เล่นเฟซบุ๊กอย่างไร ไม่ให้รักร้าวฉาน? ที่นี่มีคำตอบ!!

ความรักยุค 2013 มีเฟซบุ๊กนี่แหละ ที่เป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ ชีวิตรักต้องพังเพราะเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรมมานักต่อนัก ทั้งมีกิ๊กแล้วถูกจับได้ หรือหนีเที่ยวแล้วเพื่อนดัน tag รูปลงโซเชียลมีเดีย หลายคนคงอยากปิดเฟซบุ๊กหนีเพื่อความอยู่รอดของชีวิตคู่ อย่าเพิ่งคิดมากไป ลองทำตามคำแนะนำจากเรา รับรองว่าเฟซบุ๊กทำอะไรคุณทั้งคู่ไม่ได้แน่

กฎข้อที่ 1 ?ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ต้องการความเป็นส่วนตัว เพื่อประคับประคองให้มันเติบโต? คุณรู้ใช่มั้ย ว่าอะไรบ้าง ที่ควรเก็บไว้ เป็นเรื่องของเราสองคน...สถานการณ์อย่างเช่น คุณกำลังจะก้าวผ่านจาก ?เพื่อน หรือ คู่เดต? ไปเป็นคนรัก ก่อนที่เปลี่ยนสถานะประกาศให้โลกรู้ ต้องแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าอีกฝ่ายก็ต้องการเปิดตัวว่า ?เขากำลังคบกับคุณอยู่เช่นกัน? ?เมื่อความสัมพันธ์เดินทางมาถึงจุดเปราะบาง สิ่งสำคัญในตอนนี้ คือ ความเป็นส่วนตัว? การให้เกียรติ การเริ่มต้นที่ช้าแต่มั่นคง จะทำให้คุณทั้งคู่รู้สึกว่าต้องใช้ความพยายามมากกว่า และสังคมออนไลน์จะทำลายมันได้ยากกว่า

กฎข้อที่ 2 ?หยุดเข้าไปวุ่นวายกับ เฟซบุ๊กเขาซะที? ผลการสำรวจผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวน 205 คน ในประเด็นที่ว่า ?พวกเขาเคยมีปัญหากับแฟนที่เพิ่งเลิกรา หรือกำลังคบกันอยู่ ถึงขั้นเลิกกันไปเลยหรือนอกใจแฟน เพราะเฟซบุ๊กบ้างหรือเปล่า?? ผลปรากฏว่า คนที่ใช้เฟซบุ๊กทุกวัน เล่นเฟซบุ๊กบ่อยๆ มักมีปัญหากับคนรัก และเป็น ?ปัญหาหนัก? เสียด้วย โดยเฉพาะกับคู่รักที่คบกันไม่ถึง 3 ปี จะอ่อนไหวกับปัญหานี้เป็นพิเศษ ปัญหารักที่เกิดขึ้นมักเป็นเพราะ คุณอดใจไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของแฟนว่าวันๆ เขาทำอะไรบ้าง และพฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดความหึงหวงขึ้น ?ผมแทบจะเล่นไม่ได้เลย เพราะแฟนสอดส่องพฤติกรรมทุกอย่าง ไปคอมเม้นต์ใครไว้บ้าง รับใครเป็นเพื่อนบ้าง...แฟนผมไล่ดูเพื่อนผมทุกคนในเฟซบุ๊กว่ามีแฟนเก่าหรือเปล่า? ถ้าคุณมีพฤติกรรมอย่างนี้ หยุดซะ อย่าทำให้เรื่องที่ไม่มีอะไร...ให้เป็นเรื่อง และหึงโดยไม่จำเป็น คุณต้องควบคุมอารมณ์ ไม่ตัดสินอะไรจากสิ่งที่เห็น ค้นหาตัวตนที่แท้จริงผ่านการแสดงออกของเขา และจัดการ ?สิ่งที่ทำให้คุณหัวเสีย? อย่างความคิดในแง่ลบ และภาพต่างๆ ที่คุณสร้างขึ้นและเชื่อว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น ?ถ้าจับได้คาหนังคาเขาแล้วค่อยว่ากัน แต่อย่าหาเรื่องแฟนเพราะมิตรภาพที่เขามีกับคนอื่น?

รายงานการค้นคว้าใน Journal of Cyberpsychology, Behavior and Social Networking บอกเราว่า คนที่เล่นเฟซบุ๊กวันละหลายครั้ง มักบอกเล่าความรู้สึกผ่านโซเชียลมีเดีย เรื่องที่โพสส่วนใหญ่มักหนีไม่พ้นปัญหาการ นอกใจ เลิกรา หรือหย่าร้าง?คุณทำได้ แต่ไม่ใช่ตอนกำลังโกรธ ระมัดระวังการกระทำของตนเองไว้บ้าง

กฎข้อที่ 3 ?อย่าเล่นเฟซบุ๊กตอนอารมณ์เหวี่ยง เพราะคุณอาจตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรง? ถ้าเพิ่งทะเลาะกับแฟน หรือ โดนเจ้านายด่ามาหยกๆ การประจานคนรัก ด่านาย หรือ ปล่อยให้ตัวเองระบายความรู้สึก พูดอะไรไม่คิดให้คนเป็นร้อยเป็นพันอ่าน จะทำให้คุณต้องเสียใจในภายหลัง ?ลองนึกภาพว่ามีคนแอบก๊อปปี้สิ่งที่คุณเขียนในเฟซบุ๊กไปประจานที่อื่นสิ? ดังนั้น อย่าทำอะไรโง่ๆ ด้วยการโพสต์ระบายอารมณ์ในที่สาธารณะ ตอนที่คุณกำลังหัวเสีย...มันง่ายมากที่เฟซบุ๊กจะทำให้คุณรู้สึกแย่ลงไปอีก หากบังเอิญคุณไปเห็นรูปสมัยเก่าของแฟนกับคนรักสมัยโบราณของเขา ทั้งๆ ที่เขาที่เลิกกันไปนานแล้ว ถ้าต้องทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้คุณจะดูเป็นอย่างไรในสายตาคนรัก? อดใจไว้ก่อน ปิดคอมพ์ หรือ มือถือ รอ ?สติ? มาแล้วค่อยว่ากันใหม่ กฎข้อที่

4 ?เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าจะเป็นเพื่อนกับคนรักเก่า? รายงานการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิสซูรี่เผยว่า ?ผู้ใช้เฟซบุ๊กมักติดต่อ หรือ รื้อฟื้นความสัมพันธ์กับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นๆ เช่น กิ๊ก หรือคนรักเก่าที่นำไปสู่การนอกใจ ทั้งทางอารมณ์และทางกายได้? ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าในเฟซบุ๊กก่อนจะเจอเขา หรือหลังจากคบกับเขาแล้วก็ตาม จำไว้ว่า นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้ความสัมพันธ์แตกร้าวมากที่สุดจากการเล่นเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้คุณติดต่อกับคนรักเก่าหรือกิ๊กทั้งหลายได้ และคุณอาจเผลอใจเข้าสักวัน ตกลงกับแฟนคุณให้ดีว่าทั้งคู่จะทำอย่างไรกับบรรดาแฟนเก่า และหาเหตุผลดีๆ ที่ไม่ใช่อารมณ์ตอบตัวเองว่า ?ทำไมต้องเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า?? เพราะคุณก็มีคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้วนี่ กฎข้อที่

5 ?โชว์หวานบ้างเล็กๆ น้อยๆ ในโลกออนไลน์ดีต่อความสัมพันธ์? โซเชียลมีเดียไม่ได้มีแต่ข้อเสีย คู่รักที่โพสต์รูปหวานๆ หรือขึ้นโพรไฟล์เป็นรูปคู่ แชร์สิ่งต่างๆ ร่วมกันกับแฟน มีแนวโน้มที่จะมีความสุขมากกว่า ?มันแสดงให้เห็นว่า แม้คุณจะเล่นเฟซบุ๊ก แต่ใช่ว่าจะทอดทิ้งไม่ดูดำดูดีคนรักไปเลย คุณต้องให้ความสำคัญกับเขาด้วย? ดังนั้น ถ้าอยากโพสต์ข้อความหน้าวอลล์แฟน หรือ tag ชื่อเขาในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณทำได้เลย...แต่อย่าให้มันโอเวอร์จนคนหมั่นไส้