5 ความต่าง ของผู้ชายออนแอนด์ออฟ กับผู้ชายรักจริง แต่ take it slow

ไม่ใช่ทุกความสัมพันธ์จะเดาง่าย เป็นแพทเทิร์นเบสิคๆ แบบแฟนกันทั่วไป

บางครั้งเราก็เจออะไรแปลกๆ ที่ก็ไม่แน่ใจว่าแย่

หรือมันแค่ไม่เหมือนคู่คนอื่นเขา ?นานขนาดนี้แล้ว

ทำไมยังไม่เป็นแฟนกันซะที!? ถามตัวเองอยู่ได้ทุกวัน แต่เราขอบอกว่า

การที่ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนอยู่ตอนนี้ มันก็ไม่ได้แปลว่าแย่เสมอไปนะ

#1 เขาเข้ามาแบบเพื่อน หรือรุกจีบเรารัวๆ

ผู้ชายออนแอนด์ออฟ

: เขาแอดไลน์มา แล้วคุยไม่หยุดเลย ชั่วโมงสองชั่วโมงแรก ชมเราน็อนสต๊อป

ดูหลงเรามากๆ ไปกินข้าว ดูหนังด้วยกัน 3-4 ครั้ง ซักพัก

ผู้ชายรักจริง แต่ take it slow! :

จะเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเป็นเพื่อน เรียบง่าย น่ารัก ค่อยๆ

ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างด้วยความอ่อนโยน

ไม่ได้ไปรับไปส่งเราตลอดเวลาในช่วงแรกที่เข้ามาสนิทกัน แต่ไม่ว่าเราจะไปไหน

#2 ให้เกียรติเราเสมอ หรือโทษเราตลอด

ผู้ชายออนแอนด์ออฟ :

ทุกครั้งที่มีเรื่องให้ทะเลาะกัน เขาจะเอาแต่หาว่าเราน่ะเยอะ คิดมากไป

วุ่นวายจัง บลาบลา ไม่เคยมีซักวินาทีที่จะหันมาดูตัวเองหน่อย

ว่าพฤติกรรมเนี่ย มันเหยียบหัวเราเกินไปมั้ย โอบเราโชว์เพื่อนเขาซะขนาดนั้น

แต่ก็นัวเลเวล 8.9 กับหญิงอื่นให้เราจับได้ตลอด

เมาเมื่อไหร่กลับบ้านคนเดียวไม่เป็นหรอก ขอจิ๊กสาวใหม่กลับด้วย

ผู้ชายรักจริง แต่ take it slow! :

สิ่งไหนที่ควรเก็บเป็นความลับ

เขาก็ไม่เคยเอาไปป่าวประกาศให้เพื่อนเขาที่ไหนฟัง

อาจมีบางครั้งที่เขาลึกซึ้งกับเราเกินเพื่อน แต่เราจะรับรู้ได้เลย

ว่าไม่ใช่เพราะเขาอยาก take advantages จากเรา แต่มันมาจากความรู้สึกดีๆ

พิเศษที่มีให้กัน แล้วเขาก็ไม่ไปนั่งโชว์ใคร

#3 อยู่ด้วยแล้วอบอุ่นใจ หรือตึกๆๆ ฟุ้งซ่าน

ผู้ชายออนแอนด์ออฟ : เราอยากจับมือกับเขา เพราะวินาทีนี้อยากครอบครองเขาไว้กลัวจะหลุดไปไหน

นั้นก็เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรให้เรารู้สึกไว้ใจพอ

ว่าเวลาที่ไม่ได้อยู่กับเรา เขาไม่ได้ไปทำอะไรวาวาวู้มกับสาวอื่นที่ไหน

เมื่อไลน์เขาเด้งขึ้นมา ใจเต้นรัว กลัวไปหมด แอบคุยกับใครใช่มั้ยบอกมานะ

ผู้ชายรักจริง แต่ take it slow! : เราอยากจับมือกับเขา เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้รู้สึกได้แต่ความอบอุ่นใจ

เวลาเรามีเรื่องไม่สบายใจ เขาเนี่ยแหละ ที่เป็นห่วงและรับฟัง

ปลอบเราเวลาเราฟรีคเอ้าท์ ทำให้เราเชื่อใจว่า ในชีวิตนี้ คนๆ

#4 เช็คประวัติเขาสิคะ รออะไร

ผู้ชายออนแอนด์ออฟ :

มี?ชื่อเสีย? มากกว่า?ชื่อเสียง? รึเปล่านะผู้ชายคนนี้ โอ้โห

แมงเม่ากระซิบกันพรึ่บ ว่าเขาน่ะโฉบเฉี่ยวผู้หญิง มือไวขนาดไหน

สามเดือนที่ผ่านมา หักอกผู้หญิงมาแล้วกี่คน (หักอกในที่นี่

ไม่ได้หมายถึงบอกเลิกแฟน แต่ทำผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

เฮิร์ธมาแล้วกี่คน!) ก็ไม่ได้บอกว่า ความเจ็บนี้จะเกิดขึ้นกับเรา

ผู้ชายรักจริง แต่ take it slow! : ถ้า

ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาแต่ละครั้งของเขา เป็นคนช้าๆ แต่ชัวร์

ต้องรอให้มั่นใจก่อนเป็นปีค่อยเรียกคนนี้ว่าแฟน

นั้นแปลว่าเขาจริงใจและจริงจังกับความรักระดับหนึ่งเลยนะ

เขาแค่อยากมั่นใจในเราทั้งคู่ เพราะอยากให้ความสัมพันธ์ไปได้นาน

#5 สุดท้ายคือ เราสัมผัสถึงเหตุผลการกลับไปกลับมาของเขาได้มั้ย

ผู้ชาย

สองแบบนี้ อาจมีหนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน คือบางทีเขาอาจหายไป เฟดออก

และก็จะกลับมาใหม่ แต่เหตุผลลึกๆ ในใจที่เขาทำแบบนี้ มันคนละอย่างกันนะ

ผู้ชายออนแอนด์ออฟ :

เขาหายไป เพื่อขอใช้ชีวิตลั้นล้า เบื่อเราชั่วคราว ซักพัก

ไม่มีใครอยู่แล้วสบายใจเท่าเรา เลยกลับมาซบอก ทำตัวหงิงๆ ง้อใส่

แต่ไม่ได้มานั่งชดใช้ ความรู้สึกที่เขาทำให้เราทรมานใจ

ตอนเขาหายไปและเรารู้ว่าเขาออกไปกิ๊กกั๊กกับผู้หญิงหน้าไม่ซ้ำตอนนั้นหรอก

ผู้ชายรักจริง แต่ take it slow! :

มันอาจมีบางช่วง ที่เราเรียกร้องขอความชัดเจนในความสัมพันธ์นี้มากเกินไป

มันไม่ใช่แค่เขาลำบากใจนะ แต่เขาก็ไม่อยากทำให้เราต้องเจ็บ

เพราะความรู้สึกเขามันยังมาไม่เท่ากัน แต่ มันไม่ได้หมายความว่า

ชีวิตนี้ความรักของเราทั้งคู่จะไม่มีทางเท่ากันและไม่มีวันไปกันได้เลย

เขาเลยขอหายไปด้วยความหวังดี เพราะอยากให้เราเจอคนที่ใช่ และอาจกลับมาใหม่

เมื่อพายุเฮอร์ริเคนในใจเราเย็นลง พร้อมเริ่มศึกษากันใหม่อีกครั้ง

อยู่กับคนแบบนี้ต้องทำใจ มันจะไม่หวือหวาโชว์ออกสื่อตล๊อดเหมือนคู่อื่น

มันอาจดูลับๆ และครุมเครือหน่อย แต่สิ่งที่มั่นใจคือ

อย่ายึดติดกับแพทเทิร์นความสัมพันธ์ของใคร

แล้วเอาสิ่งที่เห็นจากคู่คนอื่นมาตัดสินว่าคู่เราดีหรือไม่ดี ถามตัวเองลึกๆ

ใช้หัวใจล้วนๆ ตอบมาว่าตอนนี้มีความสุขอยู่มั้ย ถ้ามีก็อยู่ไป