ความรักความสัมพันธ์ 5 ตัวช่วยกระชับความสัมพันธ์ ให้คู่รักมีความสุขมากขึ้น
ขึ้นชื่อว่าความรัก
เป็นธรรมดาที่ต้องมีวันฟ้าหม่น จนน้ำต้มผักรสขมเกินจะกลืน
แต่ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่กำลังมีประสบการณ์กับอารมณ์รักที่สามวันดีสี่วันไข้
หรืออาจจะกำลังป่วยหนักใกล้เข้า ICU เกือบทุกวัน
ลองมาทำความรู้จักกับตัวช่วยชั้นดีที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้คุณกับคนรักกลับมามีความสุขดังเดิม
สัตว์เลี้ยง
มีงานวิจัยในสหรัฐฯ
ที่ทำการศึกษาคู่รักจำนวน 240 คู่ พบว่ามีคู่รัก 120
คู่รักที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง
และพบว่าคนกลุ่มนี้มีระดับการเต้นของหัวใจ และความดัน
ต่ำกว่ากลุ่มคู่รักที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง ซึ่งส่งผลให้พวกเขาเป็นคนใจเย็น
มักใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ แถมยังพบว่าคู่รักกลุ่มนี้มักมีกิจกรรมต่างๆ
ร่วมกันมากกว่าคู่รักที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงด้วย
เสียงดนตรี
เสียงดนตรีนั้นช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนหน้า
ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้รับความรู้สึกมีความสุขหรือพึงพอใจ
เช่นเดียวกับที่ถูกกระตุ้นด้วยอาหารและการมีเพศสัมพันธ์
ซึ่งจากการทดลองเปิดเพลงคลอขณะทำการผ่าตัดตาให้กับผู้ป่วยกลุ่มหนึ่ง
พบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอัตราการเต้นของหัวใจและระดับความดันเลือดลดลง
กลิ่นหอม
ผลการวิจัยหลายฉบับพบว่า
กลิ่นหอมจากดอกไม้หรือกลิ่นปรุงแต่งสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้จริง
และการใช้กลิ่นที่ถูกใจทั้งผู้ฉีดและผู้ดม
สามารถปลุกความรู้สึกรักใคร่ในตัวคนทั้งสองได้อีกด้วย
เสียงหัวเราะ
ไม่เพียงจะช่วยลดความเครียด
และเพิ่มระดับฮอร์โมนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ให้ผู้เข้าร่วมทดลองชาย 8 คนจาก
16 คน ดูวิดีโอที่ผู้คนได้ลงความเห็นว่ามีเนื้อหาที่สนุกสนาน
ผลปรากฏว่าระดับฮอร์โมนความเครียดลดต่ำลง
และมีการหลั่งสารเอ็นโดรฟินมากขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์
ทั้งยังมีปริมาณโกรทฮอร์โมน
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ชี้บ่งถึงสุขภาพและภูมิต้านทาน สูงขึ้นถึง 87
เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นคู่รักที่หัวเราะร่วมกันอยู่บ่อยๆ
นอกจากจะมีความสุขในการใช้ชีวิตแล้ว
ยังแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันได้ดีอีกด้วย
เพื่อนฝูงที่เป็นมิตร
ถึงหลายๆ
คู่จะต้องการให้คนรักอยู่กับตัวเองตลอดเวลา แต่มีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า
ผู้ที่มีมิตรสหายมาก หรือผู้ที่สนิทสนมกับญาติสนิท มิตรสหาย
และคนในครอบครัวเป็นอย่างดี จะมีระดับความดันเลือด ระดับน้ำตาล
ระดับคอเรสเตอรอล และระดับฮอร์โมนคอติซอล
หรือฮอร์โมนความเครียดต่ำกว่าผู้ที่มีเพื่อนน้อยเพียงกลุ่มเล็กๆ
ที่พบว่าคนกลุ่มหลังมักมีความรู้สึกโดดเดี่ยว หดหู่
มีโอกาสที่จะป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูง
และส่วนใหญ่ความรู้สึกเหล่านั้นมักแสดงออกมาจนทำให้คนรอบข้างมีความรู้สึกแบบเดียวกันตามไปด้วย