รักแท้ แพ้โปรไฟล์

อ่าน 7,954

เรื่องของความรักเริ่มจากที่คนๆหนึ่งไปรักอีกคนหนึ่ง

ในปีที่ 1... เพียงแต่...คนๆนั้น เป็นคนรักของเพื่อน จึงทำได้แค่เก็บไว้ในใจ ตลอดเวลาหลายปี ที่รู้จักกับเค้า และหลายปีที่เค้าคบกับเพื่อน ก็เจอกันเพียงแค่ 3 ครั้ง และก็ถึงวันที่เค้าเลิกลากัน เราก็ไม่ได้เจอเค้าอีกเกือบ 2 ปี แต่...

วันหนึ่งเราก็หาชื่อเค้าในเฟสบุค ไม่น่าเชื่อว่า จะเจอเฟสบุคเค้า กล้าๆกลัวๆ ที่แอดไป เพราะกลัวจะไม่รับ ก็ใครจะไปกล้า เป็นเพื่อนคนที่ทำร้ายจิตใจเค้าตอนนั้นเค้ากำลังไปเรียน ป.โท ที่อเมริกา ติดตามเค้าทางเฟสบุคได้สักพัก ไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะรับแอดเฟสบุคดีใจและตื่นเต้นมาก คุยกับเค้าทางเฟสในฐานะเพื่อนได้ประมาณเดือนหนึ่ง ก็ตัดสินใจขอโอกาสเค้า เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อน เราถามเค้าว่า "ถ้าเราจะขอโอกาส ทำความรู้จัก เพื่อพัฒนาเป็นคนที่รักกันได้ไหม คนที่ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีตำแหน่งหน้าที่การงานมีเกียรติอย่างเค้า ไม่ร่ำรวย ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ พอจะให้โอกาสคนๆนี้ได้ไหม"และเค้าก็ให้โอกาสนั้น และมันก็คือ จุดเริ่มต้นของความรักครั้งนี้ ^^ เค้าให้โิอกาส ตื่นเต้นมาก ตอนนั้นคุยกับใครๆอยู่ ก็หยุด เพื่อคุยกับเค้าคนเดียว คุยทางสไกด์เวลาที่ไทยเราค่ำมืด ทางเค้าตอนเช้า เราก็ออนสไกด์เป็นเพื่อนจนถึงเช้า หลับหน้าคอม พอเราเช้า เค้าก็ค่ำ โทรไปหาที่ เมกา ส่งเข้านอน ทุกๆวัน ทุกๆคืน การที่ได้คุย ได้เห็นหน้า กันทุกวัน ทั้งวันวาเลนไทน์ ลอยกระทง วันปีใหม่ เราก็อยู่ด้วยกัน เป็นความรู้สึกดีอีกแบบที่ได้อวยพรวันเกิด เป่าเค้ก ผ่านสไกด์ ^^ ไม่มีวันไหนที่จะไม่ได้คุย ไม่ได้เจอ ตลอดปีกว่าๆ ที่เค้าทำ ป.โท มันคือความสุข มันคือกำลังใจ ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกท้อ รอวันที่เค้ากลับมา1 ปี ผ่านไป เค้าเรียนจบ ตื่นเต้นสุดๆ เดินทางจากต่างจังหวัด ตั้งแต่เช้า มารอรับที่สุวรรณภูมิ จำได้ว่าเครื่องลง 5 ทุ่ม แต่ดีเลย์และกว่าจะออกมาก็เกือบตี 1 แล้ว

มันอธิบายไม่ถูก มันคือความคิดถึง ความตื่นเต้น ไม่แน่ใจเค้าจะคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร ตลอด 1 ปีกว่าๆที่คุยกันทุกวัน แม้จะคุยกับแบบหวานๆ(คุยเองคนเดียวมั้ง^^) แต่ระหว่างเรา เค้าก็บอกเป็นแค่เพื่อนที่ได้โอกาส แต่เราก็หวังว่า จะมีวันที่จะสมหวัง นาทีที่ได้เจอกัน เหมือนโลกหยุดหมุน ใจเต้นแรง พูดไม่ออก ดีใจมาก^^ แต่เค้าจะรู้สึกอย่างไร เราไม่รู้นะ ทักกันเสร็จก็ทักคุณพ่อ คุณแม่ เค้า (มารู้ที่หลังว่า ท่านทั้ง 2 ไม่ปลื้มเราเท่าไร เพราะเป็นเพื่อนของคนที่ทำลูกสาวท่านเสียใจ ท่านก็ไม่ได้ว่าที่คบกันเป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ยินดีที่จะให้คุย --") ก็เดินมาส่งที่รถแท็กซี่ เมื่อเค้ากลับบ้าน เราก็เคว้งล่ะจิ เป็นเด็กบ้านนอกเข้ากรุง ไม่มีที่นอน ตี 1 กว่าๆแล้ว แอร์พอต ลิงค์ก็ปิด ไม่รู้จะนอนไหน ก็ต้องนอนใต้บันไดลื่นในสนามบินจนเช้า ก็ดีน่ะ แอร์เย็น ไม่มียุง ไม่เสียตังค์ ที่สำคัญมีเพื่อนๆนอนด้วยเยอะแยะ ^^

พอเช้า 6 โมง ก็นั่งรถไฟ มาบ้านญาติ อาบน้ำ แต่งตัว ไปรอเค้าที่ทำงาน อ้อ...เค้าทำงานรับราชการ ได้ทุนรัฐไปเรียนต่อ วันนั้นไปรายงานตัวต้นสังกัดก็ไปรอเค้าและไปกินข้าวกัน เป็นการกินข้าว ที่ตื่นเต้นมาก จำได้ฝังใจ วันนั้นกินฟูจิ ตรงโลตัส รัชโยธิน กินได้น้อย เพราะมัวแต่เขิน จากนั้นก็แยกย้ายกลับ เราก็กลับต่างจังหวัด

ในปีที่ 2.... เราอยู่ต่างจังหวัด เค้าอยู่ กทม ใช้วิธีคุยทางสไกด์ แค่พิมพ์คุยกัน แต่เปิดกล้องน้อยลง ไม่เหมือนตอนที่เมกา ที่เปิดกล้องตลอด ตอนนี้ส่วนใหญ่คุยทางไลน์ แต่ก็ลงมาหาเดือนละครั้ง วันเกิดเค้าในปีนี้ ให้ดอกกล้วยไม้ แต่ทำเปิ่นมาก เอาต้นกล้วยไม้ไปเก็บไว้ในรถ มันร้อนจนต้นเหี่ยว ดอกเหี่ยวเลย ฮะฮะ ต้องเอาต้นใหม่มาให้ใหม่ แต่ทุกวันนี้ทั้ง 2 ต้น ก็เติบโตอยู่ที่บ้านเค้า ปีนี้ เราอยู่ประเทศไทยด้วยกัน แต่กลับรู้สึกว่า...เราเหมือนไกลกว่าอยู่คนละซีกโลก

ที่สำคัญ เธอ ให้ลบข้อความตลอด 2 ปี ที่เราคุยกันในสไกด์ คำหวานที่เรามีให้ คำคิดถึงที่บอกเธอ เธอบอกมันไม่เหมาะ ไม่เป็นไร...เราลบให้ได้ แต่มันจะไม่เคยลบออกไปจากใจเราได้ ตลอดปีที่ 2 แม้เราจะคุยด้วยกันทุกวัน ได้เจอกันเดือนละครั้ง เมื่อถามความรู้สึกเธอ เธอก็บอกว่า "ไม่รู้ เป็นเพื่อนชายที่พิเศษและสนิท"รู้สึกใจหวิว แต่ก็สู้ต่อไป อาจจะเพราะเราไกลกัน คนละจังหวัด เราจึงตัดสินใจมาทำงานใน กทม

ในปีที่ 2 นี้ แม้จะเจอกันเดือนละครั้ง แต่เราก็มีกิจกรรมด้วยกันนะ

** เดือน ตค วันครบรอบของเรา(อาจจะของเราคนเดียว^^) ได้ไปฉลองกินข้าวกันแถวสาทร เดินห้าง พาไปพิพิธภัณฑ์ จิม ทอมป์สัน กับเพื่อนของเธอ เราก็มีความสุขมากแล้ว กับความทรงจำ ครั้งแรกในวันครบรอบ

** และในเดือน ธค เราได้ไปเที่ยวที่ จ.อุดรธานี ด้วยกัน กับเพื่อนๆเธอ (อีกแล้ว ฮะฮะ) ขอบคุณสำหรับความทรงจำในครั้งนี้

** ปีใหม่ปีนี้เราได้ไปไหว้พระ 9 วัดด้วยกัน(และเพื่อนๆเธอด้วย อิอิ) เธอชอบร้านก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกแถวเสาชิงช้าเจ้านี้มาก และเรารับปากว่า ปีหน้าเราจะพามาไหว้พระ และกินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อีก

ในปีที่ 3... เมื่อเราอยู่ กทม เราได้เจอกันอาทิตย์ละครั้ง เวลาที่เธอมีนัดกับหมอ เราส่งเธอไปหาหมอ นั่งรอจนหาหมอเสร็จ ก็กินข้าวเที่ยง ก็ส่งเธอกลับบ้าน หลายครั้งเราชวนเธอดูหนังตลอดปีที่ 3 แต่เธอดูกับเรา แค่เรื่องเดียว คือ Transformer 3

รู้มั้ยเราดีใจ และตื่นเต้นมาก จองตั๋วหนัง ข้ามวันเชียว ที่น่าขำ ดันจองผิด จองพากษ์ไทยซะนั้น ต้องจองใหม่ ฮะฮะ ส่วนตั๋วผิดก็เอาให้พ่อ ลูก ที่ต่อแถวอยู่ไป ^^ จนทุกวันนี้เราเก็บตั๋วหนังใบนี้ไว้อย่างดีเลยนะ

