ความบังเอิญ พรมลิขิต หรือโชคชะตา ?

อ่าน 7,893

สวัสดีค่ะ เรามีประสบการณ์จริงได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งไม่รู้ว่าโดยบังเอิญ หรือพรมลิขิต หรือโชคชะตา 5555 มาเล่าให้ฟัง เข้าเรื่องเลยล่ะกันโน๊ะ(เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย 55555555)

ย้อนเวลาไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วตอนนั้นเรียนยุ ม.4 เราเป็นคนรูปร่างอ้วน ดำ เตี้ย (อิห่าพูดซะตัวเองไม่มีดีเลย5555) เรามีโอกาสได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งโดยบังเอิญ เค้าชื่อพี่เมส (พี่เมสเป็นคนรูปร่างสูง ผอม ผิวก็ไม่ได้ขาวไม่ได้ดำ แต่!! จมูกพี่เค้าโด่งมากก กรี๊ดดด ><' 5555) ตอนนั้นพี่เค้าอายุน่าจะประมาณ 22-23 ปีรึป่าว เราพบกันครั้งแรกที่หน้ากองบิน 23 วันนั้นเราเอาโน้ตบุ้คไปซ่อมที่ร้านคอมข้างประตูทางเข้าที่ 2 ของกองบินแต่ซ่อมไม่ได้เราก็เลยคิดว่าจะไปเซ็นทรัลต่อเดินเล่นห้างชิลๆไรงี้ 5555 (วันนั้นไปคนเดียวเพิ่งเข้ามาอยู่ในเมืองแรกๆยังไม่รู้ว่ารถสายไหนไปไหนไปแบบงูๆปลาๆ 5555) เลยเดินไปรอรถสายอยู่ตรงศาลาหน้ากองบิน ตรงศาลามีผู้ชายคนหนึ่งสะพายกระเป๋าใบใหญ่ ใส่หูฟังนั่งรอรถสายเหมือนกันเราก็ไม่ได้สนใจเดินเข้าไปนั่งในศาลาด้วย ระหว่างนั่งอยู่ก็นั่งคิดว่ากูจะนั่งรถสายไหนมันจะไปถึงเซนทรัลแต่ก็ไม่รู้ไง เลยตัดสินใจถามพี่เค้า...

เรา : ขอโทษนะคะ ไปเซ็นทรัลต้องขึ้นรถสายไหนคะ ? พี่เค้านิ่งแบบไม่ได้ยินเราเพราะเค้าใส่หูฟังเรา : อ้าว พี่คะ พี่ !!! (แบบคิดในใจคือหยิ่งยิ้มแท้5555)พม : (แล้วเค้าก็หันมา) ครับ?เรา : ไปเซ็นทรัลต้องขึ้นรถสายไหนคะ ?พี่เมส : อ่อไม่รู้อ่ะครับ ไม่ใช่คนอุดรพอดีมาหาเพื่อนในกองบิน นี่ก็จะไปบ้านเพื่อนครับเรา : อ่อค่ะพอถามเสร็จกูก็คิดในใจ เชี้ยล้ะกูจะไปยังไง 555 แปปนึงพี่เค้าก็ลุกขึ้นไปโบกรถสาย 3 นี่แหล่ะแต่เราก็ได้แต่มอง 555 พอรถจอดพี่เค้าก็เดินไปถามคนขับเว้ยว่ารถสายไหนผ่านเซ็นทรัล (สงสัยเค้าสงสารกู555) พอถามเสร็จพี่เค้าก็เรียกเรา...

พี่เมส : นี่น้อง เค้าบอกว่าขึ้นสายนี้ไปก็ได้แล้วไปลงตรงไหนซักอย่างนี่จะไปมั๊ย?เรา : อ่อค่ะ ไปค่ะไป. แล้วเราก็วิ่งขึ้นรถไปจ้าาาา 5555555

บนรถมีแค่เรากะพี่เค้า ซักพักก็มีป้าคนหนึ่งขึ้นมา พอรถวิ่งไปได้ซักพักเราก็เริ่มมองซ้าย ขวาแล้วครับ คิดในใจว่าเชี้ยละกูอยู่ไหนทำไมรู้สึกมันเหมือนไม่ได้ไปเซ็นทรัล แล้วซักพักพี่เค้าก็ถามป้าคนนั้นว่า..

พี่เมส : ป้าครับ ไปเซ็นทรัลต้องลงตรงไหนครับป้า : อ้าว ไปเซ็นไม่ได้ขึ้นสายนี้ ขึ้นสาย 44 จ้าพี่เมส&เรา : อ้าว!! แล้วมองหน้ากันพี่เค้าเห็นสีหน้าเราเริ่มกลัวและเหมือนจะร้องไห้ พี่เค้าเลยพูดกะเราว่า..พี่เมส : นี่น้อง งั้นเอางี้ลงพร้อมพี่เดี๋ยวพี่ไปส่ง พี่จะไปบ้านเพื่อนเดี๋ยวยืมรถมันไป พี่ก็จะไปหาพี่สาวยุเซ็นเหมือนกันเรา : อ่อค่ะๆ (มองหน้าพี่เค้า เหมือนจะกลัวแต่กูก็ไป 55555555)

พอถึงที่พี่เค้าลงเค้าก็เรียกเราลงด้วย จ่ายตังค์ให้ด้วยจ้าา 55555 ?? แล้วเราก็เดินข้ามถนนเพื่อไปบ้านเพื่อนเค้า ระหว่างเดินพี่เค้าก็ถาม..

พี่เมส : น้องชื่อไรอ่ะ เรียนยุ ม.ไหนแล้วเรา : ชื่อตุ้งติ้งค่ะ ยุ ม.4 แล้วพี่ล่ะชื่ออะไรคะ (ยื่นเงิน 10 บาทคืนพี่เค้าไปค่ารถ555)พี่เมส : พี่ชื่อเมสครับ พี่เรียนจบล่ะ แล้วไปทำอะไรเซ็นทรัลเรา : อ่อพอดีวันนี้เอาโน้ตบุ้คมาซ่อมอ่ะคะแต่ซ่อมไม่ได้ก็เลยว่าจะไปเดินเล่นชิลๆที่เซ็นต่อ 555พี่เมส : ขึ้นรถสายก็ไม่เป็น แล้วทำไมมาคนเดียว ?เรา : อ่อเพื่อนกลับบ้านหมดเลยมาคนเดียว 555พี่เมส : อ่องั้นเดี๋ยวพี่ไปเดินเป็นเพื่อน กินข้าวยังถ้ายังไปกินข้าวด้วยกันนะ (ตอนนั้นเวลาประมาณเกือบๆจะเที่ยง)เรา : อ่อค่ะ เครค่ะ (แอบเขินอิห่าาาาา 555555)

พอเดินไปถึงบ้านเพื่อนพี่เค้า เค้าก็เรียกเพื่อนออกมา เราก็ยืนรอยุหน้าบ้าน พอเพื่อนพี่เค้าออกมาก็คุยไรกันไม่รู้เพื่อนพี่เค้าเลยมองมาที่เราเเล้วก็ทำหน้างงๆ เราก็ยกมือไหว้เลยจ้าอันดับแรก 555555 พี่เค้าก็ยิ้มให้ พอเค้าคุยกันเสร็จพี่เมสก็เข้าไปเอารถมอเตอร์ไซด์แล้วก็ขับออกมาพร้อมหมวกกันน็อค 2 ใบ แล้วพี่เค้าก็ยื่นหมวกให้ เราก็ใส่พี่เค้าก็ถาม...

พี่เมส : พอขี่ได้มั๊ย?เรา : สบายมากจ้าาา แฮร่!!

แล้วพี่เค้าก็ขับรถออกไป แบบตอนนั้นเกร็งมากนั่งห่างพี่เค้าเป็นคืบกว่าเวลาเบรกจอดไฟแดงกูนี่แบบเกร็ง เกร็งจนปวดขาปวดแขน 5555555 ในใจก็คิดจะพากูไปเซ็นทรัลจริงๆมั๊ยวะ หรือจะพากูไปที่อื่น ใจหนึ่งกลัวยุนะตอนนั้น 555 แต่อีกใจก็คิด กูขี้เหล่ อ้วน ดำ เตี้ยขนาดนี้คงไม่คิดพากูไปทำอะไรต่อมิอะไรหรอกมั้ง 555 พอขี่ไปซักพักกูถึงเซ็นทรัล (คือตอนนั้นโล่งใจมาก) พี่เค้าก็ขับรถไปจอดที่โรงจอดรถ จอดเสร็จเราก็เดินเข้าไปแล้วพี่เค้าก็ว่า...

พี่เมส : พี่หิวข้าวแล้ว ไปหาไรกินกันป้ะ !!เรา : ป้ะ หิวเหมือนกัน หัวเราะ

เเล้วเราก็เดินไปศูนย์อาหารแลกบัตรเสร็จก็ไปหาโต๊ะ ได้โต๊ะแล้วพี่เค้าก็บอกให้ไปซื้อข้าวก่อนเดี๋ยวเค้านั่งจองโต๊ะไว้มาแล้วพี่ค่อยไปซื้อ เราก็เดินไปดูอาหารว่าจะกินไรดี มองไปเห็นข้าวมันไก่เราเลยซื้อข้าวมันไก่พอซื้อเสร็จก็เดินไปโต๊ะ แล้วก็บอกพี่เค้าไปซื้อข้าว แล้วพี่เค้าก็ไปซื้อสุกี้ทะเลกะน้ำมา 2 ขวด..

พี่เมส : เอ้าน้ำพี่ซื้อมาให้ แล้วก็ยื่นน้ำให้กูจ้าเรา : ขอบคุณจ้าา (อะไรจะเทคแคร์ดีขนาดนี้ เขิลล 555)

พอเราสองคนกินข้าวเสร็จพี่เค้าก็ชวนขึ้นไปเดินดูหนังสือที่ B2S เราก็ต่างคนต่างเดินดูหนังสือของใครของมัน เราดูพวกหนังสือผีสางนางไม้ ไสยศาสตร์ไรไปทั่ว 555 แต่พี่เค้าดูเกี่ยวกับวิศวะไฟฟ้า (เบ้ยยยย55)

พี่เมส : ชอบหนังสือแนวนี้หรอ ?เรา : ก็ชอบค่ะอ่านแล้วมันตื่นเต้นดี แล้วพี่ชอบเกี่ยวกับไฟฟ้าหรอคะ?พี่เมส : ครับ พี่ทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าน่ะเรา : อ่อค้ะ

พอดูเสร็จก็ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ 55555 แล้วพี่เค้าก็พาเราไปร้านนายอินทร์ต่ออีก (ร้านหนังสืออีกแล้ววววววว -_-)ถึงร้านก็ต่างคนต่างดูหนังสือแหล่ะ เราก็ดูพวกนิยายน่ารักกิ๊กก็อกไรงี้ไปเรื่อย แปปนึงพี่เค้าก็เดินมาหาพร้อมหนังสือนิยายเล่มหนึ่งในมือ..

พี่เมส : ตุ้งติ้งๆ นิยายเรื่องนี้น่าอ่าน (พี่เค้าก็ยื่นใส่มือเราให้มือเราจับหน้าที่เค้าเอามือขั้นไว้ให้ แล้วพี่เค้าก็รีบเดินหนีไปดูหนังสืออันอื่น)เรา : อ้าว หยังว้ะ !!

แล้วเราก็เปิดดูว่าจะลองเข้าไปอ่านเนื้อเรื่องมันว่าน่าอ่านยังไง พอเปิดไปดูหน้าที่พี่เค้าเอามือเราจับไว้ตอนเค้าเอามาให้แบบประโยคเเรกของหน้านั้นนี่เฮือกเลยครับ แบบความหมายมันออกแนวสื่อว่า "หลงรักเธอ" ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนไรงี้ 5555 (เขิลสิคะรอ ยิ้มไร!! คือแบบตอนนั้นเขินมากกกจ้าอิห่าา เขินแบบวัวตายความล้ม 555555555555 มโนไปว่าพี่เค้าแอบชอบกูรึป่าว พอๆ5555) อ่านจบตรงนั้นกูก็ยิ้มกว้างเลยย แล้วพี่เค้าก็เดินมาหา

พี่เมส : เป็นไง น่าอ่านมั๊ย?เรา : ยิ้ม อ่อค่ะน่าอ่านดี (เขิลเบาๆ55)พี่เมส : ไปไหนต่อดี ไปตึกคอมมั๊ย?เรา : ไปก็ไปค่ะ (ที่ไปไม่ใช่ไรนะคือหน้าตึกคอมมีรถสาย 6 ผ่านหน้าค่ายพอดี เลยไปเพราะกลับหอง่ายดี ค่อยไม่หลง อิอิ )

เเล้วเราก็เดินออกจากร้านไปโดยไม่ซื้อเหมือนเดิม 555555 จากนั้นเราก็เดินทางไปตึกคอมต่อ ระหว่างทางพี่เค้าก็ถามนั่นถามนี่คุยกันตลอดทาง (นี่ยังไม่รู้ไปสนิทกันตอนไหน? 555555) พอถึงตึกคอมก็จอดรถไว้แล้วก็เดินเข้าไป พี่เค้าก็เดินไปซื้อไอครีมมา 2 อันแล้วก็ให้เราอันหนึ่ง

พี่เมส : อ้ะ พี่เลี้ยงเรา : ขอบคุณค่ะ

แล้วเราก็เดินดูพวกโทรศัพท์ พวกเครื่องใช้พวกไอทีไรต่างๆ (ไม่ได้ซื้อหรอกเดินดูเฉยๆ55) แล้วเราก็เดินขึ้นบรรไดเลื่อนขึ้นไปชั้นโรงหนัง เดินไปดูว่ามีเรื่องไรเข้าโรงบ้าง...

พี่เมส : นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่จะได้ขึ้นรถกลับบ้านตอน 5 โมงครึ่งนี่ว่าจะชวนดูหนังอยู่นะ (บ้านพี่เค้ายุ จ.ไรไม่รู้เค้าบอกยุแต่จำไม่ได้)เรา : ห้ะ 55555 เอ้าแล้วพี่ต้องกลับวันนี้หรอคะ (แอบนอยนิดนึง)พี่เมส : ใช่ๆกลับวันนี้ พี่มาเล่นกะเพื่อนที่กองบินเฉยๆเรา : ออจ้าา

เวลาตอนนั้นก็บ่าย 3 จะ 4 โมงแล้วไอ้เราก็กลัวเค้าไม่ทันขึ้นรถเลยชวนกลับ

เรา : เออพี่เมสนี่ก็ใกล้จะ 4 โมงแล้วเรากลับเถอะเดี๋ยวพี่ไม่ทันรถพี่เมส : อ่ะก็ได้ แล้วจะให้พี่ไปส่งไหนหล่ะ?เรา : ห้ะนี่คิดว่าจะกลับเอง พอกลับได้ยุค่ะ มันมีรถสายผ่านยุพี่เมส : ไม่เดี๋ยวก็ขึ้นผิดสายอีกเดี๋ยวพี่ไปส่ง หอยุไหน?เรา : ห้ะ หอยุไกลเดี๋ยวพี่ก็ไม่ทันรถ งั้นไปส่งขึ้นรถสายก็ได้กลับได้ยุจริงๆพี่เมส : ก็ได้แล้วรู้มั๊ยว่าต้องขึ้นรถสายไหน แล้วไปขึ้นไหน?เรา : สาย 12 จ้า ขึ้นตรงแยกน้ำพุ หน้า ก.ส.นพี่เมส : ยุตรงไหนวะ 555555 ป้ะเด้ะพามั่วไปหรอกเรา : เอ้า!! จ้าา (พี่เค้ารู้ทางมากกว่าเราอีกขนาดเราคนอุดรแท้ๆ55)

แล้วเราก็เดินออกจากตึกคอม พี่เค้าก็ไปส่งเราขึ้นรถที่หน้า ก.ส.น. (รุ้สึกใจหาย เหมือนไม่อยากให้พี่เค้ากลับเลย ) ระหว่างนั่งรถไปเราก็คิดไปว่าจะขอไลน์ ขอเฟส ขอเบอร์อะไรพี่เค้าไว้ดีมั๊ย เผื่อได้ติดต่อกันบ้าง 555555 แต่ก็ไม่ได้ขออะไรพี่เค้าไว้เลย เพราะคิดว่าจะขอไว้ทำไมในเมื่อเรามีแฟนยุแล้ว (ตอนนั้นเรามีแฟนแล้วคบกันประมาณ 5-6 เดือน) ตอนนั้นสับสนมากทั้งอยากขอทั้งไม่อยากขอ พอถึงหน้า ก.ส.น.

พี่เมส : ตรงนี้มั๊ย ?เรา : ใช่ค่ะๆ แล้วเราก็ลงจากรถ ถอดหมวกกันน็อคยื่นให้พี่เค้า (หมวกกันน็อคยิ้มก็ถอดยาก กูก็ทำหมวกเค้าหักด้วยจ้าา 555555555)พี่เมส : กลับได้แน่นะเรา : ได้แน่นอนจ้าพี่เมส : ครับ งั้นกลับดีๆนะ พี่ไปแล้ว ขอบคุณสำหรับวันนี้ที่ไปเที่ยว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนนะ สนุกมากเลย 555555 (รู้สึกได้ว่าพี่เค้าเศร้า 5555 กูว่าตัว)เรา : จ้าา เดินทางปลอดภัยนะคะ ขอบคุณพี่เหมือนกันนะคะ ที่พี่เลี้ยงไอติม เลี้ยงน้ำ สนุกมากเหมือนกัน ขอบคุณค่ะ 55 (หน้ายิ้มแต่ในใจเศร้า )พี่เมส : ครับ พี่ไปแล้วนะเรา : ค่ะ บ๊ายบาย (พร้อมกับโบกมือแล้วยิ้มให้พี่เค้า)พี่เมส : บ๊ายบายครับ (แล้วพี่เค้าก็ขับรถออกไป )เรา : จ้าา (นี่เค้าไม่คิดจะขอเบอร์ ขอไลน์กูไว้เลยหรอ โถ่ววว เชอะ!!)

พอพี่เค้าขับรถออกไปแล้วเราก็รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ ไม่รู้ทำไม รู้สึกเสียดาย เสียดายว่าทำไมไม่ขอเฟส ขอไลน์ หรือเบอร์อะไรพี่เค้าไว้เลย เผื่อคิดถึงเผื่ออยากคุยก็จะได้ติดต่อกันได้ กลับมาถึงหอเราก็นั่งคิดถึงแต่เรื่องพี่เค้า คิดแบบนี่เรามารู้จักกันได้ไง? พรมลิขิตหรอ? หรืออะไร? แต่เราก็ทำได้แค่นั้นแหล่ะจากวันนั้นจนถึงวันนี้เราก็ยังไม่เคยลืมพี่เค้า เวลาขี่รถผ่านศาลาหน้ากองบินเราก็จะคิดถึงความทรงจำครั้งแรกที่เราเจอกับพี่เค้า ยังคิดถึงเสมอ เพราะวันนั้นมันเป็น 1 วันที่เรามีความสุขมากเป็นหนึ่งวันที่มีความทรงจำดีๆกับผู้ชายคนหนึ่ง คือมันแบบจากคน 2 คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต้องไปกินข้าวด้วยกัน กินติมด้วยกัน ไปเดินดูหนังสือด้วยกัน (อิห่ารู้สึกเหมือนกูใจง่าย 555) คือไม่รู้อ่ะมันมีความสุขมากเลย นี่ผ่านนมา 3-4 ปีแล้วหากมีโอกาสก็ยังอยากเจอพี่เค้าอีกแต่ก็คงไม่ได้เจอกันอีกหรอก (ป่านนี้พี่เค้าคงแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วมั้ง 5555555)?#?ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ได้รู้จักพี่ถึงจะรุ้จักแค่วันเดียวก็เถอะ55#คิดถึง...?

จบแล้วค๊าาา ที่ จขกท มาเล่านี่แค่อยากจะบอกกะทุกคนว่า..หากเรามีโอกาสอะไร หรืออยากทำอะไรก็ให้รีบทำซะ เดี๋ยวเมื่อมันไม่มีโอกาสแล้วจะมานั่งเสียใจภายหลัง.จะไปไหนหรือจะไปอะไรกะคนแปลกหน้าก็ให้ดูให้ดีอาจไม่โชคดีเหมือน จขกท ก็ได้.

#ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ #กราบบบบบบบแบบเบญจางคประดิษฐ์ 55555555



บทความแนะนำ


มอเตอร์ไซค์ศรัณย์พอร์ชผู้ชายความรักPlazaBarวันแม่แห่งชาติคูปองส่วนลดข่าวบันเทิงข่าวบันเทิงวันนี้ผู้หญิงทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก