การแอบรัก...ที่เกือบจะสมหวัง

อ่าน 14,265

สวัสดีค่ะ เราอยากจะมาร่วมแชร์ประสบการณ์ความรักที่เกือบจะสมหวังของเรานะคะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 50 สมัยที่เป็นเฟรชชี่ เย็นวันหนึ่งเรากับเพื่อนขี่จักรยานไปเรียนพิเศษ แล้วเราเจอเด็กผู้ชายคนนึงหน้าตาน่ารักจนยากที่จะถอนสายตา เป็นครั้งแรกที่เราตกหลุมรักคนที่เพิ่งเคยเจอ จำได้จนทุกวันนี้ว่าเค้าใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาวๆครีมๆ สวมรองเท้าแตะ เดินอยู่ริมถนนกับเพื่อนเรา ขอเรียกว่า ฟ. นะคะ (เพื่อนเราคนนี้เป็นผู้หญิงค่ะ) ตอนแรกเราคิดว่าเป็นพี่น้องกัน พอเช้าอีกวันก็เลยไปถาม ฟ. ว่าเมื่อวานเธอเดินกับน้องชายหรอ แต่ได้รับคำตอบมาว่าแฟนจ้ะเป็นรุ่นน้องปีนึง แห้วสิคะ ในตอนนั้นแค่แอบมองห่างๆ แอบชอบอยู่คนเดียวเงียบๆก็รู้สึกดีแล้ว หลังจากเรียนผ่านไปหนึ่งภาคการศึกษาก็มีเหตุการณ์ให้เราได้มาสนิทกับ ฟ. เรียกว่าเป็นเพื่อนรักกันเลย แต่เรื่องแอบรักเริ่มไม่สนุกตรงที่เราต้องเจอแฟนของ ฟ. บ่อยขึ้น เจอกันเกือบทุกวัน เริ่มอึดอัดใจแต่เราคิดว่าเราต้องปกปิดมันไว้ให้แนบเนียน เราไม่อยากให้เพื่อนเราเสียใจถ้ารู้ว่าเราแอบชอบแฟนเค้า และเราสัญญากับตัวเองว่าเราจะดูแล ฟ. ให้ดีที่สุดเวลาที่ ค. ไม่อยู่(เราขอเรียก แฟนเพื่อนเราว่า ค. นะคะ) สมัยนั้นเวลาเดินไปไหนก็จะไปกันสามคน ค. กับ ฟ. ก็จะเดินจับมือกัน เราเดินตามหลัง จนเป็นภาพที่ชินตาของเพื่อนๆ แต่พอจบปีหนึ่งเราเริ่มรู้สึกแย่มากๆกับการแอบรักแฟนเพื่อนเพราะความรู้สึกมันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงหาสิ่งเบี่ยงเบนจิตใจ นั่นก็คือแฟนคนแรกของเรา ชื่อ ต. นะคะ ก่อนที่เราจะตัดสินใจคบกับ ต. เราก็คุยกับเค้ามาประมาณครึ่งปีถึงได้ตกลงเป็นแฟนกัน เราคบกับ ต. ได้สองปีครึ่งก็เลิกกันไป เหมือนทุกอย่างจะดีแต่เราก็ยังไม่เลิกชอบ ค. แต่กลับชอบมากขึ้นไปอีกจนกลายมาเป็นรักเค้าข้างเดียว เราจึงตัดสินใจย้ายที่เรียนเพื่อตัดปัญหาทุกสิ่ง (เราขอพ่อแม่แล้วนะคะ บอกท่านว่าที่เรียนอยู่มันไม่เหมาะกับเรา) แต่เราก็ยังติดต่อกับ ฟ. ตลอดจนช่วงหลังๆเริ่มเรียนหนักขึ้น และ ฟ. ก็ทำงานเพราะเรียนจบก่อนเรา ก็เริ่มห่างหายกันไป เราก็มีทักๆแซวๆไปบ้างว่าจะแต่งงานรึยัง เมื่อไหร่จะได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวเนี่ย ขำๆเฮฮาไปตามประสาเพื่อน จนวันที่2 ก.พ. 59 อยู่ดีๆ ค. ก็ทักเฟสเรามา ขอปรึกษาเรื่องเพื่อนมีปัญหากับแฟน เราก็พูดดักคอเค้าไว้ก่อนว่าไม่ใช่เรื่องแกกับ ฟ. นะเว้ย ค. ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่หรอกเรื่องของเพื่อนจริงๆ เค้าก็เริ่มเล่าว่าเพื่อนเค้ามีปัญหาเรื่องมือที่สาม เพราะเพื่อนเค้าไม่มีเวลาให้แฟน และทำผิดหลายๆอย่างซึ่งมันร้ายแรง แต่เราไม่ขอลงรายละเอียดนะคะ วันนั้นเราคุยกันทั้งวันจนเย็น แล้วด้วยความสงสัยของเราเราก็ทัก ฟ. ไปว่า แกวันนี้ ค. เป็นไรวะมาปรึกษาเรื่องเพื่อนทั้งวันเลย แล้ว ฟ. ก็ตอบเรามาว่า แกคุยเป็นเพื่อนเค้าหน่อย เค้าคงเหงา เราเลยถาม ฟ. กลับไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฟ. เงียบไปสักพักแล้วก็บอกมาว่าเรานอกใจ ค. ตอนนั้นเราตกใจมาก น้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย จากนั้นเราก็ทัก ค. กลับไปว่า เมื่อกี้เราไปคุยกับ ฟ. มานะรู้หมดแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ระยะเวลา10 ปีที่ ฟ. กับ ค. มันดูมั่นคงในสายตาเรา จากวันนั้น ค. ก็โทรมาคุยกับเราทุกวัน เพื่อที่จะหาทางกลับไปขอคืนดีกับ ฟ. เราก็ช่วยเค้าทุกวิถีทางเท่าที่เราจะทำให้ได้ เราบอกเค้าว่าไม่เป็นไรนะเว้ยถ้าแกไม่เหลือใครแกยังเหลือเจ๊นะ จนวันที่แกเจอใครสักคนชั้นก็จะหายไป ไม่ใช่ว่าชั้นเดินออกมาแต่ตอนนั้นแกคงไม่ได้มองมาที่ชั้น ทุกๆวันที่เราได้คุยกับเค้าเหมือนกล่องความทรงจำที่เราได้เก็บเอาไว้มันถูกขุดขึ้นมาทีละนิดๆจนสุดท้ายก็ถูกเปิดออกมา เวลาที่คุยกันก็ผ่านไปเดือนกว่าๆ คืนวันที่ 16 มี.ค. 59 ค. ก็โทรมาหาเราปกติแต่คุยอยู่ดีๆเค้าก็เงียบ เราเลยถามว่าเอ้าวันนี้เป็นไรวะ ทำไมเงียบแปลกๆ แล้วเค้าก็ถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า เจ้ ค. แอบหลงรักผู้หญิงคนนึงที่คุยด้วย เราก็ถามเค้ากลับไปว่าเฮ้ยใครอ่ะ แนะนำให้รู้จักเลย แล้วเค้าก็ตอบกลับมาว่า เจ้นั่นแหละ เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหยุดหมุน เราหยุดหายใจ น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว แล้วเราถามเค้ากลับไปแกแน่ใจหรอ ทำไมแกถึงคิดแบบนั้น ค. ตอบมาว่า เค้ารู้สึกมาสักพักแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไร อยู่ที่ไหนก็จะมีแต่ภาพเราวนเวียนเข้ามาในหัว คิดถึงเราบ่อย อยากรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ แต่เราบอกเค้าไปว่าแกสับสนแน่ๆ แกเหงาละสิ ขอบคุณนะที่รู้สึกดีกับเราแต่เราคงให้คำตอบอะไรตอนนี้ไม่ได้นะ คุยกันไปเรื่อยๆก่อนแล้วกัน ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่เรามีความสุขมากจริงๆ แต่ความสุขมันก็ผ่านไปเร็วเสมอ เย็นวันนึงเค้าขอเราไปเจอ ฟ. เพราะ ฟ. ไม่สบาย ท้องเสีย (เค้ารู้มาจากเรานะคะ เพราะเรากลับไปคุยกับ ฟ. เหมือนเดิม) เลยจะซื้อยาไปให้อย่างน้อยก็ไปดูแลแบบเพื่อน เราก็รับรู้ไม่ได้ห้ามอะไรปล่อยให้เค้าไป หลังจากวันนั้น ค. เริ่มเปลี่ยนไป ดูสับสนกับทุกสิ่งทุกอย่าง เราเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง เริ่มมีระยะห่าง แล้วเค้าก็พูดขึ้นว่า อย่าเพิ่งรู้สึกอะไรกับเค้ามากไปกว่านี้เลยนะ เค้ายังลืม ฟ. ไม่ได้ ยังกลัวการถูกทิ้ง เราเลยตัดสินใจบอกความรู้สึกของเราทุกอย่างที่มันเคยเกิดขึ้นตั้งแต่เราเจอเค้าครั้งแรกจนถึงวันนี้ ค. บอกว่าเค้าพอรู้อยู่บ้างแล้ว เค้ามองออกแม้ว่าเราจะปกปิดมันขนาดไหน แต่ในใจเราก็คงอยากให้เค้ารับรู้ได้อยู่ดี ตอนนั้นเราอาจจะคิดน้อยไปจึงตัดสินใจบอกความจริงกับ ฟ. ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราคิดว่า ฟ. จะโกรธเรา เลิกคุยกับเรา แต่ ฟ. ก็ยังเป็นเพื่อนที่แสนดี อ่อนโยนกับเราเสมอมา เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เรากับ ฟ. รักกันมากขึ้นไปอีก ฟ. กลับเป็นฝ่ายที่ต้องมาปลอบใจเราบ้าง คอยให้คำแนะนำ คำปรึกษา คำปลอบโยน แต่เราก็ยังคุยกับ ค. อยู่นะคะ ค. บอกว่าเค้าไปชอบน้องอยู่คนนึง เจอกันที่สนามบาสหน้าหมู่บ้านตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ชื่อน้อง บ. คนนี้นิสัยเหมือน ฟ. เลย เรารับฟังเค้าทุกอย่าง ยินดีจากใจแม้มันจะเจ็บมากๆก็ยังจะอยู่ข้างๆเงียบๆ เหมือน ค. กับ บ. จะไปด้วยกันได้แต่สุดท้ายก็จบลงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราเคยเตือนเค้าว่านี่แกสับสนอีกรึเปล่า แกจะทำน้องเค้าเสียใจนะเว้ย แต่เค้าบอกว่าเค้ามั่นใจมากๆ หลังจากที่ ค. กับ บ. เลิกกัน เค้าก็กลับมาคุยกันเหมือนตอนแรก เหมือนพี่น้อง เหมือนเพื่อน แต่เรารับรู้ได้ว่าจริงๆแล้วเราไม่สามารถกลับไปเป็นแบบนั้นได้อีกแล้ว แล้ว ค. ก็ชวนเราไปดูหนัง ชวนไปเที่ยว มานอนเล่นที่ห้อง (เราระวังตัวตลอดนะคะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง) เราเคยบอกกับเค้าว่าเราอยากให้ ค. ได้รักใครสักคน ไม่ต้องเป็นเราก็ได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองห่างหายจากความรักไปนานๆเหมือนเรา ที่รู้ว่ารักแต่แสดงออกไม่เป็น บางครั้งมากไปจนน่าอึดอัด บางครั้งน้อยไปจนดูไม่ใส่ใจ ทุกอย่างๆดูราบรื่น ด้วยนิสัยเราเป็นคนขี้เล่น ชอบแหย่ ขี้อ้อน แต่ ค. จะเป็นคนจริงจังกับทุกอย่าง คิดเยอะ คิดมาก จนบางครั้งเราทำให้เค้าอึดอัด แล้ววันนึงเค้าก็บอกว่าเค้ากำลังคุยกับ น้อง ม. อยู่ แต่ก็ยังไม่จริงจังเท่าไหร่ น้อง ม. เป็นรุ่นน้อง รร. ของ ฟ. กับ ค. เรารู้มาจาก ฟ. อยู่บ้างแล้วว่า น้อง ม. เป็นเด็กน่ารัก มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ชอบถามคำถามอะไรที่ต้องคิด ไม่ว่าจะทำอะไรหรือดูอะไรก็จะมีแง่คิดมาแชร์เสมอๆ ก่อนที่ ค. กับ ฟ. จะคบกัน ค. เคยลองคุยกับ น้อง ม. แต่ด้วยความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันก็เลยเลิกคุยกันไป น้อง ม. เคยบอกว่า ค. หน้าเหมือนพระเอกเกาหลี ซึ่งก็จริงค่ะ ค. น่ารักจริงๆ ขาวๆ ตี๋ๆ จมูกโด่ง ตาสวย ยิ้มสวย เวลาเค้ายิ้มทุกอย่างดูน่ารักสดใสไปหมด เราเลยถามเค้าว่าไม่ลองจริงจังกับน้อง ม. ดูหรอ นิสัยคล้ายๆกันเลยนะ น่าจะไปด้วยกันได้ดี ซึ่งเค้าก็บอกว่ายังดีกว่า ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น เราก็อือ ออ ตามเค้าไป แต่พอวันรุ่งขึ้น อยู่ดีๆเค้าก็บอกว่าเค้าจะลองจริงจังกับ น้อง ม. ดูก็ได้ แล้วก็อยากให้เราเลิกยุ่งกับเค้า ไม่อยากให้เราเสียใจไปมากกว่านี้ ให้ปล่อยเค้าเป็นอิสระ เค้าบอกว่าเราไม่สามารถกักขังเค้าไว้ตลอดหรอก ซึ่งจริงๆเราไม่ได้กักขังอะไรเค้าเลย เราก็ยัง งงๆ และสงสัยอยู่ว่าเราไปทำให้เค้ารู้สึกแบบนั้นตอนไหน เค้าบอกว่าเรารู้สึกมากไป เราคาดหวังเยอะไป เราเลยตอบเค้าไปว่าไม่เป็นไร อย่าคิดมาก ความรู้สึกเรา เราขอรับผิดชอบมันเอง ขอเวลาอีกนิดให้เราได้จัดการความรู้สึกของเราหน่อยนะ แล้วเราก็ดีใจด้วยในที่สุดเธอจะจริงจังกับน้องเค้าสักที แล้วเราก็พูดหยอกเค้าไปว่าเปลี่ยนความคิดเร็วจริงๆ เมื่อวานยังบอกไม่อยู่เลยนะสุดท้ายเรื่องราวความรักของเราก็ต้องจบลงแล้ว กอดแน่นแค่ไหน ถึงเวลาก็ต้องปล่อย ฝันดีแค่ไหน ถึงเวลาก็ต้องตื่น

เราก็ยังคงมองเค้าอยู่ห่างๆ คอยเดินอยู่ข้างๆ เมื่อไหร่ที่เค้ามีความทุกข์ใจ เค้าหันมาก็จะยังเจอเรา

ขอบคุณนะคะคนดีสำหรับทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เราจะจดจำมันตลอดไป ความรักของเราไม่ว่ามันจะจบลงแบบไหน ก็ยังคงสวยงามอยู่เสมอ

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ



บทความแนะนำ


BetaTestDotaRebornดาราผิวสีข่าวดาราวันนี้ข่าวบันเทิงวันนี่้การศึกษาทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก