เพ้อเจ้อ..

อ่าน 9,027

อยากรู้ว่าเขาคิดยังไง...เราเจอกันครั้งแรกที่ทำงาน เขาอายุมากกว่า และทำงานนี้มาก่อนเราจะเข้ามา ตอนแรกมันก็ห่างๆ แบบแค่คนรู้จัก จนผ่านไปเมื่อเราได้เจอกันบ่อยๆ พักหลังๆ เราเริ่มรู้จักนิสัยเขาบ้างนิดว่าเป็นคนยังไง (ตอนนั้นเขามีแฟนอยู่)-นิสัยภายนอก : พูดตรงมากติดจะปากเสียด้วย กวนประสาทเพื่อนร่วมงานเสมอๆ ทัศนคติขัดแย้งกับคนอื่นๆตลอด ประมาณแหวกแนว ดูเหมือนปากแข็งไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ ไม่อ่อนข้อ นิสัยใจคอลึกๆ เดาไม่ออกเลย ดูยากมากว่าแท้จริงเป็นคนยังไงกันแน่

-จุดที่ความรู้สึกแย่กับเขามากๆ จนเกือบจะเกลียด : ตอนนั้นเราบังเอิญเปิดประตูไปเจอเขาแล้วแตะมือไปบนหลังเขาเบาๆ กำลังจะเรียกชื่อ เขาหันกลับมาตวาดด้วยคำพูดว่า "อย่ามาจับ!!" เราสะดุ้งเฮือกตกใจที่ทำให้เขาโกรธมากขนาดนั้น งงไปหมด ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิด หน้าชาเพราะมีคนอื่นอยู่อีก1 คนที่เห็นเหตุการณ์ เขามองมาแวบนึงด้วยสายตาแข็งกระด้างแล้วก็เดินออกไปทันที เย็นชาสุดๆ จากนั้นเราก็ไม่กล้ายุ่งกับเขาอีกเลย ไม่มีเขาอยู่ในสายตาอีก เพราะคิดว่าเขาคงรังเกียจ...

หลังจากนั้นเราก็ดำเนินชีวิตต่อไป จนเราได้ยินข่าวมาว่าเขาเลิกกับแฟน เราก็ไม่ได้ใส่ใจ ตอนหลังๆนั้น เขาเข้ามาชวนคุยบ่อยๆ เราก็คุยปกติ ยังไม่คิดอะไร

-จุดที่เราเริ่มหวั่นไหว : เจอบ่อย คุยกันบ่อย ระยะหลังใกล้ชิดกันจากการทำงานส่วนนึง พอใกล้ชิด เริ่มสนิทมากขึ้นเรื่อยๆ จนเรียกกูได้เหมือนเพื่อน (แต่เราไม่เคยมีเบอร์โทร ไลน์ เฟซบุ๊กกันเลยจนตอนนี้) เมื่อสนิทแบบเพื่อนคนนึงเราก็เริ่มขอความช่วยเหลือเวลามีเรื่องงานจำเป็น เขาก็ช่วยตลอด วนแบบนี้จนเราเริ่มหวั่นไหว เหมือนคนใจง่าย มันเริ่มรู้สึกดีจากตอนแรกที่เราค่อนข้างไปทางเกลียดด้วยซ้ำ เราเริ่มแยกไม่ออกว่าเขาจะใจดีหรือใจร้าย คำพูดที่ตวาดวันนั้นมันผุดขึ้นมาในสมอง แต่ความช่วยเหลือและความใจดีของเขาก็ลบมันได้มาจนวันนึง..เราขอความช่วยเหลือเขาอีกครั้ง และเราไปดึงแขนเสื้อเขาเบาๆ เขาก็ตวาดอีกครั้ง "อย่ามาดึง" น้ำเสียงหงุดหงิดสุดๆ เราอึ้งภาพความคิดเหมือนเดจาวู ครั้งที่สอง เราเกือบร้องไห้ มองตอบเขาด้วยความไม่เข้าใจ ปวดใจ เขาหลุบตาต่ำแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า "ไม่ชอบให้ใครมาดึงเสื้อ เดี๋ยวเสื้อยับ" สายตาเขาเหมือนจะขอโทษ เหมือนไม่ตั้งใจจะดุ เราแสร้งยิ้มขำจริงๆ ตลกไม่ออก ก็เลยรีบเปลี่ยนสีหน้าเก็บความรู้สึกมากมายไว้ แล้วเขาก็ตามมาช่วยทำงานดำเนินไปด้วยดี ในใจเราได้แต่คิดว่า ยังดีที่เค้าอุตส่าห์มาช่วยจนงานเสร็จได้ ทั้งที่เหมือนจะรำคาญ เหมือนไม่อยากให้ยุ่ง แต่ก็ยอมช่วยแถมยังพูดด้วยดีๆ เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น อยู่ๆ ก็อ่อนลง หลังจากนั้นทั้งวันเราก็ไม่ได้ยิ้มอีกเลย และเราเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่ขอความช่วยเหลือ พยายามไม่วุ่นวายให้เขารำคาญอีก แต่...มันก็ไม่ได้จบแค่นั้น วันต่อๆมา เรายังต้องเจอกัน เขายังคงเป็นปกติ แต่ความรู้สึกเราเปลี่ยนไปแล้ว เราเสียใจ น้อยใจ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมความรู้สึกมันเหมือนชอบเขาเลย เราเองที่เป็นฝ่ายมองเขาตอนที่เขาไม่รู้ตัว เราพยายามตีตัวออกห่างเท่าไร เขาก็ยิ่งเข้ามาอยู่ในสายตา พยายามหลบแต่เขากลับจ้องมองได้โดยไม่หลบตา เราเองที่หลบตาก่อนเสมอ เขากวนเราบ่อยขึ้น เรียกความสนใจกลับไปอีกครั้ง ไม่ขอความช่วยเหลือเรื่องงานแต่เขาเองกลับเสนอตัวมาช่วย มาถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม โน่นนี่นั่น พอไม่สนใจเขา เขาก็เข้ามาคุยด้วยประมาณว่า "พักนี้ไม่ได้กวนไอ้...เลย" (เขาเรียกเราไอ้...ต่อด้วยชื่อเรา) แล้วยิ้ม ช่วงนี้เราจะเห็นเขาอยู่ในสายตาตลอด พอคิดถึงก็จะได้เห็น พูดล้อเลียนเรา จนเราเคยเผลอบิดแขนเขาไปด้วยความโมโห แต่ครั้งนี้เขายิ้มแล้วไม่ได้ตวาดเหมือนสองครั้งที่ผ่านมานั้น แถมเขายังพูดถึงอีก มันทำให้เราหน้าร้อนผ่าว หวั่นไหวมาก เคยบังเอิญจับมือโดยไม่ตั้งใจ และเคยเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปเวลาเราอยู่กับเพื่อนผู้ชายคนอื่น สายตาที่แข็งกระด้าง เย็นชาเราคงคิดไปเองว่าเขาไม่พอใจ เราดูไม่ออกจริงๆ ทุกวันนี้เรายังคุยกันปกติ และเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนเราอยากรู้ว่าเขาคิดยังไงกันแน่ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเราแสดงอาการอะไรออกไปไหม แต่ที่รู้ใจเราคิดไปไกล เราชอบเขาและเราอาจจะคิดไปเองว่าเขาก็ชอบเรา

ทุกวันที่เจอควรทำยังไง ควรหยุดความคิดดีใช่ไหม (คิดจนไม่หลับนอน)



บทความแนะนำ


หมาพันทางข่าวล่าสุดแม่เสียบุษกรผู้หญิงความสวยความงามบุษกรหน่อยหน่อยหมาขี้เหร่แห่งปีทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก