมีแต่ปัญหาและทะเลาะกัน แต่เขาก้อไม่เคยบอกเราว่ายังไงไม่ให้โอกาสเราได้ปรับความเข้าใจกันก่อนแต่เขาเลือกจะปล่อยมือเรา ทิ้งในเราอยู่ในบ้านหลังเดิมที่มีแต่ขยะที่เราทั้งสองทิ้งกันไว้ให้เราเก็บกวาดขยะนั้นคนเดียวแต่เขาทิ้งเราไปเพราะมีคนอื่นในขณะที่เราทุกข์สาหัสเขากับมีความสุขอยู่กับผู้หญิงคนอื่นในขณะที่เราร้องไห้เขากลับหัวเราะร่าเริงอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ตอนนี้เราเคลียร์บ้านแล้วเอาขยะที่เราทำไม่ดีออกเรารู้ว่าเราไม่ดีตรงไหน นิสัยแย่ส่วนไหนซึ่งเราก้อได้มองเห็นและปรับปรุงตัวเอง แต่เขาล่ะเคยเห็นความผิดที่ตัวเองทำไมมีแต่โทษให้คนอื่น ความผิดคนอื่นเล็กน้อยมองเห็นแต่ของตัวเองทำมองไม่เห็นไม่มีการสำนึกบ้างเหรอ ที่เราบอกว่าให้โอกาสที่บอกว่ารอแต่เราก้อต้องการคนดีนะถามกลับมาแล้วแย่อย่ากลับมามันเสียใจกันเปล่าๆ เราไม่ใช่ของตายเรามีค่าของเราเหมือนกัน เขาอยากให้เรารักตัวเองมากขึ้น ตอนนี้เราจะรักตัวเองให้มากที่สุดความรักที่เคยให้ไปเราจะเอากลับมารักตัวเราเอง เขาชอบผู้หญิงแบบนั้นก็คงปล่อยเขาไปคนที่ยังไม่เป็นอะไรกันผู้ชายชวนไปเที่ยวก้อไปสองคนและชวนไปนอนบ้านก้อไปทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เราก้อดีในระดับหนึ่งเมื่อเขาไม่เห็นค่าเราเราก็ต้องเห็นค่าตัวเราเอง ตอนนี้ได้แต่บอกให้ตัวเองรักตัวเองรักพ่อแม่ให้มากๆ ไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจอีก แค่คิดว่าเราเสียคนไม่รักดีไปแค่นั้นเอง เพราะคนดีๆเขาคงไม่ทำแบบนี้หรอก