เรางอนเธอ บ่อย ทุกครั้งเวลาที่ถามเธอว่า "เธอคิดอย่างไรกับเรา" แล้วเธอจะมีคำตอบเดียว ว่า "ไม่รู้"

...แต่มีครั้งหนึ่งที่เธอบอกว่า "รู้สึกดีและพิเศษ ที่มีให้เราแค่คนเดียว" มันคือประโยคที่หล่อเลี้ยง ความรู้สึกเราเลยทีเดียว ^^

วันครบรอบปีนี้ เราชวนเธอ ทำบุญ แต่เราก็งอนกัน เธอจึงไปกับเพื่อน เราก็น้อยใจ ที่เธอลืมนัดกัน

และวันหนึ่ง เราออกมาหาซื้อชุดแฟนซีกัน

เช้าวันนั้น เธอมาบอกข่าวร้ายที่สุดในชีวิตอีกข่าวหนึ่ง

เธอบอกว่า... "มีคนเข้ามา เค้าโปรไฟล์ดี แต่เธอจะไม่ยุ่ง จะตัดเค้าออกไป"

เราดีใจที่เธอ บอกอย่างนั้น แต่ลึกๆในใจ บางอย่างบอกเราว่า.... "เวลาของเรามันใกล้หมดแล้ว"

แต่เราก็บอกกับเธอว่า... "ไม่เป็นไรนะ ถ้าเธอต้องการคุยและเรียนรู้เค้า เดี๋ยวเราจะเดินออกมาเอง"

เธอยืนยันว่า... "จะไม่ยุ่งและตัดเค้า"

...เราดีใจนะที่ได้ยินแบบนั้น แต่เราก็รู้ในใจลึกๆว่า "มันคงถึงเวลาที่เราต้องเดินออกมาแล้วจริงๆ"

จากนั้นเราก็ไปซื้อชุดกัน และไปสวนรถไฟ ปั่นจักรยาน ถ่ายรูป มันเป็นวันที่เรามีความสุขมาก เธอรู้ไหม ว่าวันนั้น เราโดดงานไป อีกวันโดนหัวหน้าด่าเละ ฮะฮะ แต่ก็คุ้มนะ เพราะมันเป็นวันสุดท้ายที่เราได้อยู่ด้วยกัน เป็นความทรงจำสุดท้ายระหว่างเรา ช่วงเวลาของเราสองคนนั้น ได้หยุดลงตั้งแต่วันนั้น

อาทิตย์ต่อมา เราถามเธอถึงเรื่องของเค้า

เธอบอกว่า... "เธอไม่คิดอะไรกับใคร แม้กับเราก็เป็นแค่เพื่อนธรรมดา และจะให้โอกาสกับทุกคนที่เข้ามา"

มันเป็นความรู้สึกที่ชา และเจ็บจนพูดไม่ออก ...ไม่ได้โกรธเธอ ...เธอไม่ผิดแต่...เวลาของฉันมันหมดแล้วจริงๆ วันนั้น พยายามทำทุกอย่างเหมือนเดิมที่สุด พาเธอไปหาหมอ กินข้าวเที่ยง นั่งรถเธอกลับบ้านจนลงรถ ฉันจึงบอกเธอว่า

"เราขอโทษนะ เราคงยังเป็นเพื่อนกับเธอตอนนี้ยังไม่ได้"

เราไม่แน่ใจว่าเธอตอบว่าอะไร เรามึนไปหมด วันนั้น คือ วันที่ 28 ธค 57

เราขอโทษที่บล็อคเฟส ลบไลน์ และไม่อ่านข้อความเธอหลังจากวันนั้น เราไปเกาะพงัน ตัดขาดกับภายนอกและเมาเท่าที่จะเมาได้และอยากจะอ้วกเอาความทรงจำทั้งหมดออกมาให้หมดเปล่าเลย...มันเป็นความทรงจำที่ดี ดีเกินไป เกินกว่าเราจะอยู่กับมันได้ โดยที่ไม่มีเธอ...

จากวันนั้น...วันนี้วันที่ 29 ธ.ค.58 มันนานมากแล้ว 12 เดือน ที่ไม่ได้ยินเรื่องราวใดๆของเธออีกเลยแต่...มันยังคงอยู่ในส่วนลึกของความทรงจำ จนไม่เคยลืมเธอได้ และเพิ่งเข้าใจในวันนี้ กับคำว่า "มันคงเป็นความรัก"

ความรักไม่ผิด...ไม่ผิด...ที่เธอไม่รักไม่ผิด...ที่เธอเปิดรับคนใหม่ไม่นึกเสียใจ...ที่ได้รักเธอ อย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้

ถ้าจะผิด...ก็ผิดที่เรารักเธอยังไม่มากพอที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อเธอและไม่สามารถที่จะชนะใจเธอได้

วันนี้...แค่อยากบอกว่า คิดถึงนะ



บทความแนะนำ


ผู้ชายปัญหาความรักความเชื่อโปรโมชั่นการแต่งงานความรักผู้หญิงดูดวงโออิชิทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก